ศาลรัฐธรรมนูญ 6 ธ.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาให้ “พิธา” แจงปมถือหุ้นไอทีวี ถึง 12 ธ.ค. พร้อมขยายให้ “ก้าวไกล-พิธา” แจงแก้กฎหมายยกเลิก ม.112 ถึง 18 ธ.ค. ก่อนไต่สวนพยานแบบเฉพาะผู้เกี่ยวข้องเข้าฟัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ อยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณา และสั่งให้นายพิธา ผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. นับแต่วันที่ 19 ก.ค.66 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
ต่อมานายพิธายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค.66 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค.66 โดยศาลได้อนุญาตตามที่นายพิธาขอขยายระยะเวลาจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นล่วงหน้า โดยให้จัดส่งภายในวันอังคารที่ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องสำเนาแก่คู่กรณีฝ่ายอื่นเพื่อทราบก่อนวันนัดไต่สวนไม่น้อยกว่า 7 วัน จากนั้นอภิปรายเตรียมการไต่สวนในวันพุธที่ 20 ธ.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
ส่วนคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ…. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ คดีอยู่ในระหว่างศาลรัฐธรรมนูญให้พยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสอง และพยานผู้เชี่ยวชาญจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งพยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสองยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 4 พ.ค.66 ขอขยายระยะเวลายื่นบันทึกถ้อยคำข้อเท็จจริงหรือความเห็นออกไปอีก 10 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายแล้ว อนุญาตให้ขยายระยะเวลาถึงวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค.66 และกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 20 ธ.ค.66 เวลา 09.30 น. ก่อนที่จะมีการไต่สวนพยานบุคคลในวันจันทร์ที่ 25 ธ.ค.66 เวลา 09.30 น.
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังแจ้งด้วยว่า การไต่สวนพยานบุคคลในทั้ง 2 คดีดังกล่าว คือ วันที่ 20 ธ.ค. และ 25 ธ.ค.66 ศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นเข้าร่วมรับฟังการไต่สวน.-314.-สำนักข่าวไทย