ทำเนียบรัฐบาล 8 ธ.ค. – นายกฯ หารือประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ย้ำความร่วมมือในระดับรัฐสภาที่เข้มแข็ง พร้อมผลักดันความร่วมมือไทย-เวียดนาม อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว
ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเวือง ดิ่งห์ เหวะ (H.E. Mr. Vuong Dinh Hue) ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐสภา
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการเยือนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายครบรอบ 10 ปี ของการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันพร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ตลอดจนเห็นพ้องกับฝ่ายเวียดนามให้มีการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) ในระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ช่วงต้นปีหน้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ขอบคุณนายกรัฐมนตรี รัฐบาลไทย และรัฐสภาไทย ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ เชื่อมั่นว่าภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรีจะทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาได้ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และส่งเสริมให้ไทยมีบทบาทสำคัญในเวทีโลกมากขึ้น โดยโอกาสนี้ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีเวียดนาม และนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ฝากความปรารถนาดีมาถึงนายกรัฐมนตรี รวมถึงฝากคำเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ และเป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย-เวียดนาม ในช่วงที่เหมาะสมร่วมกัน
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความสัมพันธ์และความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน ทั้งความร่วมมือระหว่างรัฐสภาไทยกับเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยกับเวียดนามมีความร่วมมือระหว่างรัฐสภาที่ใกล้ชิด และมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับรัฐสภาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในระหว่างการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนให้มีกิจกรรมระหว่างรัฐสภาของทั้งสองฝ่าย เพื่อสนับสนุนความร่วมมือให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและเวียดนามเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญระหว่างกัน และยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมกันหาแนวทางลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการค้าที่ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ค.ศ 2025 ในส่วนของการลงทุน นายกรัฐมนตรียินดีที่ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ได้นำคณะนักธุรกิจเวียดนามเกือบ 30 คน ร่วมเยือนไทยในครั้งนี้ด้วย พร้อมยืนยันว่า ไทยพร้อมให้การดูแลและสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนเวียดนามในไทยอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ภายใต้ยุทธศาสตร์การเชื่อมโยง 3 ด้าน (Three Connects) ได้แก่ 1. การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ในอุตสาหกรรมที่เกื้อกูลกัน 2. การเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุน และสนับสนุนการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น และ 3. การเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการประสานนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ของไทย กับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียว (Green Growth Strategy) ของเวียดนาม ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมให้การสนับสนุนในประเด็นดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลไทยเช่นกัน
ส่วนด้านความสัมพันธ์ระดับประชาชน นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ประชาชนของทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันจำนวนมาก โดยในปีนี้มีนักท่องเที่ยวเวียดนามมาไทยแล้วกว่า 9 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่าเท่าตัว โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันมากยิ่งขึ้น
ด้านประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เอาใจใส่ดูแลชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในไทย ทั้งนี้ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม พร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ตลอดจนขอให้ฝ่ายไทยให้การสนับสนุนการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกัน รวมถึงการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้นด้วย.-316-สำนักข่าวไทย