ผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 ก.พ.- ปภส. ยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หลัง “ธนาธร” โผล่นั่ง กมธ.ถ่ายโอนกิจการกองทัพ ขัดคำวินิจฉัยห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่
กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) นำโดย นายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มฯ ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเอกพจน์ ถิรวณิชย์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบและปฏิบัติการเร่งด่วน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งเป็นบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่นที่เหมาะสม เป็นการกระทำที่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2563 ลงวันที่ 21 ก.พ 63 หรือไม่
นายทรงชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ 63 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 72 วรรคหนึ่ง (3) และวรรคสองประกอบมาตรา 72 เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 2 ม.ค 62 หรือ 11 เม.ย 62 ซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคเป็นเวลา 10 ปี โดยนายธนาธร เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่กลับพบว่าเมื่อวันที่ 25 ม.ค.นายปฏิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาญัตติของนางสาวเบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้าที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงการถ่ายโอนธุรกิจต่างๆของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาล ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทาประธานสภา ก็แจ้งว่าดูแล้วสมาชิกทุกคนเห็นตรงกันให้ตั้งกรรมาธิการ จึงเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดดังกล่าวมีจำนวน 25 คน โดยกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล มีนายธนาธรมาเป็นกรรมาธิการด้วย มีระยะเวลาการพิจารณา 90 วัน และนายธนาธร ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการนัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งตนเห็นว่าเมื่อนายธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครแล้ว ก็ไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในทางการเมืองอีก
“ผมจึงต้องใช้ช่องทางของผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการที่เขากระทำการเลี่ยงบาลีอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ เมื่อเทียบกับคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองคนอื่นๆ อย่างเช่น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถเข้ามาทำงานในทางการเมืองได้เลย แล้วทำไมนายธนาธร จึงทำได้หรือ เพราะเป็นนักการเมือง และถ้าเป็นผม ซึ่งเป็นประชาชนถ้าถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจะสามารถทำอย่างนั้นได้บ้างหรือไม่ จึงอยากให้ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องนี้ให้ชัดเจน” นายทรงชัย กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย