ปทุมธานี 25 ม.ค.- “อุ๊งอิ๊ง” เผยเตรียมนัดกินข้าว สส. พรรคร่วมรัฐบาล โชว์ความเหนียวแน่น 314 เสียง ด้าน “เศรษฐา” ย้ำพรรคร่วมฯ มั่นคงแล้ว มั่นใจทุกคำถามมีคำตอบให้ สว. ซักฟอก
เวลา 20.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพเลี้ยงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งบรรยากาศมีแต่รอยยิ้ม ไม่มีการพูดคุยเรื่องหนักๆ พูดคุยกันแต่เรื่องสบายๆ และอาหารอร่อย ลมเย็น ทุกอย่างเรียบร้อยดี
ขณะที่นางสาวแพทองธาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวงรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาล ได้พูดคุยตกลงกันว่าจะนัดหมายกันอีกครั้งในเร็วๆ นี้ โดยจะขอนัด สส. ของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อจะได้มาร่วมกินข้าวกัน และรู้จักกัน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลได้นัดกินข้าวกันเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ สส. ของแต่ละพรรคยังไม่เคยมาเจอกัน ดังนั้นเพื่อการทำงานที่ดี และเพื่อความสนุกสนาน จะได้ทำความรู้จักกัน พร้อมย้ำว่าจะนัดหมายกันในเร็วๆ นี้ โดยทุกพรรคร่วมรัฐบาลจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ และขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าจะใช้สถานที่ใด พร้อมยอมรับว่าเป็นการโชว์ความเหนียวแน่นของพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าเป็นการตอกย้ำหรือไม่ว่าวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่เพียงพอไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องเสริมพรรคใดเข้ามา นายกรัฐมนตรี ตอบว่า แน่นอนครับ ตรงนี้เรามีความมั่นใจกับ 314 เสียง ที่ถือว่ามากแล้วจากจำนวน สส. ทั้งหมด 500 คน ที่มีความมั่นคงแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเราต้องมีความสมัครสมานสามัคคี เรามาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน เพื่อยกคุณภาพชีวิตของประชาชน แน่นอนว่าการทำงานร่วมกันอาจจะมีความเห็นความเห็นที่ต่างกันบ้าง แต่อย่างที่เห็นทุกคนมีสีหน้าและบรรยากาศมีรอยยิ้ม มีการทำงานที่ดี มีการถกเถียงกันอย่างสร้างสรรค์ เชื่อว่าส่วนนี้เป็นนิมิตหมายอันดี
เมื่อถามถึงกรณีที่ สว. จะเปิดอภิปรายทั่วไป ทุกพรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ทุกคนมีความพร้อม เพราะเรามุ่งมั่นทำงาน และเชื่อว่าทุกคำถามมีคำตอบ เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะต้องให้ความให้ความกระจ่างกับฝ่ายนิติบัญญัติ และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีคุ้นชินกับนักการเมืองแล้วใช่ เพราะก่อนหน้านี้เป็นนักธุรกิจมาตลอด นายกรัฐมนตรีตอบรับว่า ไม่ครับ เรื่องของการคุ้นชิน เรื่องของความคุ้นเคย ความสมัครสมาน เป็นไปได้ถ้าเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ต้องการเรามาที่นี่เพื่อต้องการยกระดับ ความเป็นอยู่ของประชาชน ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นภายใน 4 ปี ตลอดเวลาที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี.414.-สำนักข่าวไทย