รบ.เดินหน้าปราบยาเสพติด มุ่งเป้ารายใหญ่ ไม่ให้กระจายต่อ

รัฐสภา  8 ก.พ. – นายกฯ รับ ตกใจยาเสพติดแพร่หลายขายตามสี่แยก สั่งด่วนให้ตำรวจเร่งปราบ ชี้มุ่งเป้ารายใหญ่เพื่อไม่ให้กระจายต่อ ระบุนอกจากยาบ้า ยาไอซ์ ปัจจุบัน 4 คูณ 100 และบุหรี่ไฟฟ้า ก็น่าห่วง ย้ำจับมือเพื่อนบ้านแก้ปัญหา PM 2.5


นายโสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 3 เรื่องสำคัญ คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยหากเปรียบกับผู้ป่วย คืออยู่ในขั้นโคม่า ดังนั้นต้องปฏิรูปทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งหมด เพราะแม้สถิติการแก้ไขจะลด แต่สวนทางกับความเป็นจริง หากมองให้ลึกลงไป จากปกติปัญหายาเสพติดเกิดกับผู้ใช้แรงงาน แต่ปัจจุบันกลับพบไปถึงนักเรียน นอกจากยาบ้า ยาไอซ์ โดยเฉพาะขณะนี้การนำกระท่อมมาทำเป็นสูตรที่เรียกว่า 4 คูณ 100 กำลังเป็นแฟชั่น กับ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งยาเสพติดมีหลายประเภท หาง่าย ราคาถูก การแก้ไขไม่จริงจัง จนเป็นปัญหาสังคม ขณะที่กฎหมายก็ไม่เอื้อต่อผู้ปฏิบัติ จับแล้วก็ปล่อย จึงมองว่าปัญหายาเสพติดในขณะนี้อาจจะเป็นวิกฤต เท่ากับวิกฤตเศรษฐกิจหรือการศึกษา รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ในระยะสั้นและระยะยาว และจากการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศ จะมีแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร โดยเฉพาะการแชร์นักท่องเที่ยวจากเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ไปสร้างรายได้ให้กับจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นเมืองรอง

โดยนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ประเด็นยาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนห่วงใย เพราะจากตัวเลขการจับกุม 4 เดือนสุดท้ายเมื่อปลายปี 2566 สามารถจับผู้ค้ารายย่อยเพิ่มมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 32,000 เคส ยาบ้าจับได้มากกว่าปีก่อน 2 เท่า คือ กว่า 250 ล้านเม็ด โดยเน้นจับผู้ค้ารายใหญ่ไม่ให้ไปกระจายต่อ ซึ่งรายใหญ่ที่ขายมากกว่า 500,000 เม็ดขึ้นไป จับได้ 62 เคส ยึดทรัพย์แล้วกว่า 2,500 ล้านบาท


“หากพูดถึงปัญหาจริง ก็ต้องยอมรับว่าตัวเลขเหล่านี้ยังไม่ได้เป็นที่น่าสบายใจ เพราะแม้ผู้ค้ารายใหญ่จะถูกจับไป แต่ไม่ได้ส่งผลให้ราคายาบ้าแพงขึ้น จึงเป็นการบ้านของรัฐบาลที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ต้องยอมรับรากเหง้าของปัญหามาจากเศรษฐกิจ การที่ประชาชนประสบปัญหารายจ่ายสูง รายได้น้อย อาจหมดหวังมาหลายปี รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะตระหนักปัญหาที่เกิดขึ้น” นายเศราฐา กล่าว

ส่วนเรื่องยาเสพติดที่จับได้แล้วใช้เวลานานในการทำลายนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะจับและพิสูจน์ทราบ และเก็บตัวอย่างเล็กๆ ไว้ ส่วนที่เหลือให้ทำลายล้างโดยเร็ว เพื่อตัดปัญหาที่สังคมสงสัยว่าอาจมีการรั่วไหล ขณะที่เรื่องน้ำกระท่อม ถือว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ที่วัยรุ่นให้ความสำคัญ และแพร่กระจายไปเร็ว

“ยอมรับว่า ไม่เคยทราบว่ามีการจำหน่ายอย่างแพร่หลายตามสี่แยก จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพูดคุย เพื่อให้ดำเนินการกวาดล้างอย่างรวดเร็ว ร่วมกับฝ่ายปกครอง จนสามารถดำเนินการได้ภายใน 1 สัปดาห์ ที่จังหวัดอุบลราชธานี หลังได้พบกับ สส.ในจังหวัด พร้อมกันนี้ยังพยายามกระจายให้ดำเนินการต่อในจังหวัดอื่นๆ ด้วย ย้ำว่า หาก สส.ในพื้นที่มีปัญหา ขอให้แจ้งรัฐบาลเพื่อจัดการอย่างทันควัน” นายเศรษฐา กล่าว


นายกรัฐมนตรี มองว่า ปัญหายาเสพติดโยงไปถึงประเทศเพื่อบ้านด้วย เพราะต้องยอมรับว่า ประเทศที่มีปัญหาภายในอย่างมาก คือ ประเทศเมียนมา ที่มีพรมแดนติดต่อกัน 2,500 กม. ไทยจึงได้รับมอบหมายจากประเทศอาเซียน ที่จะเข้าไปเจรจากับฝ่ายเมียนมา จึงเป็นเรื่องน่ายินดี ที่สัปดาห์ที่ผ่านมา มหาอำนาจ 2 ประเทศ ส่งผู้นำมาเจรจาพูดคุยในหลายๆ ปัญหา ตนเองก็ได้เจรจาพูดคุยเรื่องปัญหาที่ส่งผลกับประเทศไทย ทั้งปัญหายาเสพติดที่ทะลักเข้ามาตามแนวชายแดน และต้องขอขอบคุณกองทัพไทยและความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง สส.พื้นที่ และกองทัพบก โดยแม่ทัพภาคที่ 3 กำจัดออเดอร์ได้อย่างมาก ซึ่งการที่ประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหาภายใน เรื่องเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ง่ายสุดคือผลิตยาแล้วส่งกลับมาขายกับเรา เราก็ไม่ยอม และพยายามพูดคุยและชี้แจงให้มหาอำนาจทั้ง 2 ประเทศเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ประเทศไทยมีส่วนได้เสียเป็นอย่างมาก ส่วนในอนาคตต้องสกัดการเข้ามาตามแนวชายแดนต่อไป เพราะปัจจุบันทางภาคเหนือทำได้ดี แต่ไปเจอที่ภาคกลาง เช่น กาญจนบุรีที่พบปัญหา จึงต้องสู้กันไป สำหรับการบำบัดคืนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ก็เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งจะเรียกรัฐมนตรีสาธารณสุข มาหารือบ่ายนี้

ส่วนเรื่องของฝุ่นละออง PM 2.5  ก็เป็นปัญหาที่มีรากเหง้าจากปัญหาเศรษฐกิจ ยังมีการเผาทำลายวัชพืชด้วยการใช้ไม้ขีดเพียงก้านเดียว ดังนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องสร้างองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ ควบคู่กับการผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด

“จะเห็นได้ว่า จุดความร้อนที่เกิดขึ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่าลดลงอย่างมีนัย แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจจะยังเข้าใจการแก้ปัญหาน้อยหรือขาดปัจจัยบางอย่าง แต่เมื่อวานนี้ก็ได้มีการหารือกับผู้นำของกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าจะร่วมมือกันแก้ปัญหาเรื่องนี้” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ตนได้สั่งการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หากเกษตรกรยังใช้วิธีการเผาอยู่ อาจจะมีการใช้บังคับกฎหมายโดยกระทรวงมหาดไทย หรือตัดความช่วยเหลือจากรัฐบาล

ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ลงทุนมากในการออกนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีมาก ไม่ใช่แค่ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน หรือกรุงเทพฯ อย่างเดียว แต่เมืองรองก็ถือเป็นส่วนสำคัญ รัฐบาลอยากสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวกระจายตัวไปเมืองรอง เพื่อเป็นการกระจายรายได้ ผ่านทางซอฟต์พาวเวอร์ด้วยการจัดเทศกาลต่างๆ ทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะไฮซีซั่นเท่านั้น 

“แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของนโยบายอย่างเดียวก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเมืองรองได้ การคมนาคมที่สะดวกสบายก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งรัฐบาลมีแผนที่จะอัพเกรดสนามบินทั่วประเทศ เพื่อให้การเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและต่างประเทศ สามารถเดินทางเข้าสู่เมืองรองได้” นายเศรษฐา กล่าว

ขณะเดียวกัน เราก็ได้มีการประสานพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะเราไม่ได้มองเพื่อนบ้านเป็นคู่แข่ง แต่จะมาช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกัน จึงมั่นใจว่าสิ่งนี้จะพัฒนาเมืองรอง สามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวได้แน่นอน และวันที่ 1 มีนาคมนี้ ก็จะมีการเปิดวีซ่าฟรีกับจีน อีกทั้งอยู่ระหว่างการดำเนินการประสานพูดคุย เรื่องขอฟรีวีซ่าเชงเก้นเข้ายุโรป

นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดใหญ่เพียงอย่างเดียว เพราะตนเองก็ได้เดินทางไปทั่วประเทศไทย เข้าใจถึงวัฒนธรรม และสิ่งดีๆ ที่เมืองรองสามารถนำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวได้ โดยปลายเดือนนี้ก็จะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูเรื่องของวัฒนธรรม อาหารการกิน มีอะไรบ้างที่รัฐบาลสามารถสนับสนุนสร้างโอกาสพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ แต่ทั้งหมดยังเป็นยังมีการบ้านที่ต้องทำต่อ เพื่อปรับปรุงให้ดีที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]

ฝนตกหนักบางแห่ง กลางตอนล่าง-ตะวันออก-ใต้

กทม. 7 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย […]

รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ย้ำจุดยืน 4 ข้อ ชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 7 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ย้ำจุดยืน 4 ข้อ ชายแดนไทย-กัมพูชา ไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย พร้อมหนุนกองทัพทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง ยืนยันให้การประชุม JBC เป็นเวทีหาทางออกโดยสันติวิธี และขอให้ทั้งสองฝ่ายปรับกำลังกลับสู่ที่ตั้งเดิม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ระบุเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ผมได้หารือร่วมกับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ณ พื้นที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ภายหลังจากการหารือ มีข้อมูลบางประการที่เผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนจากเนื้อหาที่ได้หารือกันในที่ประชุม เป็นที่น่าเสียดายที่ข้อเสนอที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การลดการเผชิญหน้าและสันติภาพถูกปฏิเสธ ยิ่งไปกว่านั้น กลับมีการเพิ่มกำลังทางการทหารที่ยิ่งเพิ่มความตึงเครียด ทั้งนี้ ทางเราเองจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการและเสริมกำลังด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผมขอเน้นย้ำจุดยืน ตามที่ได้หารือกับท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น และพร้อมปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างสุดกำลัง 2.ผมขอยืนยันสนับสนุนกองทัพให้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง และให้กำลังใจแก่กำลังพลทุกนาย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย ขอย้ำว่า ทุกการดำเนินการของฝ่ายไทยจะคำนึงถึงชีวิต ความปลอดภัย ความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน […]

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]