โรงแรมมิราเคิล 9 ธ.ค.-“มาดามเดียร์” ไม่มั่นใจจะผ่านข้อยกเว้นให้ลงหัวหน้า แต่ขอสู้อย่างถึงที่สุด เพื่อฟื้นอุดมการณ์พรรค ย้ำอยากเห็นการเมืองซื่อตรง จริงใจ ก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ พร้อมพิจารณาตัวเองถ้าจุดยืนพรรคไม่เหมือนเดิม
เมื่อเวลา 8.45 น. นางสาววทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และแคนดิเดตผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวิสามัญ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ว่า มาถึงจุดนี้มันเกินสิ่งที่คิดว่าจะแพ้หรือชนะ มันคือการสู้ให้ถึงที่สุดและทำให้ดีที่สุด เพื่อเอาจิตวิญญาณของพรรคประชาธิปัตย์กลับมาให้ได้ ส่วนตัวไม่ทราบว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร คิดแค่ว่าทำให้ดีที่สุด แล้วผลออกมาอย่างไรก็จะพร้อมน้อมรับ เพื่อไม่ให้ค้างคาใจตัวเองและสมาชิกพรรคที่อยากเห็นอุดมการณ์ที่เป็นความภาคภูมิใจมาตลอด 77 ปีและประชาชนเคยศรัทธาได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้างไหม นางสาววทันยา ปฏิเสธว่าไม่ได้คุยอะไรเลย ทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค หรืออดีตหัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ทราบว่านายชวนจะเสนอนายอภิสิทธิ์หรือไม่ แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่ทุกคนมีเหตุผล และไม่อาจก้าวล่วงได้ การทำหน้าที่ตรงนี้ก็เป็นการตัดสินใจส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวว่าคุยกับผู้ใหญ่ หรือ สส. คนไหน แต่ในสภาพแบบนี้ที่ สส. ของพรรคลดลงเหลือแค่ 25 คน สมาชิกพรรคคงเกิดคำถามถึงอนาคตของพรรคที่อยู่บนทางสองแพร่งว่าจะกลับไปอยู่ในระบบอุปถัมภ์ พ่ายแพ้ต่ออำนาจ หรือเราจะเรียกคืนจิตวิญญาณกลับมาได้
เมื่อถามต่อว่าถ้าหากแพ้การเลือกตั้งจะทำงานร่วมกับพรรคต่อไหม นางสาววทันยา กล่าวว่า ต้องขอประเมินอีกครั้งว่าอุดมการณ์ที่เธอเชื่อและศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์จนทำให้ตัดสินใจเข้ามาทำงานที่นี่ แต่ถ้าวันใดที่พรรคจะเปลี่ยนวิถีอุดมการณ์ไปในอย่างที่เธอไม่ศรัทธา มันก็ต้องพิจารณาว่าเรายังเหมาะสมกับพรรคนั้นหรือไม่ พร้อมยืนยันว่ายังพร้อมทำงานกับพรรค แต่ต้องอยู่บนอุดมการณ์ที่เราเชื่อ แต่ถ้าหากผู้ชนะเชิญไปร่วมทำงานเป็นกรรมการบริหารพรรค นางสาววทันยายืนยันว่ายังไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ จนกว่าจะมั่นใจว่าวิถีอุดมการณ์ของพรรคจะไม่เปลี่ยนไป
พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีการวางตัวเลขาธิการพรรคไว้ก่อน เพราะอยากเห็นการเมืองที่ซื่อตรง จริงใจ ก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ และนำไปสู่แสงสว่างในอนาคต เธอไม่ได้ตัดสินใจลงสมัครเพราะรวบรวมเสียงข้างมากได้ แต่ตัดสินใจเพราะต้องการฟื้นฟูอุดมการณ์พรรค
“ความเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ความที่สมาชิกมีเสรีภาพในทางความคิด สมาชิกพรรคที่ไม่เกรงกลัวอำนาจ จะยังคงมีจิตวิญญาณเช่นนั้นหลงเหลืออยู่ในตัวทุกคน และจะได้แสดงออกมาให้ประชาชนได้เห็น” นางสาววทันยา กล่าว
ส่วนการขอยกเว้นขอบังคับการประชุมด้วยเสียง 3 ใน 4 ให้ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค นางสาววทันยา ยอมรับว่าไม่มั่นใจว่าเธอจะได้รับคะแนนเสียงให้ยกเว้นข้อบังคับนั้นไหม แต่เธอจะเดินหน้าสู้ไปเกินจุดนั้นแล้ว เธอสู้ในสิ่งที่เชื่อ สู้ในสิ่งที่หวัง และอยากจะลงมือทำ อยากเห็นพรรคกลับมามีจิตวิญญาณและอุดมการณ์อีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นตัวแทนนายอภิสิทธิ์ หรือตัวแทนของใคร
“เดียร์มาที่นี่ด้วยความตั้งใจว่าอยากทำงานระยะยาว ไม่ได้อยากเป็นนักการเมืองที่เปลี่ยนการเลือกตั้งทุกครั้งก็เปลี่ยนพรรคไปเรื่อยๆ เพราะเรามาด้วยอุดมการณ์ ไม่ได้มาด้วยผลประโยชน์ สิ่งที่เดียร์สู้เพราะเราอยากเห็นพรรคที่ยืนหยัดด้วยอุดมการณ์แบบนี้ ไม่ได้คิดว่าอยากจะย้ายพรรคไปไหน แต่ถ้าวันนึงพรรคเปลี่ยนไปก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจ” นางสาววทันยา กล่าว.-318.-สำนักข่าวไทย