2 กมธ. สภาฯ จับมือเดินหน้าถกปม”ป้าบัวผัน”

รัฐสภา 19 ม.ค.-กมธ.ตำรวจ-สวัสดิการสังคม” จับมือเดินหน้าถกปมป้าบัวผัน “ชัยชนะ” ยันจะพบ “ลุงเปี๊ยก” หากบำบัดหาย จี้ ตร. หากดำเนินการไม่ถึงที่สุด สตช.เสียหาย


นายชัยชนะ เดชเดโช สส. จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร  และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคก้าวไกล  ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร   แถลงติดตามกรณีเยาวชนรุมทำร้ายร่างกาย นางบัวผัน ตันสุ หรือ ป้ากบ จนถึงแก่ความตาย ที่ จ.สระแก้ว หลังจากวันนี้(19 ม.ค.) ยกเลิกกำหนดการลงพื้นที่พบลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน เนื่องจากลุงเปี๊ยกต้องเข้ารับการรักษา

นายชัยชนะ  กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายจับ “ลุงเปี๊ยก“  แต่การสอบสวนใหม่ ล่าสุดพบว่าลุงเปี๊ยกไม่ได้มีการกระทำความผิดและส่งไปบำบัดรักษาโรคสุราเรื้อรัง ที่โรงพยาบาลธัญรักษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบว่า ลุงเปี๊ยกถูกทรมานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมียศเป็นนาย “ดาบตำรวจ” มีบุคลิกขาเป๋ ใส่ขาเทียม และ ”รองผู้กำกับสืบสวน” ทราบเรื่อง แต่ไม่ห้าม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าสภามีการผ่านร่างพระราชบัญญัติอุ้มหาย  นั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดมาตรา 5 มีโทษจำคุก 5 ถึง  15 ปี ปรับ 300,000 บาท


หลังจากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ลงพื้นที่ติดตามคดี และสอบปากคำด้วยตัวเอง  ทำให้ตำรวจคนดังกล่าวได้ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว  รวมถึงผู้กำกับสืบสวนในฐานะที่รับทราบแต่ไม่ห้าม ก็ผิดมาตรา 157  ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่  ขณะนี้รองผบ.ตร. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีย้อนหลังกับเยาวชนทั้ง 5 คน ที่เคยก่อเหตุรวมทั้งสิ้น 5 คดี

“เดิมทีวันนี้ กมธ. ตำรวจ และ กมธ.สวัสดิการสังคม  จะเดินทางไปพบลุงเปี๊ยก  ที่ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชาย ธัญบุรี รังสิต แต่ทราบว่าลุงเปี๊ยกถูกนำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลธัญรักษ์  หากหายแล้ว กมธ.จะเดินทางไปเยี่ยม เพื่อสอบถามถึงความพอใจในการดำเนินคดีจากตำรวจชุดดังกล่าว รวมถึงการเรียกร้องเพื่อได้รับการเยียวยาตามสิทธิ์เพิ่มเติม” นายชัยชนะ กล่าว

ขณะที่นายณัฐชา กล่าวว่า เมื่อวานนี้(18 ม.ค.) กมธ.ได้มีการพูดคุยหารือกันในที่ประชุมถึงข้อกฎหมาย ในเรื่องการคุ้มครองเด็กและบทลงโทษของเด็ก เพราะมีเยาวชนกระทำความผิดรุนแรง จนทำให้เกิดผู้เสียหาย จนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตจะมีบทลงโทษอย่างไร โดยเจตนารมย์ของกฎหมายฉบับนี้ต้องการให้โอกาสเด็กที่กระทำความผิดครั้งแรก ไม่ต้องการให้เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ซึ่งข้อสรุปที่ประชุมของกรรมาธิการ ยังไปไม่ถึงการแก้กฎหมาย  เรื่องดังกล่าวต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง ซึ่งบทลงโทษของเด็กเพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2565 จาก 10 ปีเป็น 12 ปี การจะเปลี่ยนกลับไปกลับมา เพื่อกรณีใดกรณีหนึ่ง ประชุมในที่ประชุมจึงยังไม่เห็นด้วย ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเชิญนักสิทธิมนุษยชน ตัวแทนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน มาร่วมพูดคุยว่า จะมีการหาทางออกกับ เหตุการณ์รุนแรงอย่างไร


ประเด็นที่ 2 คือเรื่องวิกฤติกระบวนการยุติธรรม นอกจากคดีฆ่าคนตายทั่วไปแล้ว ยังมีอีกหลายคดีที่ผู้กระทำความผิดไม่ได้รับบทลงโทษ และกระบวนการของเจ้าหน้าที่ยังมีส่วนไปช่วยเหลือ

“ไม่ว่าจะเป็นการโยนความผิดให้บุคคลที่เป็นโรคจิต  ให้บุคคลที่มีฐานะยากจน บุคคลที่ไม่สามารถต่อสู้คดีความได้ เหตุการณ์แบบนี้หากไม่เป็นข่าวดังขึ้นมา ก็อาจจะเงียบหายไป เช่นกรณีลุงเปี๊ยก ถ้าไม่มีวัตถุพยานอย่างกล้องวงจรปิด ลุงเปี๊ยก เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว นี่หมายความว่ากระบวนการยุติธรรมที่ให้กับประชาชนและตำรวจช่วยส่งเสริมให้ความจริงปรากฏ  หากไม่มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด  ก็มีการจับกุมผู้บริสุทธิ์ ไปคุมขังแทนผู้กระทำความผิดที่แท้จริง”  นายณัฐชา กล่าว

นอกจากนี้ กรณีนี้ยังเป็นวิกฤติศรัทธาของตำรวจ จึงได้มีการหารือกับ กมธ.ตำรวจ ว่าจะหยิบยกเครื่องนี้มาเป็นประเด็นอย่างจริงจัง ว่าสุดท้ายแล้วกระบวนการยุติธรรม หรือวิธีการพิจารณาคดีความของตำรวจจะแสวงหาข้อเท็จจริงได้มากน้อยแค่ไหน  และหากกระบวนการดำเนินไปแล้วพบข้อผิดพลาด สุดท้ายจะกลับมาเริ่ม กระบวนการใหม่ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความผิดด้วยหรือไม่

นายณัฐชา กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่น่ากังวล คือปัญหาคนเร่ร่อน คนไร้ที่พึ่ง กมธ. ได้เชิญมูลนิธิอิสระชน มูลนิธิกระจก ตัวแทนจากกระทรวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาพูดคุยโดยในที่ประชุม กระทรวง พม. ยอมรับ ว่ามีคนกลุ่มดังกล่าว  11 แห่งทั่วประเทศที่อยู่ในการดูแลของกระทรวง 5,000 คน แสดงว่ายังมีอีกหลายพันคนที่อยู่ตามจุดต่างๆ และอาจจะมีลักษณะคล้ายป้าบัวผันที่ถูกกลั่นแกล้ง แต่อาจไม่ถึงแก่ความตาย ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่มีหนทางที่จะต่อสู้ จึงต้องหาทางออก ว่าจะทำอย่างไรกับคนกลุ่มดังกล่าวเมื่อถูกรังแก

ขณะที่นายชัยชนะ ยังฝากถึงรัฐบาล ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าเยาวชนมีการดื่มของมึนเมาเข้าไป ซึ่งนี่เป็นปัญหาหลักจึงอยากให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด จะเห็นได้ว่าปัญหาสังคมทุกวันนี้มาจากลูกฆ่าพ่อ พ่อฆ่าแม่ ก็มาจากปัญหายาเสพติด นอกจากนี้ยังมีปัญหาการติดพนันออนไลน์ ทำให้มีเหตุอาชญากรรมมากมาย

“ตามที่ผมได้คุยกับรองผบ.ตร. เจ้าหน้าที่ท่านใด คนไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีส่วนที่ทำให้ปิดสำนวนแล้วผิด ใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยก ขับรถไปก็ดี หรือเดินทางเข้าห้องไปก็ดี ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นประชาชนจะพึ่งที่ไหนได้  ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถพึ่งพาได้“ นายชัยชนะ กล่าว

เมื่อถามว่าจากที่คุยกับ รองผบ. ตร. มีแค่ตำรวจขาเป๋คนเดียวที่เกี่ยวข้องใช่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า รองผบ. ตร.รอยืนยัน ว่าลุงเปี๊ยกชี้คนเดียว ซึ่งรองผู้กำกับสืบสวนรับทราบ หลังจากนี้หากลุงเปี๊ยกเข้ารับการบำบัด และมีความจำรื้อฟื้น ว่านอกจาก 2 คนนี้ ยังมีใครอีกก็พร้อมรับฟังและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม เราต้องยอมรับสิ่งที่ลุงเปี๊ยกพูด ว่าโกรธที่สุดคือชายขาเป๋ที่ทำร้าย จะเห็นว่าการคลุมถุงดำเกิดขึ้นล่าสุดที่ จ.นครสวรรค์ ผู้กระทำก็รับโทษไปแล้ว วิธีการสืบสวนทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องอุ้มรีด สามารถดูกล้องวงจรปิด ข้อมูลโทรศัพท์ ก็น่าจะเพียงพอในการออกหมายจับ

ส่วนข้อเสนอให้อัยการร้องขอต่อศาลพิจารณาโทษเทียบเท่าผู้ใหญ่ นายชัยชนะ ยอมรับว่า ไม่ได้มีการคุยกัน ซึ่งตนคิดว่าในอนาคต หากจะแก้กฎหมายต้องดูว่ากำหนดโทษเช่นไร เช่นโทษฆ่าผู้อื่น เมื่ออายุครบ 18 ปี ออกจากสถานพินิจ ก็ควรย้ายไปอยู่เรือนจำกลาง ไม่เช่นนั้นในอนาคตคนที่คิดทำร้ายผู้อื่นก็ใช้เด็กเยาวชนเป็นเครื่องมือ เพราะโทษอย่างไรก็ไม่เกิน 4-5 ปี ถ้าอายุ 16 ปีก็รับโทษแค่ 3 ปี

ส่วนกรณีที่ลุงเปี๊ยก ให้การวกไปวนมาเกี่ยวกับพฤติการณ์ของตำรวจระหว่างสืบสวน จะทำให้ตำรวจหลุดจากคดีคดีหรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า หลุดไม่ได้ การกลับไปกลับมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยอมรับว่ากระทำจริง ต้องยอมรับว่าลุงเปี๊ยกเป็นผู้ป่วย เมื่อเข้าสถานบำบัดที่แรก สติกลับมาและได้สอบถามลุงเปี๊ยกก็ชี้ถูก จึงคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหา  ถ้าเรื่องนี้ดำเนินคดีไม่ถึงที่สุด คนที่เสียหายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ.-314 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย