เชื่อคดีแฟลชม็อบ ไม่ทำ “พิธา” หลุดแคนดิเดตนายกฯ

รัฐสภา 6 ก.พ.-“พริษฐ์” เชื่อคำพิพากษาแฟลชม็อบ ไม่ทำ “พิธา” หลุดแคนดิเดตนายกฯ มองหากเห็นต่างยื่นตีความได้


นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงคำพิพากษาศาลแขวงปทุมวันคดีแฟลชม็อบปี 2562 โทษจำคุก 4 เดือน แต่รอลงอาญา 2 ปี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะทำให้นายพิธา ขาดคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ในตัวเนื้อหาสาระของคำพิพากษา นายพิธาหรือผู้ถูกฟ้องได้มีการเตรียมการยื่นอุทธรณ์ พร้อมตั้งข้อสังเกต ถึงการวัดรัศมี 150 เมตรในการจัดการชุมนุม ที่ใกล้กับวังสระปทุม และการต่อสู้เรื่องสัดส่วนโทษที่มีจำเป็นจะต้องถึงขั้นโทษจำคุก 4 เดือนหรือไม่

นายพริษฐ์ ชี้แจงเรื่องผลกระทบต่อสถานะทางการเมืองของนายพิธา ใน3 ประเด็น ว่า คือ 1.เมื่อยื่นอุทธรณ์นายพิธาจะยังไม่หลุดสถานะความเป็นสส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 และ 2.ในกระบวนการอุทธรณ์ สามารถนำไปสู่การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ก็จะทำให้ไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางการเมือง ในกรณีที่หากชนะคดีในชั้นอุทธรณ์ และ3.หากคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นมีโทษจำคุก ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าจะนำไปสู่การตัดสิทธิ์ทางการเมือง หรือการตัดสิทธิ์การเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีในอนาคต จะไม่เป็นเช่นนั้น โดยหยิบยกรัฐธรรมนูญมาตรา 160(7) ที่ระบุว่ารัฐมนตรี ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งบทบัญญัตินี้ไม่ได้หมายถึงคนที่”เคย”กระทำ และหยิบยกมาตรา98(6)และ(9) ที่หมายถึงหากขณะนั้นต้องคำพิพากษาอยู่ก็ไม่สามารถรับตำแหน่งได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ไม่ได้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต หากนายพิธาพ้นโทษ ก็ยังมีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ตามกฎหมาย


เมื่อถามว่า หากท้ายที่สุดนายพิธาต้องเข้าสู่กระบวนการแคนดิเดตนายกหรือรัฐมนตรีแล้วยังมีการตีความหมายมาตรา 160(7) ต่างกันจะต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นายพริษฐ์ ยังกล่าวย้ำว่า คำชี้แจงในข้อกฎหมายข้างต้น และยืนยันว่านายพิธายังคงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการหากมีใครยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรือง ประธานคณะก้าวหน้า ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีคำพิพากษาดังกล่าว ที่จะทำให้นายพิธาหลุดการเป็นแคนดิเดตนายก โดยตอบเพียงสั้นๆ ว่า ให้ไปถามนายพิธา.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย