รัฐสภา 5 ม.ค.-นายกฯ มองภาพรวมอภิปราย 2 วัน ดูดี มีติเพื่อก่อ ยันรัฐบาลดูแลประชาชนทุกที่ทั่วถึง ชี้ตั้งแต่เป็นนายกฯ ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 รอบ หลัง สส. ติง จัดงบภาคใต้ไม่เท่าเทียม พร้อมลุกแจงสภา ย้ำออก พ.ร.บ.กู้เงินใช้ดิจิทัลตามแบงก์ชาติแนะ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วันที่สอง ที่เริ่มดุเดือดขึ้น และพรรคประชาธิปัตย์ชี้เรื่องการจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ภาคใต้ไม่เท่าเทียม ว่า ภาพรวมเมื่อวานนี้(4ม.ค.) ดูดี เป็นไปในทางติเพื่อก่อ หลายเรื่อง เราได้อธิบายพูดคุยและชี้แจงไป ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ระบุเรื่องการจัดงบฯ ภาคใต้นั้น ต้องเข้าใจว่างบฯ นี้มีมรดกมา เราเองก็พยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องภาคใต้ตนเองเชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้ว ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 2 รอบ ลงไปจังหวัดภูเก็ตหลายหน
“แม้เรื่องของงบฯจะเป็นตัวบ่งบอก ว่าจะทำให้พื้นที่มีความมั่นคงมั่งคั่งเกิดขึ้นได้ แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่อยากให้ลืมไปคือเรื่องการใส่ใจ รัฐบาลนี้จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกที่อย่างทั่วถึง แล้ววันนี้ถ้ามีโอกาสตนจะขึ้นชี้แจงเพื่อให้เข้าใจถึงความตั้งใจจริง ที่รัฐบาลนี้มีอยู่ ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีภายใน 4 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกภาคจะดีขึ้นครับ” นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายมีจุดไหนที่เป็นประโยชน์และจะนำมาปรับ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีหลายจุดและจะมานั่งประชุมกันอีกทีว่าจุดไหนที่จะนำมาปรับได้ และเวลาที่ตนขึ้นชี้แจงข้อสงสัย ตนก็บอกจะว่าการน้อมรับ ในแง่การแบ่งสรรงบให้เป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุด
“ตนจะรับฟังและหากมีโอกาสก็จะขึ้นชี้แจง ซึ่งมีหลายมุมที่จะชี้แจงกับสมาชิกฝ่ายค้าน ทั้งเรื่องการจัดสรรงบไม่เป็นธรรม เราต้องมาโฟกัสกันที่จะทำอย่างไรมากกว่า ไม่ใช่เรื่องงบอย่างเดียว เรื่องการดูแลประชาชนทุกภาคส่วนให้มีความเท่าเทียมเสมอภาค ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านนำคลิปที่นายกรัฐมนตรีเคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่าจะไม่กู้เงินเพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำตามคำแนะนำของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าให้ออกเป็น พ.ร.บ.ดีกว่า ซึ่งเวลาที่เราจะดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็บอกให้รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานหลัก ซึ่งตนก็ฟัง และวานนี้(4 ม.ค.) ยังไม่มีเวลาที่ได้พบกับกฤษฎีกา แต่บ่ายวันนี้(5 ม.ค.) คาดว่าจะได้เจอกับกฤษฎีกา.-316.-สำนักข่าวไทย