นายกฯ เตรียมร่วมประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น 14-18 ธ.ค.นี้

ทำเนียบ 13 ธ.ค.-นายกฯ เตรียมเดินทางร่วมการประชุมสุดยอด ASEAN-Japan 14-18 ธ.ค.นี้ ณ กรุงโตเกียว พร้อมเชิญชวนนักธุรกิจญี่ปุ่นร่วมการค้า-การลงทุนในไทย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดเดินทางเพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น (The Commemorative Summit for the 50th Year of ASEAN-Japan Friendship and Cooperation) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 14-18 ธันวาคม 2566


โดยในการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสในการฉลองวาระ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งมีการเริ่มอย่างไม่เป็นทางการในปี 2516 และในปีนี้เป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น และมีการประกาศตราสัญลักษณ์ทางการและคำขวัญ “Golden Friendship, Golden Opportunities”

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นอกจากกรอบการประชุมฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะได้แสดงวิสัยทัศน์ที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศไทย และเป็นประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีตั้งใจจะใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดจากโอกาสการพบปะกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายคิชิดะ ฟูมิโอะ (H.E. Mr. Kishida Fumio) ในส่วนของทางเศรษฐกิจ เชิญชวนญี่ปุ่นให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคและไทย โดยเฉพาะการเติบโตสีเขียว การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและดิจิทัล รวมถึงประชาสัมพันธ์นโยบายและโครงการสำคัญของไทย เช่น แลนด์บริดจ์ การพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และ ซอฟต์พาวเวอร์ รวมทั้งในทางการเมือง โน้มน้าวให้ญี่ปุ่นเพิ่มบทบาทเชิงสร้างสรรค์กับอาเซียนเพื่อลดความขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้า และร่วมกันส่งเสริมสภาพแวดล้อม ที่สงบ สันติมีเสถียรภาพ ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในกรอบการค้าการลงทุนที่น่าสนใจ โดยจะได้พบหารือกับสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) พบหารือกับประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization: JETRO) และพบหารือกับบริษัทเอกชนสำคัญระดับโลกของญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็น อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลการเกษตร ธุรกิจการค้า.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย