“พิมณัฏฐา” ชิงลาออกพรรค รทสช.

กทม. 30 ม.ค.-รทสช. ประชุมตั้งกรรมการขับ “เจ๋ง ดอกจิก-พิมณัฏฐา” ขณะเจ้าตัวชิงลาออกวันนี้ สั่งสังคายนาพรรคครั้งใหญ่ ไล่เช็คประวัติคณะทำงานรัฐมนตรี-กมธ. ชี้เป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวการเมืองเล่นงานพรรค

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงภายหลังประชุม สส. และกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่านายสัญญา นิลสุพรรณ สส. นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรได้ลงนามให้ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” พ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษาประธาน กรรมาธิการกิจการศาลฯ แล้ว ขณะเดียวกันได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ แต่ น.ส.พิมณัฏฐา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้ กรรมการจึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ


พร้อมกันนี้พรรคยังสั่งการให้ตรวจสอบคณะทำงานของคณะรัฐมนตรีและประธานกรรมาธิการ โดยภายในการประชุมพรรคครั้งหน้า ให้ส่งรายชื่อให้เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ว่าไปกระทำการอันใดที่สร้างความเสียหายให้กับพรรคหรือไม่ ยืนยันว่าพรรคจะไม่มีการปกป้อง เบื้องต้นยังไม่พบสมาชิกบุคคลอื่นนอกเหนือจาก 2 คน ที่มีความเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท หากมีเพิ่มเติม ผู้บริหารพรรคยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ปกป้องคนผิด หากมีข้อมูลก็พร้อมที่จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี พร้อมระบุไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง แต่มองเป็นเรื่องความบังเอิญ ที่จับตัว เจ๋ง ดอกจิก ที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่มองเป็นความผิดทางอาญาส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย หากวันดังกล่าวเจ๋งดอกจิก อยู่ที่รัฐสภาก็ต้องไปจับที่รัฐสภา

ส่วนที่สังคมสงสัยว่า ให้ เจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่งคณะทำงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 แต่ยังปรากฏภาพเจ๋งดอกจิก เข้าร่วมประชุม คณะทำงานตรวจราชการคณะ 11 และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคได้ชี้แจงชัดเจนแล้ว ว่าต้องการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้คนอื่นเข้ามาทำงาน จึงให้เจ๋งดอกจิกพ้นจากตำแหน่ง สำหรับเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดี ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เพราะมีผลต่อรูปคดี


ส่วนใครเป็นคนเชิญเจ๋ง ดอกจิก เข้ามาทำงาน นายอัครเดช เลี่ยงที่จะตอบว่าใครเป็นคนชวนมา

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับคนที่นำเจ๋ง ดอกจิก เข้ามาที่พรรคบ้างหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่าวันนี้ได้สอบถามเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ยังไม่ได้ชี้แจงเรื่องนี้ คงจะมีการสอบถามอีกครั้ง ว่าใครเป็นคนพาเจ๋งดอกจิกเข้ามาในพรรค แต่เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เจ๋ง ดอกจิก เคยเป็นแกนนำเสื้อแดง และกลับใจในนามกลุ่มคนไทยรักชาติ และส่วนตัวไม่ได้รู้จักเจ๋งดอกจิก ไปเจอกันที่สภา

ทั้งนี้ได้มีการร้องเรียนบุคคลทั้งสองเข้ามาที่พรรคบ้างหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่าไม่มีเลย และพรรคไม่ได้ระแคะระคาย ถ้ามี ก็คงดำเนินการ หัวหน้าพรรคคงไม่ปล่อยไว้แน่นอน เพราะขนาดตอนนี้พอทราบเรื่อง ก็ได้ยกเลิกคำสั่งทันที เพราะฉะนั้นยืนยันได้ว่า เรื่องนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล


“พรรครวมไทยสร้างชาติมี 6 หมื่นกว่าคน ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองที่เป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือความรับผิดชอบของพรรคการเมือง และผู้บริหารพรรค เมื่อทราบเรื่องก็ให้พ้นจากตำแหน่งทันที เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เราไม่มีที่จะมายื้อ แสดงให้เห็นความจริงใจ ในการไม่ปกป้องคนผิดและ สนับสนุนให้ตำรวจดำเนินการ ตามกฎหมายอย่างเต็มที่” นายอัครเดช กล่าว

เมื่อถามว่าที่ประชุมพรรควันนี้ได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า เท่าที่ดูเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวนายอัครเดช ยังได้นำเอกสารมาแสดงให้สื่อมวลชนดู ประกอบด้วย เอกสารที่นายสัญญา นิลสุพรรณ สส. นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามในหนังสือให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ตั้งแต่วันนี้ (30 ม.ค.) และใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ น.ส.พิมณัฏฐา ที่ขอลาออก ในวันนี้เช่นกัน

ด้านนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้มีการแก้ไขปัญหา เรื่องนี้เรียบร้อยแล้วโดยในสัปดาห์หน้า สส. และรัฐมนตรีจะส่งรายชื่อบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานมาให้ตรวจสอบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยส่ง ถ้าตรงไหนมีการตั้งข้อสังเกตก็จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด

เมื่อถามถึงบุคคลที่ชักนำนายเจ๋งดอกจิกให้เข้ามาร่วมงาน นายเอกนัฎ กล่าวปฏิเสธว่าขอไม่ไปตรงจุดนั้น ปัญหาอยู่ตรงไหน ก็จะไปแก้ตรงนั้น.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย