รัฐสภา 26 ม.ค.- “ธนกร” เผย กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เรียกผู้จัดอบรม 5 หลักสูตรดัง ชี้แจงความคุ้มค่า ยัน ทุกหลักสูตรมีประโยชน์ต่อยอดพัฒนาประเทศ มั่นใจ กระบวนการยุติธรรม ไม่มี เอื้อประโยชน์วิ่งเต้นคดีให้เพื่อนร่วมรุ่น
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวในการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่คณะกรรมาธิการชุดนี้ ได้เชิญผู้จัดทำหลักสูตรอบรมบุคลากรหลายหน่วยงานเข้ามาชี้แจง ประกอบด้วยเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถึงการใช้งบประมาณ และตนเชื่อว่าทุกหลักสูตรเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ไม่เคยสงสัยเรื่องเนื้อหาและงบประมาณ เพราะคิดว่ามีความสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ซึ่งตนเองได้ร่วมอบรมบางหลักสูตร มีความเข้มข้น ทั้งเรื่องการคัดเลือกบุคคล การอบรมและการเข้าเรียน โดยก็พบว่า สส.หลายคนหลายพรรคที่เข้าร่วมหลักสูตร หากไม่ได้เข้าเรียนครบตามเกณฑ์ ก็ไม่ผ่านการอบรม
ส่วนที่หลายคนอาจมองว่าการสร้างสัมพันธ์หรือคอนเน็คชั่นผ่านหลักสูตรต่าง ๆ มักจะไปในแนวทางเอื้อประโยชน์ ช่วยวิ่งเต้นเรื่องคดีนั้น นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการและสังคมฯ ตั้งข้อสังเกตถึงความเสี่ยงที่ผู้เข้าอบรม ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เช่น ศาล อัยการ เข้ามาเรียนร่วมกับภาคเอกชนด้วย อาจทำให้เอื้อประโยชน์ในการตรวจสอบนั้น ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ว่า มีการตรวจสอบตามหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่การไปเรียนร่วมรุ่นในหลักสูตรต่างๆ แล้วจะทำให้สามารถวิ่งเต้นคดีได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย
“เรื่องนี้อยู่ที่คน ไม่ใช่หลักสูตรหรือหน่วยงานองค์กร คนจะวิ่งเต้นคดีก็วิ่งเต้น ไม่เกี่ยวกับหลักสูตร ยืนยันว่าทุกหลักสูตรเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ อยากให้ดำเนินการต่อไป และเปิดกว้างให้สามารถตรวจสอบทุกหลักสูตรได้ ตามที่นายพริษฐ์ ประธานกรรมาธิการฯและประชาชนตั้งข้อสังเกต เพื่อให้เกิดความครบถ้วน รอบคอบ โปร่งใส ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี”นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า ทุกหลักสูตรมีความเสมอภาค บางหลักสูตรขณะที่ตนเองสมัครเรียนตอนเป็นรัฐมนตรี ยังไม่ผ่านการคัดเลือก แสดงว่าทุกหลักสูตร มีการพิจารณาบุคคลเข้าอบรมมีความเข้มข้น ดูองค์ประกอบหลายอย่าง จึงมีความเชื่อมั่นในการคัดเลือกคัดกรองบุคคล แต่การจะมาช่วยวิ่งเต้นคดีนั้นเป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่างในอดีต บางคนที่ไปเรียนหลายหลักสูตร พบว่าไปทุจริตเป็นข่าวดังทั้งประเทศ ก็ไม่มีใครกล้าช่วยเรื่องคดีเลย ซึ่งตนเห็นว่าทุกฝ่ายควรรับข้อเสนอของกรรมาธิการชุดนี้ไปพิจารณาด้วย เพื่อให้เกิดการตรวจสอบ ให้ความรอบคอบ โปร่งใส.-312.-สำนักข่าวไทย