2 กมธ. สภาฯ จับมือเดินหน้าถกปม”ป้าบัวผัน”

รัฐสภา 19 ม.ค.-กมธ.ตำรวจ-สวัสดิการสังคม” จับมือเดินหน้าถกปมป้าบัวผัน “ชัยชนะ” ยันจะพบ “ลุงเปี๊ยก” หากบำบัดหาย จี้ ตร. หากดำเนินการไม่ถึงที่สุด สตช.เสียหาย


นายชัยชนะ เดชเดโช สส. จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร  และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคก้าวไกล  ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร   แถลงติดตามกรณีเยาวชนรุมทำร้ายร่างกาย นางบัวผัน ตันสุ หรือ ป้ากบ จนถึงแก่ความตาย ที่ จ.สระแก้ว หลังจากวันนี้(19 ม.ค.) ยกเลิกกำหนดการลงพื้นที่พบลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน เนื่องจากลุงเปี๊ยกต้องเข้ารับการรักษา

นายชัยชนะ  กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายจับ “ลุงเปี๊ยก“  แต่การสอบสวนใหม่ ล่าสุดพบว่าลุงเปี๊ยกไม่ได้มีการกระทำความผิดและส่งไปบำบัดรักษาโรคสุราเรื้อรัง ที่โรงพยาบาลธัญรักษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบว่า ลุงเปี๊ยกถูกทรมานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมียศเป็นนาย “ดาบตำรวจ” มีบุคลิกขาเป๋ ใส่ขาเทียม และ ”รองผู้กำกับสืบสวน” ทราบเรื่อง แต่ไม่ห้าม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าสภามีการผ่านร่างพระราชบัญญัติอุ้มหาย  นั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดมาตรา 5 มีโทษจำคุก 5 ถึง  15 ปี ปรับ 300,000 บาท


หลังจากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ลงพื้นที่ติดตามคดี และสอบปากคำด้วยตัวเอง  ทำให้ตำรวจคนดังกล่าวได้ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว  รวมถึงผู้กำกับสืบสวนในฐานะที่รับทราบแต่ไม่ห้าม ก็ผิดมาตรา 157  ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่  ขณะนี้รองผบ.ตร. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีย้อนหลังกับเยาวชนทั้ง 5 คน ที่เคยก่อเหตุรวมทั้งสิ้น 5 คดี

“เดิมทีวันนี้ กมธ. ตำรวจ และ กมธ.สวัสดิการสังคม  จะเดินทางไปพบลุงเปี๊ยก  ที่ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชาย ธัญบุรี รังสิต แต่ทราบว่าลุงเปี๊ยกถูกนำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลธัญรักษ์  หากหายแล้ว กมธ.จะเดินทางไปเยี่ยม เพื่อสอบถามถึงความพอใจในการดำเนินคดีจากตำรวจชุดดังกล่าว รวมถึงการเรียกร้องเพื่อได้รับการเยียวยาตามสิทธิ์เพิ่มเติม” นายชัยชนะ กล่าว

ขณะที่นายณัฐชา กล่าวว่า เมื่อวานนี้(18 ม.ค.) กมธ.ได้มีการพูดคุยหารือกันในที่ประชุมถึงข้อกฎหมาย ในเรื่องการคุ้มครองเด็กและบทลงโทษของเด็ก เพราะมีเยาวชนกระทำความผิดรุนแรง จนทำให้เกิดผู้เสียหาย จนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตจะมีบทลงโทษอย่างไร โดยเจตนารมย์ของกฎหมายฉบับนี้ต้องการให้โอกาสเด็กที่กระทำความผิดครั้งแรก ไม่ต้องการให้เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ซึ่งข้อสรุปที่ประชุมของกรรมาธิการ ยังไปไม่ถึงการแก้กฎหมาย  เรื่องดังกล่าวต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง ซึ่งบทลงโทษของเด็กเพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2565 จาก 10 ปีเป็น 12 ปี การจะเปลี่ยนกลับไปกลับมา เพื่อกรณีใดกรณีหนึ่ง ประชุมในที่ประชุมจึงยังไม่เห็นด้วย ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเชิญนักสิทธิมนุษยชน ตัวแทนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน มาร่วมพูดคุยว่า จะมีการหาทางออกกับ เหตุการณ์รุนแรงอย่างไร


ประเด็นที่ 2 คือเรื่องวิกฤติกระบวนการยุติธรรม นอกจากคดีฆ่าคนตายทั่วไปแล้ว ยังมีอีกหลายคดีที่ผู้กระทำความผิดไม่ได้รับบทลงโทษ และกระบวนการของเจ้าหน้าที่ยังมีส่วนไปช่วยเหลือ

“ไม่ว่าจะเป็นการโยนความผิดให้บุคคลที่เป็นโรคจิต  ให้บุคคลที่มีฐานะยากจน บุคคลที่ไม่สามารถต่อสู้คดีความได้ เหตุการณ์แบบนี้หากไม่เป็นข่าวดังขึ้นมา ก็อาจจะเงียบหายไป เช่นกรณีลุงเปี๊ยก ถ้าไม่มีวัตถุพยานอย่างกล้องวงจรปิด ลุงเปี๊ยก เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว นี่หมายความว่ากระบวนการยุติธรรมที่ให้กับประชาชนและตำรวจช่วยส่งเสริมให้ความจริงปรากฏ  หากไม่มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด  ก็มีการจับกุมผู้บริสุทธิ์ ไปคุมขังแทนผู้กระทำความผิดที่แท้จริง”  นายณัฐชา กล่าว

นอกจากนี้ กรณีนี้ยังเป็นวิกฤติศรัทธาของตำรวจ จึงได้มีการหารือกับ กมธ.ตำรวจ ว่าจะหยิบยกเครื่องนี้มาเป็นประเด็นอย่างจริงจัง ว่าสุดท้ายแล้วกระบวนการยุติธรรม หรือวิธีการพิจารณาคดีความของตำรวจจะแสวงหาข้อเท็จจริงได้มากน้อยแค่ไหน  และหากกระบวนการดำเนินไปแล้วพบข้อผิดพลาด สุดท้ายจะกลับมาเริ่ม กระบวนการใหม่ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความผิดด้วยหรือไม่

นายณัฐชา กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่น่ากังวล คือปัญหาคนเร่ร่อน คนไร้ที่พึ่ง กมธ. ได้เชิญมูลนิธิอิสระชน มูลนิธิกระจก ตัวแทนจากกระทรวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาพูดคุยโดยในที่ประชุม กระทรวง พม. ยอมรับ ว่ามีคนกลุ่มดังกล่าว  11 แห่งทั่วประเทศที่อยู่ในการดูแลของกระทรวง 5,000 คน แสดงว่ายังมีอีกหลายพันคนที่อยู่ตามจุดต่างๆ และอาจจะมีลักษณะคล้ายป้าบัวผันที่ถูกกลั่นแกล้ง แต่อาจไม่ถึงแก่ความตาย ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่มีหนทางที่จะต่อสู้ จึงต้องหาทางออก ว่าจะทำอย่างไรกับคนกลุ่มดังกล่าวเมื่อถูกรังแก

ขณะที่นายชัยชนะ ยังฝากถึงรัฐบาล ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าเยาวชนมีการดื่มของมึนเมาเข้าไป ซึ่งนี่เป็นปัญหาหลักจึงอยากให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด จะเห็นได้ว่าปัญหาสังคมทุกวันนี้มาจากลูกฆ่าพ่อ พ่อฆ่าแม่ ก็มาจากปัญหายาเสพติด นอกจากนี้ยังมีปัญหาการติดพนันออนไลน์ ทำให้มีเหตุอาชญากรรมมากมาย

“ตามที่ผมได้คุยกับรองผบ.ตร. เจ้าหน้าที่ท่านใด คนไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีส่วนที่ทำให้ปิดสำนวนแล้วผิด ใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยก ขับรถไปก็ดี หรือเดินทางเข้าห้องไปก็ดี ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นประชาชนจะพึ่งที่ไหนได้  ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถพึ่งพาได้“ นายชัยชนะ กล่าว

เมื่อถามว่าจากที่คุยกับ รองผบ. ตร. มีแค่ตำรวจขาเป๋คนเดียวที่เกี่ยวข้องใช่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า รองผบ. ตร.รอยืนยัน ว่าลุงเปี๊ยกชี้คนเดียว ซึ่งรองผู้กำกับสืบสวนรับทราบ หลังจากนี้หากลุงเปี๊ยกเข้ารับการบำบัด และมีความจำรื้อฟื้น ว่านอกจาก 2 คนนี้ ยังมีใครอีกก็พร้อมรับฟังและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม เราต้องยอมรับสิ่งที่ลุงเปี๊ยกพูด ว่าโกรธที่สุดคือชายขาเป๋ที่ทำร้าย จะเห็นว่าการคลุมถุงดำเกิดขึ้นล่าสุดที่ จ.นครสวรรค์ ผู้กระทำก็รับโทษไปแล้ว วิธีการสืบสวนทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องอุ้มรีด สามารถดูกล้องวงจรปิด ข้อมูลโทรศัพท์ ก็น่าจะเพียงพอในการออกหมายจับ

ส่วนข้อเสนอให้อัยการร้องขอต่อศาลพิจารณาโทษเทียบเท่าผู้ใหญ่ นายชัยชนะ ยอมรับว่า ไม่ได้มีการคุยกัน ซึ่งตนคิดว่าในอนาคต หากจะแก้กฎหมายต้องดูว่ากำหนดโทษเช่นไร เช่นโทษฆ่าผู้อื่น เมื่ออายุครบ 18 ปี ออกจากสถานพินิจ ก็ควรย้ายไปอยู่เรือนจำกลาง ไม่เช่นนั้นในอนาคตคนที่คิดทำร้ายผู้อื่นก็ใช้เด็กเยาวชนเป็นเครื่องมือ เพราะโทษอย่างไรก็ไม่เกิน 4-5 ปี ถ้าอายุ 16 ปีก็รับโทษแค่ 3 ปี

ส่วนกรณีที่ลุงเปี๊ยก ให้การวกไปวนมาเกี่ยวกับพฤติการณ์ของตำรวจระหว่างสืบสวน จะทำให้ตำรวจหลุดจากคดีคดีหรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า หลุดไม่ได้ การกลับไปกลับมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยอมรับว่ากระทำจริง ต้องยอมรับว่าลุงเปี๊ยกเป็นผู้ป่วย เมื่อเข้าสถานบำบัดที่แรก สติกลับมาและได้สอบถามลุงเปี๊ยกก็ชี้ถูก จึงคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหา  ถ้าเรื่องนี้ดำเนินคดีไม่ถึงที่สุด คนที่เสียหายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ.-314 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]