รัฐสภา 3 ม.ค.- “จุลพันธ์” แจงเหตุเปลี่ยนแหล่งที่มา “ดิจิทัล วอลเล็ต” เป็น พ.ร.บ.กู้เงินแทนบรรจุในงบ 67 ย้ำ รัฐบาลจริงใจแก้ไขปัญหาปชช. พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 หลังการอภิปรายของน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า ขอบคุณที่ช่วยนำเสนอจุดอ่อนให้รัฐบาล และถือเป็นภาระของรัฐบาลที่จะเร่งแก้ไข ทำให้เม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นประโยชน์กับประชาชน พร้อมรับข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ไว้ อะไรที่เป็นวาทกรรมขออนุญาตไม่ตอบ ทั้งเรื่อง “เป็ดง่อย” หรืออะไรต่าง ๆ
“รัฐบาลจริงใจในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แน่นอนว่างบประมาณเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา แต่หากจะหางบประมาณในการแก้หนี้ การท่องเที่ยวอยู่ตรงไหน บางครั้งอาจ มองไม่เห็นและอาจไม่มีรายการที่เป็นชื่อปรากฏชัดเจน แต่กลไกในการใช้งบประมาณ เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยยังมีกลไกอื่น ช่วยผลักดันของรัฐบาล บางโครงการอาจไม่จำเป็นต้องใช้เงิน เช่น การลดราคาพลังงาน เป็นกลไกที่บริหารจัดการได้โดยไม่ต้องตัดงบหลวงมาใช้” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า จะมาหางบประมาณการทำประชามติไม่ปรากฏ ต้องเข้าใจกลไกการทำงานของภาครัฐว่า ต้องเริ่มจากคำขอของส่วนงานราชการ แต่เมื่อยังไม่มี กระบวนการเดินหน้าไม่ได้ เพราะไม่มีระยะเวลาที่ชัดเจน ส่วนงานก็ไม่สามารถทำคำขอมายังสำนักงบประมาณได้จึงไม่มีปรากฏอยู่ แต่กลไกทุกอย่างยังมีอยู่ เช่น การเลือกตั้งในปี 66 ทุกคนรู้ว่าจะเกิดการเลือกตั้ง กกต.จะจัดทำงบประมาณไว้ แต่เมื่อมีเหตุยุบสภาก็ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ สุดท้ายยังไม่มีคำขอ ยืนยันว่า รัฐบาลจริงใจเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญ รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอที่จะรองรับกลไกที่เพียงพอไม่ว่าจะเป็นการทำประชามติหรือเรื่องอื่นใด
นายจุลพันธ์ ยอมรับว่าได้รับมรดกจากรัฐบาลก่อนหน้า งบผูกพันหลายตัวไม่สามารถตัดออกได้ แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วก็ได้มีการปรับให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันให้มากที่สุด สำหรับงบประมาณ3.48ล้านล้านบาทมีสาระสำคัญ 3 อย่าง 1.ค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่ต้องบรรจุในงบประมาณแผ่นดิน 2.ค่าใช่จ่ายตามข้อผูกพันธ์6.2แสนล้านบาทตามข้อผูกพันธ์ตามกฎหมายพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ2561 3.ค่าใช้จ่ายตามข้อพื้นฐาน5แสนล้านบาทซึ่งจะถูกบรรจุอยู่งบในงบประมาณตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด ส่วนเรื่องกองทุนเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรม เป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านบาท เราจะมีการเติมเงินเข้าไปเป็นจังหวะจะโคน คงไม่สามารถเติมเข้าไปในครั้งเดียวได้เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ ยืนยัน จะเกิดขึ้นแน่นอนใน 2-3 ปีข้างหน้า
“กรณีเงินดิจิทัล วอลเล็ต ขอเรียนว่ามีการปรับเปลี่ยนเรื่องแหล่งที่มาของเงินจริง ๆ กลไกในการเปลี่ยน เพราะรัฐบาลอยากสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สาเหตุแรกที่เปลี่ยนเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เพราะในการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นการเปลี่ยนมือจากภาครัฐใช้ เปลี่ยนเป็นประชาชนเป็นคนใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กลไกที่เหมาะสม คือ หาแหล่งเงินใหม่ ควรมีแหล่งเงินจากภายนอกเข้ามา เพื่อเติมเม็ดเงิน เราต้องการเติมเงินส่วนหนึ่งขึ้นมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย ดังนั้นกลไกเปลี่ยนไปจริง จึงไม่เห็นเงินดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ในงบประมาณปี 67” นายจุลพันธ์ กล่าว.-316 .-สำนักข่าวไทย