ถามกลับ “สมชัย-ก้าวไกล”คำถามประชามติ มัดมือชกตรงไหน

ทำเนียบรัฐบาล 26 ธ.ค.- “ภูมิธรรม” ถามกลับ “สมชัย-ก้าวไกล” คำถามประชามติ แก้ รธน.คำถามแรก มัดมือชกตรงไหน ยันได้ถามความเห็นทุกภาคส่วน และรับฟังเสียงส่วนใหญ่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีข้อสรุปคำถามประชามติ ภายหลังที่มีการประชุมไปเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) ซึ่งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมถึงแกนนำพรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่า คำถามดังกล่าว เหมือนมัดมือชกประชาชน และเป็นคำถามที่ไม่เปิดกว้างนั้น โดยนายภูมิธรรม ระบุว่า มัดมือชกตรงไหน เพราะถามแบบไหนก็มัดมือชก ถ้าพูดแบบนี้


“เมื่อวานที่ประชุมรับฟังความคิดเห็นทั้งสนับสนุน และไม่สนับสนุน เพราะการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนรอบนี้ เป็นการรับฟังแบบทั่วถึง และมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะกระจายไปแต่ละภาค และมีตัวแทนจากหลากหลายกลุ่ม หลากหลายศาสนา และอาชีพ แต่จะให้การสอบถามความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ก็คงเป็นไปไม่ได้ และยืนยันว่าการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลในรัฐสภา แต่เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้ความสำคัญเรื่องแรกก็คือ การแก้ไขมาตรา 112 โดยอ้างอิงจาก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลจะทำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เรื่องอื่นก็ยังไม่นำนำเข้ามา” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะที่ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่พูดคุยกัน เสียงส่วนใหญ่ไม่เอาหมวดหนึ่งหมวดสอง หากถามว่าความเห็นที่ยืนยันจะเอา มาตรา 112 ก็มี แต่เป็นส่วนน้อย ถึงได้บอกว่าต้องเอาเสียงส่วนใหญ่ ยืนยันทั้งหมดไม่ใช่มัดมือชก


“มัดมือชกตรงไหน เพราะสิ่งที่ทำทั้งหมด ยึดเอาจากความเห็นของคนส่วนใหญ่ แม้กระทั่งพรรคก้าวไกลที่ไม่ได้เข้าร่วมในการแสดงความเห็น คณะกรรมการก็ยังรับฟังโดยมอบหมายให้ อนุกรรมการไปพูดคุย หลังจากที่ทำแบบสอบถามร่วมกันแล้ว ในเมื่อผลออกมาแบบนี้ เสียงส่วนใหญ่ไปมัดมือชกตรงไหน ขณะที่เราเองก็ไม่ได้ทิ้งความเห็นที่ต่างได้บันทึกข้อตกลงไปในการประชุมทั้งหมด ขอยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ”นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า  เสียงที่ดูจะดังหน่อย เวลาอยู่ในโซเชียล มีไม่กี่คน แต่ว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น โดยเฉพาะนายสมชัย ที่เห็นว่าเป็นคำถามมัดมือชก มีเหตุผลอะไร และหลักการที่ทำก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้พรรคร่วมรัฐบาลเองก็มีความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันคืออยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ  แต่ไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขมาตรา 112 หากไม่อยากเห็นบ้านเมืองวนไปสู่จุดเดิม การแก้ไขธรรมนูญก็ต้องเกิดขึ้น ทั้งนี้ จะต้องรายงานความคืบหน้าให้กับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีรับทราบ อย่างเป็นไรลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง.-317.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก