สว.ลงชื่อขอเปิดอภิปราย  ม.153 เกิน 84 เสียงแล้ว

รัฐสภา 15 ม.ค. -“สว.กิตติศักดิ์” เผยสมาชิกลงชื่อขอเปิดอภิปราย ม.153 เกิน 84 เสียง ชี้เคส “ทักษิณ” สลับซับซ้อน เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก 

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึง ความคืบหน้าการล่ารายชื่อ เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า เช้านี้ได้รับรายงานว่า มีเสียง สว. 84 เสียง ซึ่งน่าจะถึงและอาจจะเกินเล็กน้อยไปถึง 90 เสียง ก็จะทำให้เปิดอภิปรายได้   คาดว่าจะสามารถเสนอถึงประธานวุฒิสภาได้ในสัปดาห์หน้า  เพื่อส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี  จากนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลว่า หากได้รับเอกสารแล้วจะเปิดการอภิปรายได้เมื่อไหร่ ส่วนกระแสข่าวมีขบวนการล็อบบี้ไม่ให้เปิดอภิปรายได้นั้น  อย่าเรียกว่าเป็นการล็อบบี้หรือการสกัด เพราะ สว. 250 คน   มีเอกสิทธิ์ในการที่จะโหวตอย่างไรก็ได้   การจะร่วมลงชื่อหรือไม่ลงถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สว.แต่ละคน


เมื่อถามว่าการโน้มน้าวไม่ให้ สว. ร่วมลงชื่อ โดยอ้างเรื่องว่ารัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ และมีความกังวลในเรื่องของชั้น 14 ที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพักรักษาตัว  นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า จากการได้ฟังหลายฝ่ายบอกได้เลยว่าอนาคตจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก  เพราะเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนมากมาย 

“เรื่องที่ฝ่ายที่ต้องการไม่ให้อภิปราย เพราะกังวลเรื่องของนายทักษิณ จะกระทบต่อเรื่องกระบวนการยุติธรรมเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นการจารึกไว้   ว่าเป็นเรื่องประหลาดไม่ใช่เฉพาะแต่ประเทศไทย   ตนถึงบอกว่าไม่เกินที่จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก”นายกิตติศักดิ์ กล่าว


ส่วนที่ สว.ส่วนใหญ่ มองว่าเรื่องชั้น 14 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องกับกระบวนการยุติธรรม  นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่คนที่มีข้อมูล และมีหลักฐานที่จะมาอภิปรายให้ประชาชนรับฟัง  ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะมาตอบ ทั้งเรื่องของเงินดิจิทัล  เรื่องนายทักษิณ และเรื่องเศรษฐกิจ เพราะ สว.หลายคนทำการบ้าน และหาข้อมูลเรื่องนี้ที่จะอภิปราย โดยเฉพาะเรื่องของนายทักษิณไม่พ้นที่จะถูกนำมาอภิปรายอยู่แล้ว

ทั้งนี้ มีข้อมูลอะไรแตกต่างจากที่หลายฝ่ายตรวจสอบอยู่แล้วขณะนี้  นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ สว.ที่ศึกษาและเก็บข้อมูล ซึ่งมีไว้มากพอสมควร 

“ถ้าบอกไปก่อนเดี๋ยวจะจืด   ส่วนเป็นข้อมูลใหม่หรือไม่ ขอให้ไปสอบถามคนที่จะอภิปราย ซึ่งตนไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครจะเป็นผู้อภิปราย ถือเป็นความลับ” นายกิตติศักดิ์ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย