สว.ชำแหละนโยบายประชานิยม

รัฐสภา 30 ม.ค.- สว.ชำแหละนโยบายประชานิยม  คิดแค่สร้างวาทะกรรม  ให้ได้คะแนนเสียง หากทำไม่ได้หลอกลวงประชาชนหรือไม่ สงสัยแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต พรรคการเมืองไหนได้ประโยชน์


ในการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา (สว.)เป็นประธานการประชุม  พิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาเรื่องผลกระทบของนโยบายหาเสียงเชิงประชานิยมของพรรคการเมืองไทย ซึ่งคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง  และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา  พิจารณาเสร็จแล้ว  โดยนายกำพล เลิศเกียรติดำรงค์ สว.ในฐานะประธานอนุ กมธ.ด้านวิชาการและเสริมสร้างให้ความรู้ระบอบประชาธิปไตย  อันมีพระมหากษัติรย์ทรงเป็นประมุข  พิจารณาศึกษาเรื่องผลกระทบของนโยบายหาเสียงเชิงประชานิยมของพรรคการเมืองไทย    ชี้แจงว่า การพิจารณาศึกษาเรื่องนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน  ซึ่งคณะอนุ กมธ.ฯ  เห็นว่านโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองถูกวิพากษ์วิจารณ์ในกระแสสังคมอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง    ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไปจนเป็นเหตุทำให้มีผลกระทบต่อประชาชนที่คาดหวังที่เฝ้ารอดูว่านโยบายนี้ จะทำได้จริงตามที่หาเสียงไว้หรือไม่

นายกำพล  กล่าวว่านโยบายหาเสียงเชิงประชานิยม   มีทั้งข้อดีและข้อเสียงควบคู่กันไป การที่พรรคการเมืองในอดีตและปัจจุบันได้นำนโยบายต่างๆ  มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหาคะแนนเสียง ให้ได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง    หากมีการหาเสียงไปในทิศทางการสร้างวาทะกรรม หรือการใช้ช่องว่างทางกฎหมายที่ไม่เหมาะสมล้วนแล้วก่อให้เกิดปัญหา  สร้างร่องรอยความเสียหายให้กับประเทศอย่างใหญ่หลวง   และทำให้เครืองมือที่บังคับใช้เกิดความล้มเหลว   หน่วยงานที่กำกับดูแลจะเกิดความอ่อนแอ  


“จากการติดตามผลของการบังคับใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่พรรคการเมืองต้องชี้แจงที่มา  และแหล่งเงินที่นำมาทำนโยบายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง   แต่พบว่าการเลือกตั้งปี 66 พรรคการเมืองมีการใช้นโยบายหาเสียงเชิงประชานิยมมากกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา     นโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองที่ไร้ความรับผิดชอบ เปรียบเสมืองนโยบายชวนเชื่อ   ที่พยายามจะใช้ช่องว่างของกฎหมาย  สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ   เหมือนในอดีตที่ผ่านมา  ซึ่งทำให้ก่อภาระหนี้ผูกพันของประเทศมาจนถึงปัจจุบันและอนาคตได้” นายกำพล กล่าว

ด้านนายเชษฐา ทรัพย์เย็น  อนุ กมธ. ชี้แจงว่าประเด็นเรื่องความชอบธรรมในการออกนโยบายประชานิยม   อาจะเป็นการละเมิดหลักการประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะเป็นการเอาเสียงข้างมากมากดเสียงข้างน้อย และเป็นการเอาผลประโยชน์ของประชาชนและกับคะแนนเสียงทางการเมืองหรือไม่  ประเด็นเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ เนื่องจากการใช้งบประมาณจำนวนมาก   เพื่อที่จะแจกจ่ายเงินไปถึงมือประชาชนนั้น  อาจจะทำให้ประเทศเกิดปัญหาหนี้สินอย่างมหาศาลตามมา   ถ้าการดำเนินการไม่เป็นไปตามความรอบคอบและรัดกุม  ประเด็นเรื่องความยั่งยืนแก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างแท้จริง    พราะเป็นการแก้ปัญหาแบบหว่านแห   ไม่ได้มุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง

“ในทางเศรษฐศาสตร์ การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต  อาจจะไม่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ  เพราะการแจกเงินให้ทุกคนเท่ากัน ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต   อาจจะไม่คุ้มค่า หากเปรียบกับการทำเงินไปใช้กับโครงการอื่น เช่น  การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน  ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต  อาจจะส่งผลต่อความยั่งยืนทางการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว   เนื่องจากต้องใช้เงินจำนวนมากมาทำโครงการในระยะสั้น” นายเชษฐา กล่าว


จากนั้นเปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น  โดยว่าที่ร้อยตรีวงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี สว. อภิปรายว่านโยบายของพรรคการเมืองมีผลต่อปากท้องของประชาชน  เพราะประชาชนทำมาหากินภายใต้นโยบายรัฐบาล ส่วนนโยบายที่มุ่งไปที่รัฐสวัสดิการนั้น   ตนเห็นด้วย แต่ต้องดูว่ารัฐบาลทำตามหน้าที่หรือไม่  ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่    กมธ.ต้องกล้านำเสนอ เพราะไม่เช่นนั้นการเลือกตั้งสมัยหน้าจะมีปัญหา เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา   มีพรรคการเมืองหนึ่งบอกว่าจะให้ 2 หมื่นบาทจะทำอย่างไร   เพราะวันนี้แค่ 1 หมื่นบาท ก็ยังทำไม่ได้   แต่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมาแล้วเพราะความอยากได้ หรือที่เสนอไว้ค่าแรง 600 บาทต่อวัน ก็ไม่ได้

ด้านนายเฉลิมชัย เฟื่องคอน   สว. อภิปรายว่าดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย  ที่เป็นแกนนำรัฐบาล ที่หาเสียงไว้อย่าง แต่ปฏิบัติอีกอย่าง  โดยหาเสียงว่าเงิน 5.6 แสนล้านบาท ให้คนละ 1 หมื่นบาททุกคน  โดยไม่ต้องกู้ แต่เวลาแถลงนโยบาย ก็บอกเงินไม่มี  ต้องกู้ และแจกไม่ทุกคน

“อย่างนี้ถือว่าหาเสียงอีกอย่าง  ทำอีกอย่าง  หลอกลวงเพื่อคะแนนิยม ทำให้ประชาชนหลงผิด   และหากรัฐบาลต้องกู้เงิน 5.6 แสนล้านบาท   จะมีผลกระทบที่ตามมาคือต้องจ่ายเงินต้นเพิ่มอีกปีละ 1.24 แสนล้านบาท จากที่ต้องจ่ายทุกปีละ 1.3 แสนล้านบาท ดอกเบี้ยจากที่ต้องจ่ายปี 67  ตั้งไว้ 2.3 แสนล้านบาท  หากกู้เราต้องจ่ายเพิ่มอีก จะทำให้เราต้องจ่ายทั้งต้นและดอกรวมแล้วปีละ 4.8 แสนล้านบาท    จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 3.48 ล้านบาท  ซึ่งจะกระทบต่อการบริหารหนี้  จึงสงสัยว่าการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตกลงแล้วรัฐบาลจะเอาเงินจากตรงไหน จะกู้หรือเงินจากงบประมาณและจะยกเลิกหรือไม่ เพราะการเอาเงินบาทไปแลกเหรียญดิจิทัล  และเอาเงินดิจิทัลไปแลกเงินบาท ก็เสียค่าธรรมเนียมอีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท   บริษัทไหน พรรคการเมืองไหนจะได้ประโยชน์ ดังนั้นโครงการนี้ต้องคิดให้รอบครอบ เพราะสิ่งที่พรรคการเมืองทำก็คิดแค่ประโยชน์ของพรรคและกลุ่มทุนเท่านั้น” นายเฉลิมชัย กล่าว

ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธาน  กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ชี้แจงว่า  มีหลายครั้งที่เสนอไปแล้ว มักจะถูกถ่วงติงจากฝ่ายการเมืองว่าเราไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง เสนออะไรไปก็คงจะรู้ไม่จริง  ต้องเรียนว่าในการทำรายงานฉบับนี้    ซึ่งตนเป็นประธานนั้น ตนเคยลงเลือกตั้ง สส.มาแล้ว  เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งมาแล้ว และเคยลงเลือกตั้ง สว.ที่เลือกตั้งจากประชาชนโดยตรงมาแล้ว   ฉะนั้นคงมีประสบการณ์มาบ้างเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่ในข้อเสนอของ กมธ.ที่เสนอมานี้เห็นว่านโยบายหาเสียงที่ผ่านมาเป็นปัญหากับบ้านเมืองและเป็นอันตราย   โดยในนโยบายที่หาเสียงกันช่วงก่อนๆ  ไม่ได้มีกติกาอะไรกันมาก  มีการหาเสียงกันแบบใช้งบประมาณจำนวนมากที่กระทบกับการเงินการคลัง หลายเรื่องทำไม่ได้   บางเรื่องก็ทำได้ แต่ใช้เงินเยอะ ดังนั้นสังเกตได้ว่าในรัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 ไม่ได้กำหนดกติกาที่เคร่งครัดกับการกำหนดนโยบายหาเสียง   จนกระทั่งรัฐธรรมนูญปี 60  เห็นปัญหาในเรื่องเหล่านี้   จึงได้บัญญัติไว้ในมาตรา 258 หมวด ก (3)  ที่ให้ความสำคัญว่านโยบายต่างๆ ต้องมีกลไกกำหนดความรับผิดชอบของพรรคการเมือง การประกาศโฆษณา   นโยบายที่ต้องวิเคราะห์ผลกระทบ   ความคุ้มค่า  ความเสี่ยงรอบด้าน โดยการกำหนดกติกานี้ไว้เพื่อไม่ให้เกิดแนวนโยบายหาเสียงประชานิยม   และมีผลกระทบต่อการเงินการคลังของประเทศ    แต่ในที่สุดยังไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ กลายเป็นเรื่องของการหลอกลวงประชาชนเพื่อให้ได้คะแนนเสียง

นายเสรี ยังกล่าวว่า การเลือกตั้งแต่ละครั้ง กลยุทธ์หรือวิธีการต่างๆ ก็ถูกนำมาเสนอเพื่อให้ได้คะแนนเสียงจากประชาชน  จะเห็นได้ว่ามีกฎหมายกำหนดแนวทางไว้ในการห้ามการกระทำบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบ  เสียเปรียบ เช่น กฎหมายเลือกตั้ง  สส.  ระบุว่าในการหาเสียงนั้นห้ามสัญญาว่าจะให้  เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น แต่เมื่อนักการเมืองหาเสียงแล้วไปสัญญาว่าจะให้ ตัวอย่างคือการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต   ซึ่งเป็นการแจกเงินจำนวนมากงบประมาณถึง 5.6 แสนล้านบาท ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กกต.ที่ต้องตรวจสอบ กำหนดแนวทางวิธีการไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น  แต่ต้องยอมรับว่า กกต. บอกว่าเป็นนโยบายสามารถทำได้  ปัญหาก็กลับมาที่ กกต.อีก   หาก กกต.บอกว่าทำไม่ได้ หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย  กระทบการเงินการคลัง   นโยบายนี้มีปัญหากับการเลือกตั้ง พรรคการเมืองเขาก็จะไม่นำมาใช้  แต่ปรากฏว่ากกต.ไปวางกฎเกณฑ์ไว้แบบนี้   เมื่อ กกต.บอกว่าทำได้  แต่ถูกเสียงคัดค้านมากมายว่ามีปัญหา   อาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้นได้อีก กกต.จึงขาดความน่าเชื่อถือ

“ปัญหาคือเมื่อ กกต.ขาดความน่าเชื่อถือ ก็ไปบอกว่าเลือกคนเหล่านี้ไปเป็น กกต.ได้อย่างไร ขาดความกล้าหาญ   ไม่เด็ดขาด ไม่กล้าวางแนวที่ถูกต้องเพื่อให้พรรคการเมือง   หรือนักการเมืองปฏิบัติได้   แต่จะไปโทษ กกต.อย่างเดียวไม่ได้   ต้องโทษคนเลือก  กกต.ที่มาจากวุฒิสภาว่าไปเลือกอย่างนี้มาได้อย่างไร   วุฒิสภาบอกว่าเลือก  เพราะกรรมการสรรหา เขาเลือกมาให้แล้ว   จะทำอย่างไรได้ ตัวเลือกมีแค่นี้ สว.ก็ต้องเลือกแค่นี้    ความรับผิดชอบก็ไปที่กรรมการสรรหาอีก ไปๆ มาๆ  หาคนรับผิดชอบไม่ได้   บ้านเมืองนี้ก็ต้องโยนกันไป โยนกันมา ในที่สุดแล้วการเมืองบ้านเราจะไม่พัฒนาอย่างที่เราต้องการ  การเมืองที่มีการกระทำผิดต่อกฎหมายเกิดขึ้นตลอดเวลา  การเลือกตั้งที่บอกว่าต้องสุจริตและเที่ยงธรรม ต้องหาคนดีมาเป็นตัวแทนประชาชน  คนไม่ดีเหยียบบันไดสภาฯไม่ได้   ดังนั้นคงต้องรอให้ กกต.พ้นหน้าที่กันไป   หรือ กกต.อาจจะต้องรับผิดชอบในทางกฎหมาย    ขึ้นอยู่กับการกระทำที่ทำไปแล้ว แต่ผลที่ออกมาความเสียหายเกิดขึ้น เราได้นักการเมือง   เราได้ สส.ที่ทำผิดกฎหมายมากมาย เข้ามาอยู่ในสภาฯ ผมก็พยายามพูดเสมอว่าการเมืองไทยแปลก   เราเลือกตั้งได้คนทำผิดกฎหมายมามากมาย   แต่คนทำผิดกฎหมายมาออกกฎหมาย   บังคับประชาชน  ก็เป็นเรื่องแปลกที่เราปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายมาออกกฎหมาย   ดังนั้น ในยุคต่อๆไปหวังว่า การเมืองที่ใช้นโยบายประชานิยมเปลี่ยนเป็นนโยบายกระแสนิยม    ถ้าเปลี่ยนได้ก็สามารถทำให้การใช้งบประมาณไม่กระทบกับประเทศ”นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวด้วยว่า ทาง กมธ.ขอรับข้อเสนอมาปรับปรุงแก้ไขและหากที่ประชุมวุฒิสภาไม่ขัดข้องกับรายงานฉบับนี้    ขอให้ประธานวุฒิสภาส่งรายงานไปให้รัฐบาล ศาลรัฐธรรมนูญ  ศาลยุติธรรม  แผนกคดีเลือกตั้งทุกชั้นศาล  กกต. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (ส.ต.ง.)   และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)   เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการช่วยหลายฝ่าย เพื่อให้รายงานฉบับนี้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเมืองให้เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์บ้านเมืองให้ดีขึ้นได้  ทั้งนี้หลังสมาชิกแสดงความคิดเห้นเสร็จสิ้น ที่ประชุมวุฒิสภา เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ เพื่อส่งให้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ รับทราบ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]