ปชป.จัดทัพลงพื้นที่เข้าถึง ปชช. ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่

ปชป. 7 ม.ค.- “เฉลิมชัย” จัดทัพ สั่ง 5 รองหัวหน้าพรรคแต่ละภาคจัดยุทธศาสตร์ลงพื้นที่เข้าถึง ปชช. มอบ “เดชอิศม์-นริศ” กุมบังเหียนศึกซักฟอก ขณะ “ดร.เอ้” ดูงานประชาสัมพันธ์ “ราเมศ” ยัน ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ หลังถูกตั้งคำถามออมมือหรือไม่ ชี้ ข้อครหาจะร่วมรัฐบาล สร้างความเสียหาย ระบุ จำเป็นต้องพูดคุย “ก้าวไกล” ให้งานฝ่ายค้านราบรื่น


นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่นัดแรก (7 ม.ค.) นานกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ในที่ประชุมมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แจ้งการตอบรับการเปลี่ยนแปลงจาก กกต. ซึ่งมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 40 คน
และที่ประชุมได้สรุปภาพรวมของการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ที่ สส.ได้ทำการอภิปราย โดยกรรมการบริหารพรรคได้ชื่นชมที่ได้ทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่ นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า ปชป.ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็งตรงไปตรงมา ติติงมีข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์

ส่วนที่กรรมการบริหารฯ มีการเตรียมการพูดคุยคือในวาระต่อไปของสภา ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งจะต้องเตรียมในการทำหนัาที่ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ โดยที่ประชุม มอบหมายให้ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคฯ รับผิดชอบในการดำเนินกิจการทางการเมือง เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ


ส่วนการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคที่จะเริ่มต้นในทันที เพื่อให้ประชาชนได้เห็นแม้จะมีการเปลี่ยน กก.บห.ชุดใหม่แต่ ปชป.มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างเต็มที่ และได้มอบหมายตำแหน่งสำคัญ อย่างรองหัวหน้าพรรคในแต่ละภาค โดยรองภาคทั้ง 5 คน 5 ภาคนั้น จะต้องมีการกำหนดกรอบการทำงานผ่านยุทธศาสตร์ภาค ยุทธศาสตร์จังหวัดเพื่อให้เห็นสภาพข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ และเพื่อให้เห็นรายละเอียดทั้งหมด แล้วนำมาประกอบการทำงานของพรรค เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทุกรูปแบบ รวมถึงที่ประชุมยังให้ความสำคัญกับการตั้งตัวแทนสาขาพรรคในทุกจังหวัด เพื่อรุกการทำงานกับตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้มีทุกจังหวัด เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะให้ประชาขน ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเขตเลือกตั้ง กับสมาชิกของพรรค เพื่อร่วมทำงานเต็มรูปแบบในการดูแลปัญหาของประชาขน เพราะส่วนกลางอาจจะทำงานอย่างละเอียดไม่ได้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ต้องให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข รวมถึงการร้องเรียนของประชาชนทุกเขตเลือกตั้ง ก็ต้องผ่านกระบวนการสาขาของพรรคด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำควบคู่ไปกับแนวนโยบายของหัวหน้าพรรค ในการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านกลไกการเข้าร่วมเป็นส่วนร่วมของพรรคการเมือง และจะต้องรณรงค์เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากที่สุด เพราะเราเป็นสถาบันทางการเมือง รากฐานของปชป.มาจากประชาชน และเพื่อให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมมากที่สุด

นายราเมศ ยังกล่าวอีกว่า กรรมการบริหารพรรคฯ ได้พูดคุยถึงการรณรงค์ให้ประชาชน ร่วมกันเสียภาษีให้กับพรรคการเมือง โดยปชป.จะทำแคมเปญให้ประชาชนมีส่วนร่วมบริจาคภาษีให้ ปชป. ผ่านรหัส001 เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความเป็นสถาบันทางการเมือง ที่จะต้องทำงานร่วมกับ สส. เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม และมุ่งเน้นการทำงานอย่างมีเอกภาพ ทุกองคาพยพ ทั้ง กก.บห. , สส. , อดีต สส. ,อดีตกก.บห. , สาขาพรรค ตัวแทนประจำจังหวัด และนายเฉลิมชัย ยังได้เน้นย้ำ เรื่องการเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็น และรับฟังทุกเสียงสะท้อนที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม โดยเสนอแนะให้ประชาชนเข้ามากำหนดทิศทางในการดำเนินกิจการทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์


ทั้งนี้ ยังได้ให้ นายสุชัชวี สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ เข้ามาดูเรื่องการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ทั้ง 77 จังหวัดให้มากที่สุด เพื่อการฟื้นฟูพรรค และเรียกศรัทธาให้กับพรรคได้มากที่สุด

นายราเมศ ยังยืนยันย้ำว่า พรรคเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ผ่าน สภาผู้แทนราษฎร หลังหลายฝ่ายตั้งคำถามเรื่องทำหน้าที่ไม่จริง และออมมือบ้าง แต่การอภิปรายที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ ในส่วนนักโทษที่มีที่พักที่โรงพยาบาลตำรวจ และมีการตั้งงบมานั้น ได้ใช้งบประมาณส่วนไหนอย่างเท่าเทียมกับนักโทษกว่า 2 แสนหรือไม่ เพราะประชาชนคงมาคำถามในเรื่องของการเลือกปฏิบัติ และถือว่ามีพรรคการเมืองเดียวที่พูดเรื่องนี้ด้วย เราเป็นฝ่ายค้านที่หน้าที่อย่างเข้มข้นตรงไปตรงมา เรื่องไหนทำถูกต้องก็ยินดี และหากไม่ถูกต้องก็ต้องท้วงติง

เมื่อถามว่า จะเป็นการตอกย้ำว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายราเมศ ระบุว่า มันเป็นคำถามที่ทุกคนพูดถึงมากเกินไป ซึ่งยืนยันย้ำว่า ปัจจุบันยังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นอีกกิจกรรมทางการเมือง ที่ชี้ให้เห็นว่า เราเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และสร้างสรรค์ ส่วนประเด็นอื่นๆ ตนมองว่า เป็นหารกล่าวหาพรรคและพรรคก็เสียหาย ทั้งพรรคมีความไม่ชัดเจน ซึ่งความชัดเจนนั้นได้ผ่านการกระทำและการปฏิบัติ

เมื่อถามว่า ในวันที่ 18 ม.ค.หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการหารือกับผู้นำฝ่ายค้านในประเด็นใดบ้างนั้น นายราเมศ ระบุว่า การเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกัน ถือเป็นเรื่องปกติของการที่ตะพูดคุยกัน และพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านที่กำหนดยุทธศาสตร์ และนโยบายพรรค เราก็แสดงความเห็นอยู่หลายครั้ง ไม่ใช่ว่า เป็นฝ่ายค้านแล้วเราจะเห็นด้วยในนโยบายของพรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่ตะเป็นการพูดคุยกลไกในการทำงานร่วมกันภายในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งการจัดสรรเวลา และการจัดสรรข้อมูล ในประเด็นต่างๆ ของการทำงานในสภา ในฐานะที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกันจึงมีความจำเป็นต้องพูดคุยเพื่อให้บทบาทของฝ่ายค้านในสภาเป็นอย่างราบรื่น .-316 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย