ซัด งบฯ 67 เป็นฉบับเป็ดง่อย ว่าแต่เขา อิเหนาทำหมด

รัฐสภา 3 ม.ค.- คืนฟอร์มฝ่ายค้าน “จุรินทร์” ซัด งบฯ 67 เป็นฉบับเป็ดง่อย ว่าแต่เขา อิเหนาทำหมด ชี้ เสียเวลาตั้งรัฐบาลเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ทำงบล่าช้า สภาประท้วงวุ่น อภิปรายงบกรมราชทัณฑ์ ออกระเบียบศรีธนญชัย ถาม รบ.ปล่อยนักโทษเข้าคุกทิพย์หรือไม่


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ต่อเนื่องเป็นคนที่ 2 ในฐานะฝ่ายค้าน ว่า แม้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่งบประมาณปี 67 เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ ถ้ารัฐบาลเสนอแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ก็ยุบสภา แต่เชื่อว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องระดม สส.พรรคร่วมรัฐบาลมาลงคะแนนให้ครบจนได้ และเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้ จะผ่านความเห็นชอบวาระแรก เพราะรัฐบาลชุดนี้มีเสียงข้างมากโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดถึง 314 เสียง ถ้าหากไม่ผ่าน นายกฯ ก็คงต้องเลิกใส่ถุงเท้าได้แล้ว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่นายกรัฐมนตรีแถลงเมื่อเช้าทุกอย่างดีหมด แต่ตนขออภิปรายเพื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบ ถ่วงดุล และแสดงความคิดเห็นอภิปรายในภาพรวม โดยงบประมาณนี้เป็นงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ เกิดจากการนำงบปี 67 ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำมารื้อทำใหม่ทั้งหมด


“ส่งผลให้ปฏิทินงบฯ ล่าช้าไปกว่า 9 เดือน เพราะมัวแต่ตั้งรัฐบาลแบบเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ส่งผลให้งบประมาณล่าช้าเหมือนงบประมาณ “เป็ดง่อย” มีเวลาใช้เงินแค่ 5 เดือนจาก 12 เดือน หรือใช้เงินแค่ 40% ประสิทธิภาพในการใช้เงินลดลง โดยเฉพาะงบลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรี พยายามตีปี๊บว่าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ และพยายามเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้างบประมาณแผ่นดินกลายเป็นเป็ดง่อยจะไปกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างไร ทั้งนี้ หลังนายกฯ ให้กลับไปทบทวนงบประมาณ 67 มองว่าไม่มีอะไรใหม่ หลายเรื่องแย่กว่าเดิม

“ประเด็นที่ 1 ขาดดุลเหมือนเดิม และจะขาดดุลต่อไปตลอดอายุรัฐบาล 4 ปีเต็ม ตนไม่ได้มโนไปเอง แต่เพราะอยู่ในแผนการคลังของรัฐบาลชุดนี้ที่คณะรัฐมนตรีมีมติไว้ในว่าจะทำงบประมาณขาดดุลไว้จนจบรัฐบาล ประเด็นที่ 2 งบประมาณของรัฐบาลชุดนี้เพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนลงทุนการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยกว่าเดิม จาก 21.7% เหลือ 20.6%  และพบว่าเม็ดเงินปี 67 ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 295,000 ล้านบาท ไปเพิ่มในส่วนของงบประจำ แล้วจะไปสนองการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร ประเด็นที่ 3 งบฯกลางดูผิวเผินเหมือนลดลง แต่เป็นงบลวงตาเพราะงบกลาง ภาพรวมในปี 66 มี 18.5% แต่งบ 67 ลดเหลือ 17% เมื่อดูไส้ในงบประมาณสำคัญ คือเงินสำรองจ่ายที่อยู่ในอำนาจของนายกฯ กลับเพิ่มขึ้น ดังนั้น แสดงให้เห็นว่า “ว่าแต่เขาอิเหนาทำหมด” ดังนั้น ขอให้นายกฯ ใช้เงินนี้ให้คุ้มค่า โปร่งใส งบประมาณ จากคิดใหญ่ทำเป็น กลายเป็นคิดกู้ ทำกู้  ประเด็นที่ 4 งบประมาณฉบับนี้จาก”คิดใหญ่ทำเป็น” กลายเป็น “ คิดกู้ทำกู้” เพราะงบประมาณปี 67 ของพลเอกประยุทธ์ ที่ผ่านมา กู้ 5.93 แสนล้านบาท และรัฐบาลนี้ เอาไปรื้อ กู้ใหม่ 6.93 แสนล้านบาท พร้อมตอกกลับว่า พวกท่านเคยวิจารณ์ว่า เป็นนักกู้ มาครั้งนี้เป็น นักกู้ถุงเท้าสีชมพูที่กู้เพิ่มกว่าแสนล้านบาท” นายจุรินทร์ กล่าว


นายจุรินทร์ ยังอภิปรายว่า ที่นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะไม่กู้เงินมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่กลับลำแบบ 360 องศา ที่กู้เงินมาแจกตอบสนองนโยบายหาเสียง ดังนั้น นี่คือเสียงที่คนทั้งประเทศเป็นห่วง รัฐบาลกลัวว่า ถ้าออกเป็นพระราชบัญญัติกลัวว่าผิดกฎหมาย จึงไปถามกฤษฎีกาแต่ยังไม่ตอบกลับมา ทั้งนี้ หากกฤษฎีกาบอกว่าทำไม่ได้ ผิดกฎหมายหรือสุ่มเสี่ยง ขออย่าไปโยนบาปให้กฤษฎีกา เพราะกฤษฎีกาไม่ใช่เจ้าของนโยบายหาเสียง

ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ฟันธงว่านายกรัฐมนตรี ไม่สามารถใช้หนี้เงินกู้ 500,000 ล้านบาทในโครงการเงินดิจิตอลได้ ภายใน 4 ปี แต่เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง พร้อมขอให้นายกรัฐมนตรีอยู่ครบวาระใช้หนี้ 4 ปี ให้หมด จะได้ไม่มีคำครหาว่ามีนายกฯ 2 คน

ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ ระบุ เห็นด้วยว่า รัฐบาลควรทำเรื่องการเมืองควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน จะแยกส่วนทันทีไม่ได้ และเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่แตะหมวด 1 หมวด2

“ขอสนับสนุนที่รัฐบาลประกาศนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ปรากฏว่าเอาเข้าจริงกลายเป็นหนังคนละม้วน เพราะทันทีที่เข้าคณะรัฐมนตรีกลับกลายเป็นการตั้งคณะกรรมการศึกษาแทน จากเร่งด่วน กลายเป็น 4 ปี จากหนังสั้นเป็นหนังยาว ทั้งนี้ การทำประชามติต้องทำอย่างน้อย 3 ครั้ง แล้วงบอยู่ตรงไหน ตั้งไว้เท่าไหร่ หาไม่เจอ จึงขอให้สะท้อนความจริงใจตรงนี้ด้วย”นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ยังอภิปรายงบประมาณของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ว่ากรมราชทัณฑ์ได้งบ 14,972 หมื่นล้านบาท ซึ่งงบประมาณก้อนนี้เอาไปทำโครงการสำคัญที่สุดคือ โครงการผู้ต้องขังได้รับการควบคุมดูแล ระยะเวลาทำโครงการ 6 ปี ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปี 2570 ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 38,979 ล้านบาท เฉพาะงบของปี 67 เป็นเงิน 6,620 ล้านบาท เพื่อยกระดับควบคุมดูแลผู้ต้องขังเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลตามหลักสิทธิมนุษยชนโปร่งใสและไม่เลือกปฏิบัติ สถานที่คือ ทัณฑสถาน และราชทัณฑ์ ที่มีผู้ต้องขังกว่า 280,000 กว่าคน

“ตนจึงตั้งคำถามว่ารัฐบาลชุดนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ใช้งบประมาณ ปี 2566 และ และจัดทำงบในปี 2567 ได้ดำเนินการอย่างโปร่งใสหรือไม่ เลือกปฏิบัติกับผู้ต้องขัง กว่า 280,000 คนหรือไม่ เพราะมีข้อเคลือบแคลงเกิดขึ้นในสังคม ว่าทำไมรัฐบาล ปล่อยให้นักโทษบางคน เข้าคุกทิพย์มาแล้ว กว่า 120 วัน แต่ยังไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว” นายจุรินทร์ กล่าว

