2 ปท.เตรียมตั้งคณะทำงานแก้ไฟป่า-หมอกควัน

จ.เชียงใหม่ 12 ม.ค.- “เศรษฐา” เผย ยกหูคุย “ฮุนมาเนต” แล้ว ตั้งคณะทำงานร่วมแก้ไฟป่า หมอกควัน เตรียมประชุมวงเล็กที่จ.สระแก้ว ก่อนนัดลงพื้นที่ดูปัญหาจริงด้วยกัน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการนำนักธุรกิจลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่า นักธุรกิจใหญ่ ๆ จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องของหลักสูตรรวมมิตร โดย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ซึ่งรู้จักกันมานานตั้งแต่เด็ก ได้พูดคุยในหลาย ๆ วง เรื่องการมารวมตัวพบปะสังสรรค์ถือเป็นเรื่องดี ถือเป็นการสร้างเครือข่ายช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เหนือสิ่งอื่นใดต้องทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น จึงคิดว่าเราควรมาเริ่มต้นที่โครงการพระราชดำริ ซึ่งทีมงานกำลังจัดการและคิดว่าจะไปเยี่ยม 2 แห่ง

“ไม่ได้ต้องการให้นักธุรกิจใหญ่หรือเจ้าของกิจการมาแค่ซื้อผลิตภัณฑ์หรือมาบริจาคอย่างเดียว พูดง่าย ๆ เราไม่ต้องการเงินแต่ต้องการความรัก ความตั้งใจ ที่จะมาบูรณาการความช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะการเปิดตลาดใหม่ ๆ ทำให้โครงการพระราชดำริ ซึ่งมีราษฎรทำมาหากินเยอะมาก ปลูกผักและสินค้าต่าง ๆ อยากให้เขามีตลาดที่แข็งแกร่งขึ้น โดยให้นักธุรกิจใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถเชิงพาณิชย์มาช่วยกันอย่างยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกันเรื่องการท่องเที่ยวก็เป็นเรื่องใหญ่ วันนี้นักท่องเที่ยวมาเยอะมาก โดยเฉพาะเกาหลี เนื่องจากรัฐบาลเปิดสนามบินเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง ขึ้นลงได้รอบดึกหลังเที่ยงคืนจึงทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้มาเที่ยวเยอะขึ้น ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าและใช้เงินได้อย่างเต็มที่ เชื่อว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทั้งนี้จะมีการพูดคุยกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะต้องมีการจัดทำโรดโชว์เกาหลีมากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเช้าได้ไปงานฉลองชาติพันธุ์ลาหู่ มีคนมาร่วมงานหลายพันคนจากหลายประเทศและน่าชื่นชมชาติพันธุ์ต่าง ๆที่ มาอยู่ในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สร้างงานสร้างอาชีพโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงสืบสานต่อ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเรา ต้องให้ความเป็นธรรมหากสืบทราบได้เขาเกิดที่นี่ก็ควรได้สิทธิขั้นพื้นฐานโดยไม่ต้องจ่ายพิเศษอะไร ทั้งการศึกษา สาธารณสุข และการประกอบอาชีพ รัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญและดูแลอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าพี่น้องชาติพันธุ์ จะสบายใจได้ และอีก 1-2 เดือนนี้ ตนจะลงพื้นที่โดยขึ้นบนเขาไปพูดคุยกับชาติพันธุ์ต่างๆ น่าจะเห็นทางออกให้กับทุกท่านได้ เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจึงอยากจะมาลองดูเอง

ส่วนการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่หลายรอบ ต้องการเห็นเชียงใหม่บูมเรื่องการท่องเที่ยวอย่างจริงจังใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายเรื่อง ที่จังหวัดภูเก็ต ขอนแก่น อุดรธานี ก็ไป และยังมีอีกหลายจังหวัดที่ไม่ได้ไป จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเยอะศักยภาพสูง เป็นจุดศูนย์กลางของล้านนา หากเราสามารถทำให้เจริญเติบโตได้จังหวัดรอบๆจะเกิดความแข็งแกร่งขึ้น ทั้งเชียงราย ลำปาง พะเยา ลำพูน แต่ของพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นวันเดียว จะต้องดูแลเรื่องสาธารณูปโภคด้านคมนาคมด้วย เพื่อให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ควบคู่กับการดูแล Pm 2.5 โดยคุยกันเชิงลึก การมาวันนี้เพื่อตอกย้ำว่าอย่าให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี จุดฮอตสปอร์ตเริ่มลดลง อย่างไรก็ตามเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านก็มีความสำคัญ และช่วงนี้กัมพูชามีการเผาเกิดขึ้น


“4 ทุ่มกว่าเมื่อคืนผมโทรคุยกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เห็นพ้องกันตั้งคณะทำงานร่วมและฮอตไลน์คุยกันได้ตลอด บ่ายนี้น่าจะมีแถลงการณ์เป็นทางการ  เพราะท่านตระหนักปัญหานี้ ซึ่งปัญหาของเราขึ้นกับทิศทางลมด้วย ถ้าเราเผาอาจไปทางเขา เขาเผาอาจมาทางเรา จึงต้องเป็นความร่วมมือทั้งสองประเทศ ดีใจที่ผู้นำกัมพูชาให้ความสำคัญและพูดคุยกัน เมื่อเช้านี้ทางสำนักงานเลขาฯได้ติดต่อกันแล้ว จะตั้งคณะทำงานโดยอาจจะใช้จิสด้าของเราเป็นจุดศูนย์กลางในการวัดค่าฮอตสปอร์ต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง จะได้ชี้เบาะแสได้ว่าตรงไหนมีการเผาเยอะ หากเราไม่ประชุมกัน ก็อาจจะไม่ทราบ พื้นที่ตรงนี้ถือว่าสำคัญ ไม่ใช่เพียงมาส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือเศรษฐกิจอย่างเดียว สิทธิพื้นฐานของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เรื่องอากาศสะอาดและพระราชบัญญัติอากาศสะอาดได้เข้าสภาฯ เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่จบเข้าใจว่ามีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่อาทิตย์หน้าก็น่าจะจบได้

เมื่อถามว่ามีโอกาสจะลงพื้นที่ร่วมกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แน่นอนหากจำได้ครั้งที่ตนเดินทางไปจังหวัดสระแก้ว  ดำริว่าจะประชุมวงเล็กที่นั่น ซึ่งต้องดูก่อนเพราะสมเด็จฮุนมาเนต จะมาไทยวันที่ 7 ก.พ. จะพูดคุยกันเรื่องนี้และนัดกันในการประชุมครั้งต่อไปจะมีการลงพื้นที่จริง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพราะเป็นจุดศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การค้าระหว่างสองประเทศ และถือโอกาสพูดคุยกันในหลายเรื่อง ถือว่าดีเพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการพูดคุยกันได้อย่างดี ขณะเดียวกันผู้บัญชาการทหารได้มีการพูดคุยกับผู้นำเมียนมาร์ เรื่องยาเสพติดและหมอกควันไฟป่า Pm2.5 ตรงนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจแม้ปัญหายังมาไม่เยอะ ยังไม่ได้เข้าไฮซีซั่นแต่เราต้องมีการป้องกันไว้ก่อน ให้ต้องขอบคุณทุกฝ่ายให้ความสนใจจริงๆ .-316.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]