“ทวี” ย้ำ “ทักษิณ” นอนโรงพยาบาล “ป่วยจริง”

รัฐสภา 3 ม.ค. – “ทวี” ชี้ ไม่ได้ออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ให้นักโทษคนใดคนหนึ่ง ย้ำ “ทักษิณ” นอนโรงพยาบาล “ป่วยจริง”

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงงบประมาณในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ที่มีการอภิปรายโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนของงบประมาณกรมราชทัณฑ์ 6 ปี 38,000 ล้านบาท ที่เป็นการนำมาจากสมุดงบประมาณเล่มที่ 9 ของกระทรวงยุติธรรม ตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีโครงการผู้ต้องขังที่ต้องได้รับการดูแล ในแต่ละปี ปีละ 6,600 ล้านบาท โดยบอกว่าไม่เห็นด้วยกับงบประมาณดังกล่าว ส่อที่จะไปช่วยเหลือและเลือกปฏิบัติกับผู้ต้องขังบางท่าน

คิดว่าต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน ว่าการเป็นรัฐบาลต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รวมถึงหลักนิติธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญได้เขียนไว้ รัฐต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ปี 2560 เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีรัฐบาลชุดปัจจุบัน และเหตุผลที่เป็นสาระสำคัญที่มีการพูดเสมอว่าเราจะธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม ก็คือกฎหมายรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นกฎหมายสูงสุดกฎหมายอื่นจะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ เช่นเดียวกันคนเป็นรัฐต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด กฎหมายราชทัณฑ์ปี 2560 เป็นการแก้ไขกฎหมายราชทัณฑ์ปี 2479 เพราะกฎหมายเดิมไม่สอดคล้องกับอาญาระหว่างประเทศ ไม่สอดคล้องกับหลักสากลไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำของหลักสากล ที่สำคัญ คือกฎหมายเดิมไม่สามารถจัดการหรือบริหารนักโทษผู้ต้องขังเฉพาะรายหรือเฉพาะคดี ได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติในการให้อำนาจดำเนินการและไม่สามารถที่จะใช้สถานที่ควบคุมหรือที่คุมขังประเภทอื่นได้ โดยการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ตามบทเฉพาะการต้องดำเนินการออกกฎกระทรวงและระเบียบให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วัน การที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตาม หรือให้เป็นไปตามกฎหมายผมถือว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนนั้นไม่ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม

ตามเหตุที่ออกกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพราะต้องการให้บ้านเมืองมีหลักนิติธรรมเนื่องจากในเรือนจำที่เป็นอยู่ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำประมาณ 280,000 คน อัตราการคุมขังที่มีอยู่ได้ไม่ถึง 200,000 คน มีคนเกินอยู่ในราชทัณฑ์ประมาณ 100,000 คน ประเทศไทยถูกตราหน้าว่าหลักนิติธรรมทางอาญาสอบตก

หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเราจะเป็นคนทำลายหลักนิติธรรม หากไม่สามารถอยู่ในเรือนจำได้ก็จะต้องอยู่ในกลุ่ม ที่จำแนกที่คุมขัง ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่นานาชาติยอมรับ ราชทัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ฆ่าคน ทรมานคน ใครเจ็บป่วยต้องไปรักษาการไปรักษาไม่ใช่แค่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวแต่มีคนจำนวนมากไปรักษาและการรักษาของท่านก็ต้องเรียนว่าท่านเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มองว่าท่านเป็นนักสร้างสันติภาพแม้ก่อนหน้านั้นมองว่าไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ แต่วันนี้เมื่ออยากเห็นบ้านเมืองมีสันติภาพสันติสุขมีความปรองดองก็กลับเข้ามาอยู่ในกระบวนการยุติธรรม การป่วยของท่านก็เกิดก่อนรัฐบาลนี้เข้ามา ท่านเข้ามาก่อนรัฐบาลนี้ประมาณเดือนกว่าเข้ามาสู่กระบวนการกฎหมายและราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับแพทย์สูงสุด พบว่า กรณีผู้ที่ไปรักษาตัวนอกโรงพยาบาลที่เกี่ยวเนื่องกับเรือนจำ กฎหมายเขียนว่าที่นั่นคือเรือนจำ การอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมไปไหนไม่ได้อันนี้ก็คือการเสียเสรีภาพแล้วไม่ว่าจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไหน หลายคนสงสัยว่าท่านป่วยจริงไหม ผมเป็นรัฐมนตรียุติธรรมและไม่เคยไปเยี่ยมแต่เคยถามทางแพทย์แพทย์ก็ยืนยันว่าท่านป่วยจริงและมีอาการ การพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วันกฎหมายระบุเกินกว่า 120 วัน ก็ต้องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบโดยต้องมีแพทย์ผู้รักษาและหลักฐานอื่นๆ ประกอบ วันนี้เกินกว่า 120 วันแล้ว อธิบดีกรมราชทัณฑ์กำลังตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนอยู่ในกระบวนการที่กำลังจะเสนอมายังตน ซึ่งพอเป็นอดีตนายกฯ ทักษิณ คนอาจมองแตกต่างกันแต่หากยึดกฎหมายหลักแพทย์หลายคนยืนยันว่าท่านป่วย

ซึ่งก็ไม่ได้ถูกตรวจสอบโดยสมาชิกในสภาเท่านั้นยังมีการตรวจสอบโดยองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน อยากให้ทำความเข้าใจว่างบประมาณที่ท่านจุรินทร์ได้อภิปรายไป 30,000 กว่าล้านมัน 6 ปี ปีละประมาณ 6,000 ล้าน ในจำนวนปีก็เป็นค่าอาหารเกือบ 5,000 ล้านบาทแล้ว ที่เหลือเป็นค่าบริหารและในแต่ละปีเงินนี้ก็ไม่เพียงพอต้องมีการของบกลางผม ผมในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมที่นายกกำชับให้เพิ่มหลักเข้มแข็งของยุติธรรมจะไม่ทำอะไรนอกเหนือกฎหมายจะเข้มแข็งท่ามกลางความยุติธรรม หากใครเป็นผู้ทรงอิทธิพลไม่ว่าใครก็ถูกดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

งบของกระทรวงยุติธรรมกรมราชทัณฑ์ต้องการพัฒนาเป็นสถานที่สร้างคนเพื่อให้คนกลุ่มนี้ออกมาสู่สังคมได้สร้างชาติ และเชื่อมั่นว่าความยุติธรรมอาจใช้เงินไม่มากนักแต่ถ้าบ้านเมืองมีความยุติธรรมปัญหาต่างๆ จะได้รับการแก้ไข คดีในระหว่างการพิจารณาที่ศาลยังไม่ตัดสินถึงที่สุด ก็เตรียมออกประกาศกฎกระทรวง กำลังรอทำประชาพิจารณ์ นักต่อสู้อาจใช้ข้อนี้ ว่าตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสินจะปฏิบัติต่อผู้นั้นเหมือนผู้กระทำผิดไม่ได้ ผมก็ต้องมาทำหน้าที่นี้ผมจะรักษาไว้ซึ่งความสูงสุดของรัฐธรรมนูญและความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญจะปฏิบัติตามหลักการนี้ต่อไป – 313 .-สำนักข่าวไทย