รัฐสภา 6 ก.พ.-“จิรายุ” เผย พบต้นขั้ว สด.43 กรณีที่เป็นข่าว ยังอยู่ครบ 3 ใบ สัปดาห์หน้าเตรียมดำเนินคดี พร้อมเตือนปชช.อย่าหลงเชื่อหากใครเสนอใบสด.43 ให้ โดยไม่ต้องเกณฑ์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ กรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นและโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าวานนี้ (5ก.พ.) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการมาที่ตน ให้สืบหาข้อเท็จจริงเรื่องใบสด. 43 ที่กำลังเป็นประเด็นขณะนี้ ว่าเป็นของจริงของปลอม หรือถูกหลอกมาจากไหนอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร จึงอยากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า เมื่อมีผู้เสนอก็มีผู้ให้ ถ้าไม่มีผู้ให้ก็ไม่มีผู้เสนอ ดังนั้นกระบวนการความผิดที่เรียกกันว่าสามเหลี่ยมอาชญากรรมครบสมบูรณ์แล้ว
“อยากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า ไม่ว่าใครที่มาเสนอใบสด.43 ให้ ต้องดูต้นทางว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ไปเกณฑ์ทหารแล้วอยู่ดีๆ เขาเอาใบสด. 43 มาขายให้ ก็จะมีลักษณะคล้ายกับกรมการขนส่งทางบก ที่มีหน้าม้าเอาใบขับขี่เอามาขาย แล้วก็ไปเอาใบขับขี่ปลอมมาขาย จนกระทั่งไปโดนจับ ซึ่งตนได้คุยกับหน่วยงานในกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า ใบสด.43เป็นของจริงหรือของปลอมนั้น หากเป็นของปี 2543 เป็นต้นมา สามารถตรวจสอบใบได้ทันที เนื่องจากมีระบบออนไลน์แล้ว แต่ถ้านับถอยหลังปี 43 ไป ก็มีต้นขั้ว ดังนั้น ที่เป็นข่าวตนไม่อยากระบุ แต่ขอพูดในมุมกว้างๆ เมื่อไปตรวจสอบก็จะพบว่าต้นขั้ว 3 ต้นขั้วอยู่หรือไม่ ดังนั้นกรณีที่เป็นข่าวจะเห็นชัดเจนว่า ต้นขั้วทั้ง 3 ใบยังอยู่ที่กองทัพ ซึ่งปกติจะต้องหายไป 1 ใบ คือคนที่ถูกเกณฑ์จะต้องถืออีก 1 ใบ คือใบที่ 3 ดังนั้น กรณีต้นขั้วต่างๆ ตรวจสอบไม่ยาก สัปดาห์หน้าก็จะเข้าดำเนินการในเรื่องนี้ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดี ว่าเป็นของปลอม ของเท็จแบบไหนอย่างไร” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ ย้ำเตือนประชาชนว่าหากใครไม่ได้เข้าไปเกณฑ์ทหาร ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการเป็นทหารทันที หรือปีถัดไป กฎหมายเปิดไว้อย่างนั้น หรือตามมาตรา 33 เขียนไว้ชัด ว่ากรณีที่ไม่ไปเกณฑ์ทหารแล้วไปขึ้นศาล มีความจำเป็นสถานเดียวที่ต้องไปเข้ารับราชการเป็นทหารเกณฑ์ ดังนั้นกรณีที่มีใบสด. 43 มาออกทีหลัง ก็เป็นสาระสำคัญที่จะต้องมีการตรวจสอบ ส่วนที่มีการถามกันมากว่าใบสด. 43 มีความจำเป็นต้องพิมพ์ลายมือหัวแม่มือหรือไม่นั้น คณะกรรมการได้ติดตามตรวจสอบพบว่ามี 2 กรณี กรณีที่มีการจับใบดำ-ใบแดง คณะกรรมการจะให้ปั๊มนิ้วหัวแม่มือ หรือลายเซ็น ซึ่งเขียนไว้ชัดเจนว่าต้องมีลายเซ็นหรือลายนิ้วมือ ส่วนกรณี ที่ไปเกณฑ์แล้วคนเต็ม ก็จะต้องไปรับเอกสารเช่นเดียวกัน ซึ่งอันนี้ส่วนใหญ่ ก็ไปลงรายมือชื่อหรือ พิมพ์ลายนิ้วมือ แต่สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ เซ็นหรือ พิมพ์ลายนิ้วมือหรือไม่ แต่อยู่ที่ต้นขั้ว ฉะนั้นจริงหรือปลอม หรือว่าไปเกณฑ์ทหารมาจริงหรือไม่อย่างไรก็ชัดเจนตรงนี้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า ไม่ว่าใครมาเสนอขอเงิน เพื่อเลือกกับการไม่เกณฑ์ทหาร ก็ขอให้สันนิษฐานเอาไว้เลย ว่าจะได้รับใบสด. 43 ปลอมอย่างแน่นอน.-312.-สำนักข่าวไทย