เริ่มมาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์วันนี้

ทำเนียบรัฐบาล 12 ธ.ค.-รัฐบาลเริ่มมาตรการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งแต่วันนี้ ระงับทันทีถ้ามีประวัติโทรมากกว่า 100 สายต่อวัน ครอบครองซิมมากกว่า 50 หมายเลข หลังปชช.ถูกหลอกลวง-ดูดเงินจำนวนมาก


นายภูมิธรรม เวชรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม    พร้อมด้วยนพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(สอท.) และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทรู ดีแทคและเอไอเอสร่วมกันแถลงมาตรการขจัดภัยไซเบอร์ของรัฐบาล ระงับเบอร์โทรต้องสงสัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ กสทช.และโอเปอร์เรเตอร์ ว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะหลายชาติประสบปัญหาอย่างเดียวกันรูปแบบเดียวกัน โดยผู้ก่ออาชญากรรมซ่อนอยู่ในที่ต่าง ๆ  จึงต้องบูรณาการเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันหาทางออก 

นายประเสริฐ กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์เอโอซี 1441 มีการร้องทุกข์ประมาณ 80,000 สาย ซึ่งเป็นตัวเลขจำนวนมาก ต้องมีมาตรการเข้มข้นจัดการกับผู้ที่ต้องสงสัยเข้ามาหลอกลวง โดยพุ่งเป้าไปที่หมายเลขโทรศัพท์ที่โทรออกจำนวนมากผิดปกติใน 1 วัน เช่น 100 ครั้งถือว่าน่าสงสัย โดยข้อมูลล่าสุดระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม พบว่าโทร 100 สายขึ้นไปในเครือข่ายเอไอเอส 3,927 สาย ทรูเฮช 4,339 สาย ทรูดีทีเอ็น 4,051 สาย จึงกำหนดการทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์เอโอซี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สำนักงานกสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายฯ  3 กรณี


“1. เมื่อตรวจสอบพบว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์  ทางเอโอซีจะแจ้ง ให้บริการโทรศัพท์ หรือโอเดี๋ยวโอเปอร์เรเตอร์ ยกเลิกหมายเลขบริการดังกล่าวโดยทันที อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นฐานอำนาจให้ผู้บริการโทรศัพท์พร้อมดำเนินการ 2.ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตรวจสอบหมายเลขอื่น ของผู้ใช้บริการ ที่เป็นหมายเลขที่ใช้กระทำความผิด และให้แจ้งผู้ให้บริการรายอื่นที่เป็นเจ้าของหมายเลข ขยายผล ตรวจสอบ หากพบผิดปกติให้ระงับบริการ  แต่ถ้าจะพิสูจน์ตน  ต้องมารายงานตัว หากใช้งานเกิน 100 สายต่อวัน ให้มีหนังสือไปถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระงับเลขหมายต้องสงสัย หากพบการโทรออกมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด  จากนั้นให้ติดต่อเจ้าของเบอร์เพื่อมาแสดงตนใน 7 วัน หรือหากแสดงตนแต่ไม่สามารถชี้แจงการใช้งานได้ ให้แจ้งเอโอซี เพื่อสืบสวนการใช้งานต่อไป และ 3. ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องรายงานข้อมูลต่อรัฐทุกเดือน หรือตามความเหมาะสม รวมถึงการจัดทำข้อมูลผู้ให้บริการคอลเซ็นเตอร์อย่างแท้จริงด้วย ซึ่งต้องมาแสดงตนและเอกสารมายืนยันภายใน 15 วัน ก่อนใช้มาตรการโทรมากผิดปกติ มาตรการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้(12 ธ.ค.)” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่นำข้อมูลประชาชนออกไปขายว่า มีคณะกรรมการคุ้มครองรักษาความปลอดภัย ทางด้านข้อมูลที่ตรวจสอบตลอดเวลา ส่วนหน่วยงานใดที่อาจถูกแฮกข้อมูล ทางกระทรวงดีอีเอสพร้อมตรวจและพยายามแก้ไขตลอดเวลา โดยตรวจสอบร่วมกับตำรวจและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และมีการยืนยันตัวตน จากการตรวจสอบหน่วยงาน  9,000  กว่าแห่ง ดำเนินการเรียบร้อยแล้วกว่า 5,000 แห่ง หากหน่วยงานไหนพบสิ่งปกติพร้อมตรวจสอบ ทั้งนี้ กระทรวงเรียกประชุมหน่วยงานภาครัฐ 85 หน่วยงาน และเชิญภาคเอกชนที่มีฐานข้อมูลในมือจำนวนมาก มาทำความเข้าใจ และขยายผลการจับกุม ขณะเดียวกันหน่วยงานรัฐต้องรักษาฐานข้อมูลส่วนบุคคลด้วย

ด้านนพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมกสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหมายเลขทั้งหมด 12,500 หมายเลขที่ใช้การโทรออกและรับสายมากกว่า 100 ครั้ง จะถูกระงับการใช้จนกว่าจะรายงานตัว เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นการใช้บริการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งทาง กสทช.ได้ตังหน่วยเฉพาะกิจ เพื่อติดตามและตรวจสอบการดำเนินการของผู้ประกอบการ เพื่อเป็นไปตามนโยบายที่เคร่งครัด พร้อมทั้งดำเนินการตามแผนขั้นที่ 2 ที่จะตัดวงจรและตามไล่อุปกรณ์ เสาสัญญาณเถื่อน ปรับปรุงด้านความปลอดภัยทางด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของโครงสร้างพื้นฐาน ของโทรคมนาคมตามชายขอบ มีบุคคลกว่า 14,500 คน ที่มีอยู่ซิมมากกว่า 50 ซิม ภายใต้ชื่อเดียวกัน รวมแล้วอาจมีถึง 6 ล้านเลขหมาย


“อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทาง กสทช.ก็จะดำเนินการสื่อสารให้เจ้าของ หมายเลขดังกล่าวมาขึ้นทะเบียนยืนยันตัวตน ตามที่ระยะเวลากำหนดไว้  และอาจจะต้องมีการระงับบางส่วน หากพบว่าใช้ซิมอย่างผิดกฎหมาย ส่วนผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ คือประชาชนทั่วไป ขอให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะมีพฤติกรรมเช่นนี้จำนวนมาก ซึ่งพบว่ามีการใช้ซิมและโทนจำนวนมาก รัฐบาลไม่อยากเห็นประชาชนตกเป็นเหยื่อได้  ซึ่ง กทสช. ก็จะดูแลให้ผู้ประกอบการ ให้ควาวมร่วมมือ” นพ.สรณ กล่าว

นายมนัส มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์เปอร์เรชั่น กล่าวว่า ยินดีช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชน โดยจะให้ความร่วมมือทุกเรื่องอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบและจัดทำแผนตามที่กสทช.ประสานความร่วมมือ และให้ความสำคัญกับไซเบอร์ไซเคอริตี้ มีมาตรการที่ชัดเจน ส่วนเรื่องการลงทะเบียนจะกลั่นกรองตามระเบียบของภาครัฐทั้งพฤติกรรมการโทรแปลก พร้อมช่วยแกะรอยกลุ่มบุคคลที่ทำผิดกฎหมาย

ด้านผู้บริหารเอไอเอส กล่าวว่า ยินดีช่วยงานภาครัฐ โดยมีโครงการอุ่นใจไซเบอร์ดูแลประชาชน.- 314.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

ต้อนรับอบอุ่น “ภูมิธรรม-เดชอิศม์” เข้ามหาดไทยวันแรก

กระทรวงมหาดไทย 4 ก.ค.- “ภูมิธรรม” พร้อม “เดชอิศม์” เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช ก่อนเข้า ก.มหาดไทย วันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก และเข้าสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะ […]

วธ.คึกคัก! ต้อนรับ “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก หลังนั่งควบเก้าอี้ รมว.วธ. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกตอนนี้แย่หน่อยต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ดีใจได้ทำหน้าที่รัฐมนตรีเต็มที่ ขอฝากตัว เตรียมดันเป็นกระทรวงหลัก สร้างโอกาสใหม่-รายได้ให้คนไทย ด้าน ปลัด วธ. นำข้าราชการต้อนรับ ลั่นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นแล้ว เชื่อสปอตไลต์ส่องมา มั่นใจ ซอฟต์พาวเวอร์แข็งแกร่งแน่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นวันแรก โดยสวมชุดผ้าไทยสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำกระทรวงวัฒนธรรม โดยเดินทางมาถึงในเวลา 09.09 น. โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม, นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงมี สส. พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ ซึ่งทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 […]

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]