นายกฯ ยันให้ความสำคัญ FTA ดึงลงทุน ป้องกันย้ายฐานผลิต

รัฐสภา 3 ม.ค.- “เศรษฐา” ยันให้ความสำคัญ FTA ดึงการลงทุน ป้องกันย้ายฐานการผลิต เร่งแข่งกับเวียดนาม วางจุดยืนเป็นกลางในเวทีโลก แจงเดินทางบ่อย ไปจีบนักลงทุนต่างชาติ หวังสร้างงาน เพิ่มรายได้ พัฒนาฝีมือแรงงาน ด้าน ปัญหาในเมียนมา ไทยจะตั้งศูนย์ช่วยเหลือ พร้อมเจรจาแก้ PM 2.5 – ยาเสพติด ส่วนพื้นที่ทับซ้อนเตรียมหาประโยชน์ร่วมกัน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอบการอภิปรายของนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ต่อร่างนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายต่างประเทศโดยยึดมั่นกฎหมายบัตรต่างประเทศ แบบพหุภาคีมากขึ้น ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับสนธิสัญญาการค้าระหว่างประเทศ หรือ FTA โดยประเทศเรายังล้าหลังประเทศคู่แข่ง อาทิ เวียดนาม จึงมีความเสี่ยงต่อการลงทุนของต่างชาติและการย้ายฐานการผลิตจากความคืบหน้าการทำข้อตกลง FTA พร้อมยืนยันรัฐบาลมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน

สำหรับจุดยืนของประเทศไทยในเวทีโลก นายเศรษฐา กล่าวว่า ประเทศไทยชัดเจนมีจุดยืนความเป็นกลางและความภาคภูมิใจในเอกราช กรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศอิสราเอล ซึ่งรัฐบาลใช้นโยบายเป็นกลางทางการทูต โดยอาศัยความร่วมมือจากนานาชาติที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงในการช่วยเหลือคนไทยผู้บริสุทธิ์


ส่วนการเดินทางของนายกรัฐมนตรีไปประเทศต่างๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไปเพื่อดึงดูดการลงทุนจากประเทศต่างๆ ยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมและให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นให้มีรายได้ที่สูงขึ้น โดยรัฐบาลดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง 100 วัน ซึ่งเราต้องแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อยื่นข้อเสนอที่ดีให้กับประเทศนักลงทุน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้มีดีแค่นโยบายภาษี แต่ประเทศยังมีโรงเรียนนานาชาติ และระบบสาธารณสุขระดับโลก ซึ่งมีผลกับการอยู่อาศัยของนักลงทุน ดังนั้น รัฐบาลจะให้ความสำคัญเพื่อเป็นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

สำหรับเรื่องของทุนมนุษย์ นายเศรษฐา กล่าวว่า การดึงดูดนักลงทุนเราไม่ได้ต้องการให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนให้เกิดการจ้างงานเท่านั้น แต่เราจะให้นักลงทุนพัฒนาแรงงานสร้างทักษะพิเศษที่ประชาชนของประเทศยังขาดอยู่ เพื่อประชาชนสามารถทำงานในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้ มีรายได้ดี มีรายได้สูงขึ้น

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นกับภายในเมียนมา นายเศรษฐา กล่าวว่า เมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทย มีประชากรใกล้เคียงกันประมาณ 70 ล้านคน มีชายแดนติดกับไทยกว่า 2 พันกิโลเมตร เป็นประเทศที่มีความสำคัญ ปัจจุบันเกิดปัญหา ไทยต้องเป็นผู้นำในการตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ รวมกับเจรจาแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และปัญหายาเสพติด


ส่วนกรณีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนกับประเทศกัมพูชา นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเจรจากับประเทศกัมพูชา ซึ่งเรามีความสัมพันธ์อันดี เป็นหนึ่งในวาระสำคัญกับผู้นำประเทศ เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรร่วมกัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งสองประเทศ .318 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มาตรการสู้ฝุ่น

ขานรับมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน “รถไฟฟ้า-รถเมล์” ขึ้นฟรี

“รถไฟฟ้า-รถเมล์” ฟรีตามมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน พบส่วนใหญ่เลือกนั่งรถฟรี ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนรถไฟฟ้าคนแน่น ขณะที่โรงเรียน กทม. 437 แห่ง เปิดเรียนตามปกติ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กทม.อากาศเย็นตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมย์วิวคว้าแชมป์แบด

“เมย์-วิว” คว้าแชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์แบดมินตันอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ในประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว