รัฐสภา 18 ม.ค.- “ปกรณ์วุฒิ” ขอ ป.ป.ช.เร่งไต่สวน “ศักดิ์สยาม” ยันไม่ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เชื่ออำนาจอยู่ที่ประชาชนไม่ควรมีองค์กรใด ตัดอนาคตทางการเมืองใคร ลั่น คนอื่นทำ”ก้าวไกล”ไม่จำเป็นต้องทำตาม ด้าน “ชัยธวัช”ย้ำ ไม่กลัวถูกยุบพรรค พร้อมฟังคำวินิจฉัย 31 ม.ค.นี้
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานวิปฝ่ายค้าน ในฐานะผู้ยื่นร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านายศักดิ์สยาม มีผิดจริงและพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ว่า ในขณะที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้านขณะนั้นก็ได้มีการยื่นสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ด้วย ซึ่งเรื่องก็ยังค้างอยู่ ดังนั้น จึงคิดว่า ป.ป.ช.ควรเร่งรัด โดยการเปิดการไต่สวนต่อไป
ส่วนการยื่นตรวจสอบจริยธรรม หรือยื่นยุบพรรค ยืนยันว่าโดยจุดยืนของพรรคก้าวไกล เราเชื่อว่าไม่ควรมีองค์กรใดองค์กรหนึ่งมาตัดสินอนาคตทางการเมืองของใคร อำนาจนั้นควรเป็นของประชาชน พรรคการเมืองจะดำรงอยู่หรือไม่ดำรงอยู่ขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสินผ่านกลไกการเลือกตั้ง
ส่วนที่มีหลายคนเคยยื่นยุบพรรคการเมืองต่างๆนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่คนอื่นทำ ซึ่งหลักการนี้เป็นเรื่องสำคัญ
ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวยืนยันว่า แม้เราทำงานในฐานะผู้ตรวจสอบ แต่เรื่องการยุบพรรคไม่ใช่นโยบายของพรรคก้าวไกล ซึ่งย้ำว่าคดีนี้ยังมีเรื่องต่อเนื่องอีกในขั้นตอนการไต่สวน นอกจากเรื่องยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ยังมีการเอาบริษัทตัวเองมาเป็นคู่สัญญา ซึ่งประเด็นไม่ได้อยู่ที่ยุบพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียว
ส่วนการพิจารณาคดีพรรคก้าวไกลในวันที่ 31 มกราคมนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็ใช้หลักการเดียวกัน แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน บางคนอาจจะคิดว่าพรรคก้าวไกลกังวล เรื่องการถูกยุบพรรค จนไม่ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ต้องบอกว่าไม่เกี่ยวกันแน่นอน เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 31 มกราคมนี้ ไม่ได้เป็นคำร้องให้ยุบพรรค เป็นเพียงคำร้องเพื่อให้ยุติการกระทำ พร้อมย้ำว่าวันนี้พรรคก้าวไกลต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และพร้อมไปรอฟังคำวินิจฉัย
“อย่างวันที่ 24 มกราคม คุณพิธาไปแน่นอน ส่วนผมถ้าไม่ได้ติดโหวตอะไรในสภาก็จะไป เพราะเป็นวันพุธที่มีการประชุมสภาฯ และวันที่ 31 มกราคม ก็คงต้องไป” นายชัยธวัช กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย