รัฐสภา 18 ม.ค.-“เฉลิมชัย” นำทีม ปชป. หอบแจกันดอกไม้ยินดี “ชัยธวัช” เดินหน้าทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งงานปกติ งานสำคัญ พร้อมเปิดศึกซักฟอกรัฐบาลเมื่อถึงเวลาเหมาะสม
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.พรรคเข้าแสดงความยินดี พร้อมมอบแจกันดอกไม้ ให้นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยนายเฉลิมชัย กล่าวขอโทษที่ไม่ได้มาตั้งแต่แรก ขอให้การทำงานทุกอย่างราบรื่น จากนั้นได้หารือแนวทางการทำงานของฝ่ายค้านร่วมกันครั้งแรก โดยมีตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชนร่วมด้วย
ด้านนายชัยธวัช กล่าวต้อนรับและขอสวัสดีปีใหม่ทุกคน ถือเป็นการเริ่มต้นการร่วมงานกัน พร้อมขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมประชุมวันนี้ คงจะเป็นการพูดคุยกันถึงแนวทางการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ว่าแต่ละพรรคมีข้อเสนออะไรบ้าง เพื่อกำหนดเป็นวาระและแผนงานของฝ่ายค้านต่อจากนี้ หากมีข้อเสนอแนะอะไร ทางพรรคก้าวไกลยินดีรับฟัง
ภายหลังการหารือ 1 ชั่วโมง นายชัยธวัช เปิดเผยว่า วันนี้หารือเป้าหมายและแนวทางการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ เพื่อให้การทำงานเป็นเอกภาพมากขึ้น ทั้งในส่วนวาระปกติและการทำงานร่วมกันในวาระสำคัญ เช่น การพิจารณาพ.ร.บ. งบประมาณฯ และการตรวจสอบรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายที่ยังเป็นข้อถกเถียงของสังคม รวมถึงการเปิดอภิปรายทั้งแบบลงมติและแบบไม่ลงมติ โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะเอาประเด็นเป็นตัวกำหนดการย่างก้าวของฝ่ายค้าน ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลา
“ยืนยันว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมไม่เกรงใจแน่นอน แต่เฉพาะโครงการแจกเงินดิจิตอล วอลเล็ตเองอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เนื่องจากรายละเอียดหลายอย่างของรัฐบาลไม่มีความชัดเจน แต่หากรัฐบาลเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนบาท เข้ามาสภาก็พร้อมจะพิจารณา แต่หากใช้วิธีการอื่นก็พร้อมจะตรวจสอบ แต่ตอนนี้เราไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้เลย ที่ผ่านมาอาจจะมีช่องว่างในการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่หลังจากนี้จะมีเอกภาพมากขึ้น สิ่งสำคัญคือความไว้วางใจ การประสานงานกันเพิ่มขึ้น ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลให้เกียรติและเคารพทุกพรรคการเมือง คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา” นายชัยธวัช กล่าว
ด้านนายเฉลิมชัย กล่าวว่าการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน มีสาระสำคัญในทิศทางเดียวกัน หลังจากนี้หน้าที่คือการรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ในส่วนของวิปฝ่ายค้านจะทำงานผสมผสานกันมากขึ้น เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น สิ่งที่ต้องการที่สุดคือประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน.-316.-สำนักข่าวไทย