กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – “อนุทิน” ย้ำมหาดไทยต้องรักษาความเป็นไทย รักชาติ-สถาบันหลัก ควบคู่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าตามนโยบายของกระทรวง เช่น การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ระบุว่า ได้เร่งดำเนินการให้เกิดความเป็นรูปธรรมสูงสูด อย่างเรื่องการควบคุมอาวุธปืน ได้ออกกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมาย ทั้งห้ามนำเข้า ห้ามพก เพื่อลดจำนวนปืนในสังคม ลดโอกาสความสูญเสียจากอาวุธชนิดนี้ ไปจนถึงสิ่งเทียมอาวุธปืน ก็อยู่ในข่ายที่กำลังจัดการ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้สังคม ส่วนเรื่องปืนเถื่อน ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจัดการแล้ว
เรื่องการเข้าไปจัดการผู้มีอิทธิพล เราได้ทำบัญชีเอาไว้ ใครเข้าไปอยู่ในบัญชี จะถูกตรวจสอบความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด จนถึงเส้นทางการเงินด้วย เพราะเรามีหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาช่วยเหลือ หากพบการกระทำความผิด จะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที เตือนหลายครั้งแล้วว่า อย่าริทำตัวเอง จนเข้าไปมีชื่ออยู่ในบัญชีดังกล่าว เพราะถ้าเข้าไปแล้ว ก็เหมือนถูกจำกัดอิสระ ทำอะไรก็ลำบาก ถูกเพ่งเล็งตรวจสอบอยู่ตลอด และต่อให้ทำตัวดีขึ้น ก็ใช่ว่าจะออกจากบัญชีง่ายๆ เพราะตอนเข้าไป มีคณะกรรมการเลือกเข้าไป ตอนออกมาก็ต้องมีคณะกรรมการพิจารณาเช่นกัน
ในส่วนของการจัดระเบียบสังคม เราส่งชุดปฏิบัติการของกรมการปกครอง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด สถานบันเทิงละเมิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา ปล่อยให้เยาวชนเข้าไปใช้บริการ เป็นต้น เดือนพฤศจิกายน ทีมปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่จับกุมผู้กระทำความผิดไปแล้วกว่า 2,400 ราย นี่คือตัวเลขที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างจริงจัง ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
และตอนนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้รับคำสั่งจากท่านนายกฯ ให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาเรื่องเงินกู้นอกระบบด้วย ได้มีการเปิดให้ลงทะเบียนรับการแก้ไขในหลายช่องทาง เมื่อมีข้อมูลชัดเจน จะพิจารณาว่า จะแก้ไขด้วยรูปแบบไหน ให้ไกล่เกลี่ยหนี้ เอาหนี้เข้าระบบ หากใครทำผิด จะใช้กฎหมายเข้าไปแก้ปัญหา นอกจากนั้น เรายังมีนโยบายเพื่อแก้ไขความทุกข์เฉพาะหน้าของประชาชน เช่น การเลื่อนระยะเวลาการตัดน้ำ ตัดไฟ การไม่เก็บค่าสอบ TCAS เป็นต้น
“อีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ และเป็นภารกิจของกระทรวงมหาดไทย นอกจากการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข คือ การรณรงค์ปลูกฝังค่านิยมรักชาติ รักความเป็นไทย สร้างคนเก่ง คนดี คนมีคุณธรรม มีศีลธรรม ไปเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าของชาติ และผมพูดหลายครั้งแล้วว่า สังคมจะธำรงอยู่ได้ หากคนในชาติรู้จักเคารพกัน ไม่เอาเปรียบเบียดเบียนกัน กลัวการทำผิด ละอายต่อบาป ซึ่งตรงนี้เราปลูกฝังกันได้ผ่านวิชาศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง โดยเรามีการร่วมมือกับหลายกระทรวงก่อนหน้านี้ และจะกำชับให้การเรียนการสอนต้องเข้มข้นเรื่องวิชาประวัติศาสตร์เพิ่มมากขึ้น ให้คนไทยเข้าใจในความเป็นคนไทย ภูมิใจในความเป็นชาติ ไปจนถึงให้เกิดความรักและเคารพสถาบันหลักของชาติ เนื่องจากชาติจะเข้มแข็งได้ หากคนในชาติมีความภาคภูมิในความเป็นชาติ”.-317-สำนักข่าวไทย