fbpx

ป.ป.ช.เตรียมส่ง 8 ความเสี่ยงแจกดิจิทัลวอลเล็ต ให้รัฐบาล

สนามบินน้ำ  7 ก.พ. – “ป.ป.ช.” เตรียมส่งความเห็น  8 ความเสี่ยงแจกดิจิทัลวอลเล็ต ให้ รบ.ภายใน  2 วัน มอง เศรษฐกิจยังไม่วิกฤติ ชี้ไม่ควรกู้เงิน ควรแจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางเป็นเงินสด ​ยอมรับเป็นข้อเสนอไม่มีอำนาจยับยั้งโครงการ แนะ กกต.สอบนโยบายนี้ เข้าขายสัญญาว่าจะให้หรือไม่


นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.​ มีมติเห็นชอบส่งความเห็นผลการศึกษานโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แล้ว โดยประธาน ป.ป.ช. ได้ลงนาม และจะส่งให้รัฐบาลภายใน 1-2 วันนี้

โดยจากการศึกษาพบว่า มีประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา 4 ประเด็น คือ 1.เสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย และการทุจริตกลุ่มเป้าหมาย 2.มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ 3.เสี่ยงด้านกฎหมาย ทั้งรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง  พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ร.บ.เงินตรา และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงระเบียบที่เกี่ยวข้อง  และ 4.ในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่นเทคโนโลยีบล็อกเชน และประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายของพรรคการเมือง


นายนิวัติไชย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ กรรมการ ป.ป.ช. ได้ประชุมและมีมติเห็นควรเสนอข้อเสนอแนะ เพื่อป้องกันการทุจริตจากนโยบายดังกล่าวต่อ ครม.เพื่อพิจารณาหาทางป้องกันไม่เกิดความเสียหาย จำนวน 8 ประเด็น  คือ 1.รัฐบาลควรศึกษาวิเคราะห์การดำเนินโครงการอย่างเป็นรูปธรรม  ว่าผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ จะไม่ตกแก่พรรการเมือง นักการเมือง หรือเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่

2.ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ  กกต. ศึกษา เรื่องการหาเสียงของเพื่อไทยและคำแถลงนโยบายเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ มิฉะนั้นจะเป็นบรรทัดฐาน สำหรับพรรคการเมืองที่หาเสียงไว้  เมื่อได้รับเลือกตั้ง ไม่จำเป็นต้องปฎิบัติตามที่ได้หาเสียงไว้

3. ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าและผลกระทบทางเศรษฐกิจในอนาคต และหลักธรรมาภิบาล 4 ด้าน คือ ความโปร่งใส การถ่วงดุล การรักษาความมั่นคงของระบบการคลัง  และความคล่องตัว  พิจารณาผลดีผลเสียการกู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่จะสร้างภาระหนี้ในระยะยาว ซึ่งจะต้องตั้งงบประมาณในการชำระหนี้จำนวนนี้เป็นระยะเวลา 4-5 ปี กระทบตัวเลขการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ


4.ควรพิจารณาประเด็นความเสี่ยงด้านกฎหมายอย่างรอบด้าน เพื่อให้การดำเนินการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นไปตามกฎหมาย

5. ควรประเมินความเสี่ยงในการดำเนินโครงการ โดยกำหนดแนวทางหรือมาตรการในการบริหารความเสี่ยงและการป้องกันการทุจริต และมีกระบวนการในการตรวจสอบ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังดำเนินโครงการ เพื่อให้เป็นไปผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง

6.การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้  ควรพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาะสม ตลอดจนระยะเวลาและงบประมาณที่ใช้พัฒนาระบบ ของการจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว โดยให้ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน

7. จากข้อมูลทางเศรษฐกิจของหน่วยงานต่างๆ ที่ได้จากการศึกษา มีความเห็นตรงกัน ว่าในช่วงเวลาที่ศึกษาอัตราความเจริญเติบโตของไทย ยังไม่ถึงขั้นประสบภาวะวิกฤต เพียงแต่ชะลอตัวเท่านั้น ดังนั้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน รัฐบาลควรพิจารณาให้ความสำคัญต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ

 และ 8. หากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือประชาชน ควรเลือกช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เท่านั้น  โดยแจกจากแหล่งงบประมาณปกติ ไม่ใช่เงินกู้ตามพระราชบัญญัติเงินกู้ และจ่ายในรูปแบบเงินบาทปกติในอัตราที่เหมาะสม  ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังที่มีประสิทธิภาพและมีฐานข้อมูลครบถ้วน สามารถทำได้รวดเร็ว ซี่งหากใช้แหล่งเงินงบประมาณปกติ จะลดความเสี่ยงที่จะขัดต่อกฎหมายต่างๆ และที่สำคัญไม่สร้างภาระหนี้สาธารณะของประเทศในระยะยาว

ส่วนที่เสนอแนะ กกต.ให้ตรวจสอบนโยบาย ว่าถือเป็นการสัญญาว่าจะให้หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า อยากให้ กกต.ไปตรวจสอบว่าการที่ให้นโยบายไว้อย่างนึง แต่พอได้เข้ามาบริหารประเทศได้ดำเนินนโยบายตามที่หาเสียงไว้หรือไม่  มีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของที่มาของแหล่งเงิน แต่น่าจะต้องดูภาพรวมทั้งหมด สิ่งสำคัญคืออยากให้ทุกพรรคการเมืองคำนึงถึงการหาเสียง ควรจะพิจารณาให้รอบคอบก่อน ว่าพอมาบริหารประเทศแล้ว จะสามารถทำได้หรือไม่ มิเช่นนั้นจะเหมือนโฆษณาไว้ แต่เวลาซื้อจริงไม่ตรงตามโฆษณา ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะ ไม่ได้มีสภาพบังคับให้ กกต.ต้องดำเนินการ

ส่วนที่ กกต.เคย ตีตกคำร้องเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตมาแล้ว 1 ครั้งตอนหาเสียงเลือกตั้ง ว่าไม่ได้เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ นายนิวัติไชย กล่าวว่า อาจจะเป็นดุลพินิจของ กกต. ในตอนนั้น เราไม่ก้าวล่วง แต่ข้อเสนอขอ ป.ป.ช.เราก็พิจารณาจากนโยบายที่รัฐบาลแถลงตอนนี้  โดยที่ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งเราก็เสนอแนะในรูปธรรม ยังไม่ได้บอกว่าจะเกิดการทุจริต

ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่ดำเนินการตามข้อเสนอ 8 ข้อ ของ ป.ป.ช.จะเสี่ยงทุจริตหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เราไม่ทราบว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร แต่ ป.ป.ช.มีหน้าที่เสนอแนะ ตามหน้าที่ในการป้องกัน  

“ไม่ใช่รอให้เกิดการทุจริตแล้วค่อยดำเนินการ พร้อมยืนยันว่าความเห็นของ ป.ป.ช. ไม่ใช่เรื่องมโน แต่เป็นความเห็นเชิงวิชาการ ไม่ใช่คิดเองเออเอง แต่เป็นความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายภาคส่วน”  นายนิวัติไชย กล่าว

ส่วนมีความเสี่ยงหรือไม่ หากรัฐบาลเดินหน้าโครงการตามแนวทางเดิม นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคตหากดำเนินการไปแล้ว สามารถชี้แจงต่อสาธารณชนได้ ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้น และไม่มีการเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล

เมื่อถามว่า ตอนนี้รัฐบาลมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจวิกฤต จึงต้องเดินหน้าโครงการนี้ นายนิวัติไชย กล่าวว่า สิ่งแรกที่เราต้องมองคือว่าประเทศไทยตอนนี้วิกฤติหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่นักวิชาการของ ป.ป.ช.มองว่ายังไม่วิกฤติ  เราจึงได้เสนอมุมมองนี้ให้กับรัฐบาล แต่หากรัฐบาลมีมุมมองและข้อมูล ว่าวิกฤตก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดำเนินโครงการ

เมื่อถามว่าหากมีการ ออก พ.ร.บ.กู้เงิน มาดำเนินโครงการ ใครจะเป็นคนชี้ว่าคุ้มค่าตามกฎหมายหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า คงเป็นรัฐบาล เมื่อดำเนินโครงการแล้วก็จะต้องรับผิดชอบ แต่ในการขับเคลื่อนรัฐบาลก็ต้องมีข้อมูลพอสมควรว่าใช้ Big Data จากที่ไหน

“หลังจากนี้ ป.ป.ช.ติดตามการอย่างใกล้ชิด เป็นแนวทางในการป้องกัน เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร แล้ว ป.ป.ช. ไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่า โครงการนี้ดีหรือไม่ดี รัฐบาลควรจะยุติโครงการนี้หรือเดินหน้าต่อ และยืนยัน ว่า ป.ป.ช.ไม่มีหน้าที่ไประงับยับยั้ง​โครงการ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ เว้นแต่กรณีที่มีความผิดเกิดขึ้น เกิดการทุจริตไปแล้ว ป.ป.ช.สามารถขอศาลให้มีสั่งยกเลิกโครงการ” นายนิวัติไชย กล่าว

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลยืนยันจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เข้าสู่สภาฯ ป.ป.ช.สามารถตรวจสอบเชิงรุกได้เลยหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เราก็ตรวจสอบเป็นระยะ แต่การที่กฎหมายจะผ่านสภาฯ ก็ต้องความผ่านความเห็นจากสมาชิก ซึ่งมาจากประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้องผ่าน ทั้งสส.และ สว. เขาอาจจะหยิบยกข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ไว้พิจารณาด้วย ทั้งนี้หากรัฐบาลเดินหน้าโดยไม่รับฟังข้อเสนอแนะ มีโอกาสจะซ้ำรอยเหมือนโครงการรับจำนำเข้าหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ไม่สามารถชิงที่จะวินิจฉัยก่อนได้ เป็นการลักไก่ไม่ถูกต้อง.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

ทหารอเมริกันยกพลเที่ยวเมืองพัทยาเงินสะพัด

พัทยาช่วงนี้คึกคัก เพราะทหารอเมริกันยกพลขึ้นบก บุกพัทยากว่า 6,000 คน ผู้ประกอบการยิ้มรับ คาดเงินสะพัดจำนวนมาก

จนท.นำหุ่นยนต์ 4 ขา ช่วยตรวจจับความร้อน

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย จ.ระยอง ก่อนที่ นายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนยังคงระดมกำลังหล่อเย็นพื้นที่โรงงาน ด้านตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำหุ่นยนต์โรบอท 4 ขา ช่วยตรวจจับสัญญาณความร้อน

“เศรษฐา” ลงพื้นที่สวนทุเรียน สั่งกรมชลแก้ปัญหาน้ำขาดแคลน

“เศรษฐา”ลงพื้นที่ สวนทุเรียน สั่งกรมชลประทานแก้ปัญหาน้ำขาดแคลน – หาพื้นที่เก็บตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอ – ทำ One Stop Service ก่อนชิมทุเรียนหลากหลายพันธุ์

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