กรุงเทพฯ 29 ม.ค.-นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ งาน Dinner Talk “Thailand Level Up อัปเกรดประเทศไทย” ย้ำเศรษฐกิจจะไปได้ฐานรากต้องแข็งแกร่ง ชี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการเกษตร
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษใน งาน Dinner Talk “Thailand Level Up อัปเกรดประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า อัปเกรดประเทศไทย เป็นหัวข้อที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ถ้าจะอัปเกรดประเทศไทยได้ ถ้าฐานแรกไม่แข็งแกร่ง เชื่อว่าเราจะไม่สามารถอัปเกรดประเทศไทยได้ ในทางกลับกัน ถ้าฐานรากแข็งแกร่งก็จะสามารถดันส่วนบนให้สูงขึ้นได้ ให้มีรายได้ขึ้นไปอีก ตนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะต้องพูดถึงเรื่องฐานรากก่อน ซึ่งถ้าฐานรากไม่ดีการพัฒนาฐานราก รัฐบาลก็ทำงานลำบาก เศรษฐกิจจะไปได้ฐานรากต้องแข็งแกร่ง บ้านเมืองจะสงบได้ ประชาชนส่วนมากต้องมีความสุข ต้องได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ 4 เดือนที่เราเข้ามาทำหน้าที่ เชื่อว่าเรื่องของการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่เราทำไปแล้วคือเรื่องของเกษตรกร พักหนี้เกษตรกร ซึ่งเรื่องพักหนี้เป็นจุดแรกที่จะเป็นคืนขวัญกำลังใจ คืนศักดิ์ศรี ให้ไม่ต้องพะวงเรื่องการใช้หนี้ ให้สามารถไปเพาะปลูก เรื่องทำมาหาชีพ โดยไม่ต้องมาจ่ายดอกเบี้ย และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการเปิดสินค้าใหม่ๆ และให้องค์ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เกษตร
นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า เรามีการลงทุนเรื่องรถไฟความเร็วสูง เราลงทุนไป มีการซื้อสินค้า ซื้องานระบบจากต่างประเทศ เงินที่เราลงทุนไปสร้าง GDP ให้ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมัน หลายๆ ประเทศ เราเองได้แต่ค่าแรง แต่เราต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ถ้าเราลงทุนเรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง ถ้าเราไม่ท่วมไม่แล้ง ผลผลิตทางการเกษตรจะขึ้น รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการลงทุนด้านการเกษตร
ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับชีวิตของคนที่อยู่ฐานของพีระมิด ซึ่งจะเสริมความแข็งแกร่งของสังคมไทย ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า วันนี้คงต้องขอคุยว่า เรื่องราคายางพาราเพิ่มขึ้น14 วันซ้อนในรอบ10ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่คุมเข้มเรื่องปริมาณยางพาราลักลอบนำเข้าก็ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
“รัฐบาลให้ความใส่ใจ ไม่ใช่ใส่เงินเพียงอย่างเดียว ไปเปิดเรื่องของตลาดการค้า FTA เราให้ความสำคัญเพราะเป็นการขยายตลาดอื่นๆด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องการลงพื้นที่ของรัฐบาล ว่า ลงพื้นที่ตลอด ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ไปหลายๆ จังหวัด ปัญหา 2 เรื่องใหญ่ๆ ที่ ไม่นับเรื่องเกษตรกรรม คือเรื่อง PM 2.5 ซึ่งถือเป็นเรื่องสิทธิพื้นฐานของมนุษยชนที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับ คืออากาศสะอาด เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ ทั้งการไม่เผาป่า แปลงวัชพืชที่หลงเหลือจากการเพาะปลูกมาเป็นสินค้าที่สร้างรายได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแลนด์บริดจ์ (LandBridge) ว่า เป็นนโยบายใหญ่ของเรา เพราะการที่เราเชิญบริษัทมาลงทุนในอุตสาหกรรม ประเทศไทยมีประชากร แค่ 70 ล้านคน ความต้องการของหัวรถจักรไฟฟ้า รถไฟฟ้า EV จะเยอะขนาดไหน ถ้าเขามีการสร้างเป็นฐานผลิต เขาก็ต้องมีการส่งออกออกไป การขนถ่ายสินสินค้าก็เริ่มแน่น เราต้องสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับ.-316.-สำนักข่าวไทย