จากนั้น นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงทันที ระบุว่า ไม่คิดว่า นายจุรินทร์ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรี จะอภิปรายเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา ในการทำหน้าที่ ก็ล้มเหลวมาตลอด และยังเป็นเรื่องนอกประเด็น เป็นสไตล์เก่าๆ เหมือนเดิม

“ตนไม่เห็นด้วย และรู้ว่ากำลังจะพูดถึงคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ที่โดนกลั่นแกล้ง ไปอยู่เมืองนอกมา 17 ปี แล้วกลับเข้ามา ซึ่งในการที่ไปอยู่นอกเรือนจำ ก็มีใบอนุญาตจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ชัดเจน”  นายครูมานิตย์ กล่าว พร้อมขอให้ประธานการประชุมสั่งให้ นายจุรินทร์ ถอนคำพูดด้วย

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานการประชุม วินิจฉัยว่า นายจุรินทร์ ยังอภิปรายอยู่ในประเด็น ซึ่งในครูมานิตย์ ก็ยังยืนยันว่า นายจุรินทร์ อภิปรายถึงบุคคลที่อยู่นอกสภา

ต่อมานายชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงนายครูมานิตย์ว่า ประท้วงส่อเสียดนายจุรินทร์ ไม่คิดว่าสภาอันทรงเกียรติจะมีคำพูดจากสมาชิกผู้ทรงเกียรติแบบนี้  ซึ่งส่วนตัวเคารพครูมานิตย์ จึงอยากให้ถอนคำพูด จนท้ายที่สุดประธานก็สั่งให้ครูมานิตย์ถอนคำพูด ทำให้บรรยากาศการประชุมดำเนินต่อ

จากนั้นนายจุรินทร์ ได้อภิปรายต่อว่า ตนไม่ประสงค์จะเอ่ยชื่อบุคคลใด ขอให้ประธานสบายใจได้ เพราะเคารพกติกาเสมอ คำถามของตนก็คือ ทำไมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้ร่วมรับผิดชอบบริหารโครงการ 3.8 หมื่นล้านบาท ไม่ทำข้อเคลือบแคลงสงสัยให้กระจ่าง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี กลายเป็นตนเห็นท่านสั่งการได้ทุกเรื่อง จนวันนี้กลายเป็นหลงจู๊ประเทศ แต่พอเรื่องคาใจทำไมไม่สั่ง หรือตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อไขข้อสงสัยให้กับคนทั้งประเทศ ซึ่งการใช้งบประมาณของกรมราชทัณฑ์ ที่ออกระเบียบ ว่าด้วยการดำเนินการคุมขัง ในสถานที่คุมขัง 2566 อ้างทำตามคำแนะนำ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และการใช้งบส่อไปในทางไม่ชอบหรือไม่

“การออกระเบียบดังกล่าว เป็นระเบียบแบบศรีธนญชัย เพราะแทนที่จะแยกผู้ต้องขังออกจากนักโทษเด็ดขาด กลับกลายเป็นว่าไปแยกผู้ต้องขังเด็ดขาดออกเป็นสองมาตรฐาน โดยมาตรฐานที่ 1 ติดคุกที่เรือนจำ และมาตรฐานที่ 2 ติดคุกที่บ้านได้ ใช้เพียงอำนาจของคณะกรรมการ ไม่ใช่อำนาจศาล จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เลือกปฏิบัติและคำพิพากษาของศาลไร้ความหมาย ศาลสถิตยุติธรรม พิพากษาจำคุก แต่กรมราชทัณฑ์สั่งให้นักโทษบางคนไปติดคุกที่บ้าน กลายเป็นนักโทษเทวดา” นายจุรินทร์ กล่าว

ช่วงท้าย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้นายกฯ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารได้กำชับตนเองและกำชับรัฐมนตรีอีก 33 คน ให้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินให้คุ้มค่า เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศด้วยความโปร่งใสสุจริต เพราะพวกตนไม่ประสงค์จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่จำเป็น.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย