รัฐสภา 8 ก.พ. -“ชวน” ห่วงอุเทนถวายถูกย้ายที่เรียน ขณะนายกฯ แจงรัฐบาลให้ความสำคัญการศึกษา พร้อมเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้ง 2 สถาบัน ระยะยาวต้องปรับวัฒนธรรม-ความเชื่อ ต้นเหตุตีกัน ส่วน “ศุภมาส” เร่งหาที่ใหม่เพราะต้องย้ายตามคำสั่งศาล ยันไม่ได้งดรับนักศึกษาปี 1 แค่ย้ายที่เรียน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นตอบกระทู้ถามสดของนายชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับนโยบายการแก้ปัญหาระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน หลังมีคำสั่งงดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้สามารถรับนักศึกษาได้ แต่ส่งไปศึกษาที่วิทยาเขตอื่น เช่น วิทยาเขตจันทบุรี ทำให้เกิดคำถามว่านักศึกษาชั้นปีที่ 2 ขึ้นไปจะต้องย้ายไปหรือไม่ และต้องไปอยู่ที่วิทยาเขตไหน และได้เตรียมสถานที่แห่งใหม่ให้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายแล้วหรือยัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นพ่อของคน พอเห็นข่าวเด็กนักเรียนตีกันก็สะเทือนใจ รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ปัญหานี้ และตระหนักดีว่าสมัยนายชวน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับ 2 สถาบันดังกล่าว ซึ่งมีเกียรติ มีอายุยาวนาน ผลิตบัณฑิตที่ตรงกับสายงานที่มีความต้องการของตลาดแรงงาน มาหลาย 10 ปี เป็นจำนวนหลายแสนคน
“ขอสนับสนุนหลักการของ 2 สถาบันศึกษานี้ ซึ่งเป็นสถาบันที่ให้ประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งตอนที่ผมไปหานักลงทุนต่างประเทศ เรื่องของการผลิตบุคคลากรช่าง ก็ยังเป็นเรื่องที่ประเทศเราต้องการอีกมาก ซึ่งนักลงทุนข้ามชาติจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกที่เราดึงดูดให้มาลงทุน ให้ความสนใจ ถ้าไม่มี 2 สถาบันนี้ ก็จะไม่มีแรงงานที่ตรงกับสายงาน เพราะบริษัทข้ามชาติใหญ่ ๆ ต้องการแรงงานที่ตรงกับสายงาน ดังนั้น ทั้ง 2 สถาบันการศึกษานี้ถือว่าเป็นกลไกสำคัญ รัฐบาลยืนยันว่าจะให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่เรื้อรังมานาน ซึ่งเกิดมาจากปัญหาที่มีระยะทางที่ใกล้กัน ซึ่งเราพยายามจะย้ายโดยรัฐมนตรีช่วยคุยกับกรมธนารักษ์ เพื่อหาพื้นที่ที่จะย้ายออกไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว
“ส่วนเรื่องที่ตีกันให้จัดเก็บข้อมูลกรณีที่ทะเลาะวิวาทกันในอนาคต ตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุ เฝ้าระวังและระงับเหตุได้ในสถาบัน ซึ่งได้กำชับทางฝ่ายความมั่นคงและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่มีความใกล้เคียงกับสถาบันนี้ให้ดูแลเป็นพิเศษโดยเฉพาะวันที่เราเข้าใจว่าจะทะเลาะเบาะแว้งกัน อย่างไรก็ตามมาตรการเหล่านี้เป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยเหลือหรือป้องกันเท่านั้น แต่ไม่ได้แก้ที่วัฒนธรรมซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ความเชื่อของนักศึกษาที่มีความเชื่อสืบต่อกันมา ซึ่งขอยืนยันว่าเป็นค่านิยมที่ผิดไม่ถูกต้อง จึงต้องตัดปัญหาด้วยการย้ายไปยังสถานที่อื่น ซึ่งจะลดการกระทบกระทั่งระหว่างนักศึกษาสองสถาบันนี้ ควบคู่กับการปรับค่านิยม ลดการกระทบกระทั่งระหว่างรุ่นพี่ที่เป็นแกนนำ ตัดวงจรการสืบทอดวัฒนธรรมที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง ส่วนเรื่องงดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เข้าใจว่าเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน ซึ่งจะมอบหมายให้รัฐมนตรีฯ เป็นผู้ชี้แจง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณนายชวนที่กรุณาย้ำเรื่องการให้ความสำคัญการศึกษาไทย ซึ่งเป็นการสะกิดใจว่า ไม่ใช่แค่กระทรวงอว.อย่างเดียว ทั้วคณะรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา ซึ่งต้องให้กระทรวงการคลังที่จะเป็นคนช่วยสนับสนุน ต้องคำนึงถึงรากฐานแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกัน
“ผมเข้าใจความจำเป็นเรื่องการศึกษา และสำนึกตลอดเวลาว่าบางคนโชคดี เช่น ลูกของผมที่ได้เรียนต่อในโรงเรียนดี มีชื่อเสียงระดับโลก เราไม่เคยลืมตรงนี้ และต้องให้ความสำคัญกับชีวิตหลังการศึกษาด้วย และมีหน้าที่ การงานที่เหมาะสม ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร แม้จะอยู่ต่างจังหวัดจะเรียนที่วัดหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม ยืนยันว่า รัฐบาลต้องการยกระดับการศึกษาและจะพยายามจัดหาสถานที่เรียนอย่างเหมาะสม ที่ผู้ดูแลโดยกรมธนารักษ์ ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รับจะไปดูให้เป็นพิเศษขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะและข้อเตือนใจในทุกข้อ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ชี้แจงต่อว่า การย้ายอุเทนถวายเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ให้มหาวิทยาลัยราชมงคลฯ วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ายออก และคืนพื้นที่ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเรื่องถึงที่สุดแล้ว โดยทางกระทรวงอว.ให้ความสำคัญ และไม่ได้นิ่งนอนใจในการหาสถานที่แห่งใหม่ ส่วนการให้งดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะไม่ใช่ห้ามรับนักศึกษา แต่ให้ไปศึกษาที่วิทยาเขตอื่น ๆ แทน ซึ่งเป็นเรื่องที่สภามหาวิทยาลัยจะเสนอกลับมาในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
“ส่วนการหาสถานที่รองรับแห่งใหม่ ขณะนี้มีข้อเสนอเข้ามาจำนวน 4 แห่ง ประกอบไปด้วย วิทยาเขตบางพระ วิทยาเขตจักรพงศ์ภูวนาถ รวมไปถึงพื้นที่ที่ดินของราชพัสดุ ที่จังหวัดสมุทรปราการ อีกทั้งยังมีพื้นที่ที่มีผู้บริจาค ในเขตมีนบุรี ซึ่งทางกระทรวง อว. มีการตั้งคณะทำงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ สำนักงบประมาณ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมธนารักษ์ รวมถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีตนเองเป็นประธาน ซึ่งก็จะพิจารณาพิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณในเรื่องของงบประมาณและการถ่ายโอนย้ายต่อไป” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอว. กล่าว.- 313.-สำนักข่าวไทย