ก้าวไกลทิ้งกมธ.แลนด์บริดจ์

รัฐสภา 12 ม.ค.-สส.ก้าวไกลไขก๊อก กมธ.แลนด์บริดจ์ บอกไม่อยากเป็นตรายาง คาใจหลายโครงการคำตอบไม่ชัดเจน ชี้ตัดแปะผลการศึกษา อาจเข้าข่ายหลอกต่างชาติลงทุน หวั่นทำปท.เสียหาย


นายจุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การประชุมวิสามัญศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (โครงการแลนบริดจ์) วันนี้(12 ม.ค.) ได้รับแจ้งว่าเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายและจะพิจารณารับรองผลการศึกษาโครงการแลนบริดจ์ ซึ่งในการประชุมมี กมธ.ในสัดส่วนพรรคก้าวไกลทักท้วงหลายเรื่องที่ยังไม่มีความชัดเจนและยังไม่ได้รับคำตอบ เช่น ท่อส่งน้ำมันที่ไม่มีการศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพสิ่งแวดล้อม ความน่าเชื่อถือบางเรื่อง ทั้งเรื่องความต้องการของบริษัทเดินเรือที่จะมาใช้โครงการ ซึ่งมีความเกินจริง การประหยัดต้นทุน การเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกาการคำนวณผลตอบแทนทางการเงินทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถตอบชัดเจน

“รายงานที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำขัดแย้งกับรายงานการศึกษาของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ระบุว่าโครงการแลนด์บริดจ์ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ขณะที่การศึกษาของสนข.ระบุจะได้ผลตอบแทนร้อยละ 17 ซึ่งการพิจารณาให้น้ำหนักไปที่ผลการศึกษาของสนข.เป็นหลัก ทำให้สส.พรรคก้าวไกลทักท้วง แต่เนื่องจากมีเสียงน้อยเพียง  4 คน ประกอบด้วยน.ส.ศิริกัญญา  ตันสกุล นายประเสริฐพงษ์สุวัฒน์ นายศุภณัฐ  มีนไชยนันท์และตนเอง และนักวิชาการอีก 1 คนคือนายสมพงษ์ ศริโสภณศิลป์ นักวิชาการ จึงขอถอนตัวและลาออกจากกรรมาธิการโดยมีผลทันทีในวันนี้ อีกทั้งไม่สามารถร่วมลงชื่อรับรองรายงานฉบับดังกล่าว” นายจุลพงษ์ กล่าว


น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ได้ตั้งคำถามในที่ประชุมจนเกิดข้อถกเถียงไม่จบต่อสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน คุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนในโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประมาณการสินค้า หรือเส้นทางเดินเรือที่มีการโยงใยเส้นทางมากมาย แต่ไม่ได้คำตอบ เรือประเภทไหนที่จะมาเดินเรือหรือจะมีปริมาณสินค้าเท่าไหร่มีสมมติฐานอย่างไรบ้าง รวมถึงการเจริญเติบโตของท่าเรือ ซึ่งในวันนั้นประธานในที่ประชุมได้ปิดการประชุมและบอกว่าจะเชิญ สนข.มาใหม่ แต่ในวันนี้ไม่เชิญสนข.มา

“วันนี้เป็นวันประชุมครั้งสุดท้ายแล้ว และพยายามที่จะลงมติรับรองรายงานฉบับนี้ ดิฉันไม่สามารถพิจารณาตัวรายงานฉบับนี้ได้อย่างแท้จริง เพราะข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนและไม่สามารถที่จะมีส่วนร่วมที่จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติรายงานฉบับนี้ได้ และท้ายที่สุดไม่ได้มีการขอต่อขยายอายุของคณะกรรมการชุดนี้ออกไปเพื่อที่จะให้มีการพิจารณาดังต่อเนื่องโดยการเชิญตัวแทนหน่วยงานสนข. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ด้านนายสมพงษ์  ศิริโสภณศิลป์ หนึ่งในกรรมาธิการที่ลาออก กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะต้องพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ แต่โครงการนี้ไปวางน้ำหนักไว้ที่สินค้าของไหหลำไว้ค่อนข้างมาก จึงมองว่าควรออกแบบโครงการนี้ใหม่ และควรเน้นไปที่สินค้าภาคใต้มากกว่าสินค้าไหหลำ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกิดขึ้นในชั้นกรรมาธิการ และหน่วยงานก็ไม่ได้มีการเข้ามาชี้แจงตัวเลขที่แน่นอน จึงพิจารณาไม่ได้ว่าตัวเลขที่ประมาณการนั้นสมเหตุสมผลมากน้อยแค่ไหน


ขณะที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เจตนารมณ์หลักคือมาคำตอบให้กับประชาชนว่าจริงๆแล้วโครงการแลนด์บริดจ์ จะกำไรหรือขาดทุน ลดระยะเวลาได้จริงหรือไม่ ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือไม่ แต่สิ่งที่พยายามทำมาร่วม 90 วันเรายังหาคำตอบไม่ได้ ทำไมรายงานของสภาพัฒน์จึงแตกต่างกับรายงานของสนข. ข้อมูลที่อยู่ในรายงานที่จะมีการลงมติเห็นชอบใช้ข้อมูลของสนข.ทั้งหมด โดยที่ไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงตัดข้อมูลของสภาพัฒน์ ทิ้งในฐานะที่เราเป็นผู้ศึกษา เราไม่ควรเลือกที่จะหยิบข้อมูลไหนหรือไม่หยิบข้อมูลไหนมาใช้มีหน้าที่นำข้อมูลรอบด้านทั้งหมดใส่ลงไปในรายงานและอ้างอิงว่าข้อมูลที่ได้มานั้นได้มาจากหน่วยงานไหน สุดท้ายแล้ว จะเกิดความเสียหายต่อประเทศ

“เรากำลังจะไปขายต่างประเทศจะนำข้อมูลด้านเดียวจากหน่วยงานของภาคราชการไปขายกับต่างประเทศ หากต่างประเทศย้อนกลับมาว่าเมื่อศึกษาแล้วไม่คุ้มทุนอย่างที่เราบอกจะเกิดอะไรขึ้นนั่นหมายถึงว่าการศึกษาของรัฐบาลไทยแย่หรือไม่หรือรัฐบาลไทยกำลังไปหลอกให้ต่างชาติมาลงทุนหรือไม่ ดังนั้นหากรายงานออกไปเป็นแบบนี้ จะสร้างความเสียหายต่อคณะกรรมาธิการ และต้องเสียหายต่อรัฐสภา รวมถึงผู้ที่หยิบยกข้อมูลนี้ไปอ้างอิงหรือนำไปใช้เพื่อขายให้กับต่างชาติ คาดว่ากรรมาธิการจะลงมติรับรองในวันนี้ซึ่งในชั้นเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสส.ก้าวไกลจะถือโอกาสอภิปรายเพื่อชี้ให้เห็นความผิดปกติอีกครั้ง” นายศุภณัฐ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (โครงการแลนบริดจ์) สภาผู้แทนราษฎร สัดส่วนพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายจุลพงษ์  อยู่เกตุ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ และนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ รวม 4 คนและ นายสมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ กรรมาธิการคนนอกที่เป็นนักวิชาการ ได้แสดงความจำนงลาออกจากกรรมาธิการ และให้มีผลทันทีในวันนี้(12 ม.ค.).-312.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]