กกต. สั่งยกคำร้อง “สส.เมืองกาญจน์” ภูมิใจไทย

กทม. 22 ธ.ค.-กกต. สั่งยกคำร้อง “สส.เมืองกาญจน์” ภูมิใจไทย หลังไม่พบหลักฐานโพสต์แฝงหาเสียง จูงใจเรียกคะแนนนิยม

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยกรณีมีคำสั่งยกคำร้องในคดีที่กล่าวหาว่า นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้อง) กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 70 หาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด นับตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง


โดย กกต.พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว ได้ความว่า ผู้ร้องกล่าวหาว่าในวันเลือกตั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.43 น. ผู้ถูกร้องได้ใช้บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน “โพสต์ข้อความว่า “#กราบขอพรแม่และก้าวไปลงคะแนน #ส่วนพ่อรีบก้าวไปลงคะแนนก่อนเลยไม่มีรูปคู่ ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน #กุ๊กลูกพ่อกู้ลูกแม่พึง”พร้อมกับถ่ายภาพผู้ถูกร้องและมารดา ซึ่งการใช้ข้อความว่า”ก้าว”ในโพสต์ดังกล่าวพ้องเสียงกับหมายเลข 9 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัครของผู้ถูกร้อง จึงเป็นการหาเสียงเลือกตั้งนับตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง โดยผู้ร้องและพยานผู้ร้องให้ถ้อยคำตามข้อเท็จจริงตามคำร้อง

ทั้งนี้ จากการไต่สวนผู้ถูกร้องให้ถ้อยคำว่า มิได้กระทำการตามที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 เวลา 17.17 น. ได้ใช้บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กของตนชื่อ “ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน”โพสต์ข้อความว่า “ ประกาศ เพื่อเป็นไปตามระเบียบของกกต.เรื่อง กำหนดการหาเสียงเลือกตั้ง ข้าพเจ้า ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ผู้สมัครส.ส.เขต 3 กาญจนบุรี เบอร์ 9 ขอยุติการหาเสียงเลือกตั้ง ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 13 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.00 น. “ เพื่อแสดงว่าตนยุติการหาเสียงเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว และตนมิได้ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือช่องทางใดๆหาเสียงเลือกตั้งอีก


ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.43 น. พยานคนที่ 1 ของตน ซึ่งเป็นผู้ดูแลบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน” ได้โพสต์ข้อความว่า “#กราบขอพรแม่และก้าวไปลงคะแนน #ส่วนพ่อรีบก้าวไปลงคะแนนก่อนเลยไม่มีรูปคู่ ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน #กุ๊กลูกพ่อกู้ลูกแม่พึง “ พร้อมกับถ่ายภาพของตนและมารดา ซึ่งคำว่า”ก้าว” ในข้อความดังกล่าวตามพจนานุกรม หมายถึงการยกเท้าย่างไปมิได้สื่อความหมายถึงเลข 9

จากการไต่สวนพยานคนที่ 1 ของผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ดูแลบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน” ให้ถ้อยคำสอดคล้องกับผู้ถูกร้องและให้ถ้อยคำอีกว่า “เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ตนได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ถูกร้อง และเห็นผู้ถูกร้องกราบมารดา จึงได้ถ่ายภาพไว้ และนำภาพพร้อมข้อความไปโพสต์ลงในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน” เนื่องจากเห็นว่า เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญคือการเลือกตั้ง โดยไม่มีเจตนาหาเสียงให้แก่ผู้ถูกร้อง ส่วนคำว่า”ก้าว” ต้องการจะสื่อความหมายว่าเป็นการก้าวเดิน มิใช่หมายเลข 9

อีกทั้งจากการไต่สวนพยานคนที่ 2 ของผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นภริยาของพยานคนที่ 1 ของผู้ถูกร้อง ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่พยานคนที่ 1 ถ่ายภาพผู้ถูกร้อง และมารดาให้ถ้อยคำสอดคล้องกัน และจากการไต่สวนพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 1 ถึงคนที่ 10 ซึ่งเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี ผู้นำชุมชน และผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า เมื่อเห็นข้อความและภาพถ่ายเข้าใจว่าเป็นการกราบขอพรจากมารดาของผู้ถูกร้องแลเป็นการก้าวเดินไปลงคะแนนมิใช่หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้ถูกร้อง


ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนรับฟังได้ว่า เมื่อพิจารณาข้อความและภาพถ่าย มีลักษณะเป็นการกล่าวถึงเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกร้อง มิได้มีลักษณะแสวงหาความนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกจากชุมชน เพื่อให้ได้คะแนนโหวต อันเข้าลักษณะเป็นการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 4 ระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส.

ส่วนการใช้คำว่า ”ก้าว” แม้จะเป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า ”เก้า” หรือหมายเลข 9 ซึ่งเป็นหมายเลขของผู้ถูกร้อง ประกอบกับ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้ถูกร้องได้ประกาศยุติการหาเสียงเลือกตั้งทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน” อีกทั้งพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 1 ถึงคนที่ 10 ให้ถ้อยคำสอดคล้องกัน จึงไม่ปรากฎพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันได้ว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกร้อง กระทำการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 มาตรา 70.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]