เยี่ยมศูนย์ OTOP สันกำแพง ผลักดันไปสู่เวทีโลก

เชียงใหม่ 29 พ.ย. –นายกฯ เยี่ยมศูนย์ OTOP สันกำแพง ต่อยอด “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ริเริ่มไว้ ลั่นเป็นหน้าที่รัฐบาล ต้องผลักดัน OTOP ไปสู่เวทีโลก เล็งพาผู้ประกอบการไทยดูงานญี่ปุ่น เจ้าตำรับ OTOP


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมหารือแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ด้วย Soft Power โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีการแสดงฟ้อนต้อนรับ และมีกลุ่ม OTOP มารอต้อนรับ โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ พิธีกรภายในงานได้บอกว่า “ทุกคนรอเงินดิจิทัล 10,000 บาทอยู่” ทำให้คนที่มาร่วมงานต่างส่งเสียงและปรบมือ ขณะเดียวกันก็มีประชาชนถือป้ายต้อนรับนายกรัฐมนตรี มีข้อความว่า จาวสันกำแพงอยากได้เงินดิจิทัล 10,000 บาทเจ้า, ชาวสันกำแพงรักนายกฯ เศรษฐา รอเงินดิจิทัล 10,000 บาทอยู่นะจ๊ะ, คืนศักดิ์ศรีคือความหวัง ขอท่านนายกฯ ช่วยแก้หนี้นอกระบบ, ขอบคุณนายกฯ ที่ช่วยให้ลูกหนี้ได้มีโอกาสหายใจ ขณะเดียวกัน ยังมีป้ายไวนิล ภาพกราฟิกการ์ตูน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สวมใส่ชุดคล้ายซูเปอร์ฮีโร่ พร้อมเขียนข้อความว่า Soft Power อำนาจแห่งความสร้างสรรค์เพื่อสรรสร้างเศรษฐกิจไทย กัปตัน Soft Power ชาวอำเภอสันกำแพงขอร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power อย่างเต็มพลัง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธสินค้า OTOP และเซ็นชื่อในร่มสันกำแพง ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้า OTOP และได้มอบร่มสีแดงให้กับนายกฯ และนายกฯ ได้กางร่มโชว์อย่างอารมณ์ดี นอกจากนี้ได้เซ็นชื่อบนตัวรูปปั้นช้างเคลือบหยก ที่มีความคงทนและแข็งเหมือนหิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสินค้า OTOP โดยบนตัวช้างยังมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว S ที่ย่อมาจากเศรษฐา โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีเซ็นแล้วจะต้องนำไปเคลือบหยกอีกรอบ ก่อนจะส่งมอบให้นายกรัฐมนตรีผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นของที่ระลึก จากนั้นในระหว่างที่แวะบูธร้านกาแฟเทพเสด็จ ห้วยฮ่องไคร้ มีคุณยายวัย 86 ปี เข้ามาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี จนทำให้นายกรัฐมนตรีต้องลงไปนั่งคุกเข่าพูดคุยกับคุณยาย และสอบถามคุณยายว่า มีปัญหาอะไรให้ช่วยหรือไม่ คุณยายกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่มาให้กำลังใจ


จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมวงหารือกับผู้ประกอบการ เพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาและแนวทางเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้า OTOP ซึ่งมีการเลือกตัวแทน กลุ่มเยาวชน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏ และผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่ 

“การที่ได้มานั่งฟังตรงนี้ หรือว่าได้เห็นปัญหาจริงๆ และเชื่อว่าการที่ได้ลงพื้นที่ แตกต่างจากที่นั่งอยู่ที่ทำเนียบฯ หรือมีคนมาบอกทางออก แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี แต่มาวันนี้ได้ฟังทั้งผู้ประกอบการ นักวิชาการ คนรุ่นใหม่ เยาวชน ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะจังหวัดเชียงใหม่ก็เหมือนเป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย เพราะ OTOP มีการทำมา 20 ปีแล้ว ตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาสานต่อ ซึ่งถือเป็นมรดกที่รัฐบาลนี้ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่ตนควรจะให้ความกระจ่าง ให้ความหวัง ให้แรงบันดาลใจกับทุกคน” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า เรื่องของการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สวยมาก ทุกคนมีความตั้งใจและเข้าใจผลิตภัณฑ์ของตนเอง ผลิตสินค้าที่ดี แต่บางครั้งทั่วโลกก็ยังไม่ทราบถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์ของเรา


“ที่ผ่านมาทางกระทรวงต่างประเทศได้ผลักดัน Soft Power ได้เชิญทูตไทยประจำทุกๆ ประเทศกลับมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เน้นย้ำเรื่องความสำคัญของการเป็นทูตพาณิชย์ทั้งหลาย โดยต่อไปรัฐบาลจะมีการวัดเป็น KPI อย่างเป็นรูปธรรม เช่นในหนึ่งปี จะต้องขายเสื้อได้กี่ตัว ขายช้างได้กี่ตัว เป็นต้น นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษาใหญ่ด้านซอฟต์พาวเวอร์ ก็ไปให้ความกระจ่างกับทูตพาณิชย์ทุกคนว่า เรามีสินค้าดีอยู่ เราควรต้องเอาสินค้าเหล่านี้ไปเผยแพร่ ไปขาย ไปสร้างตลาด ไปสร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เรามี KPI เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือทุกคนให้มีพื้นที่ในการแสดงสินค้า” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัจจุบันถ้าอยากซื้อผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ต้องเดินทางมาถึงเชียงใหม่ ซึ่งเคยคุยกับรัฐมนตรีบางคนไปแล้วว่า อยากจะหาพื้นที่ ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ เพื่อให้สินค้า OTOP ไปขาย จัดทำดิสเพลย์เผยแพร่ให้คนมาที่เดียวแล้วเห็นสินค้าหมด ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยถึงการจัดสถานที่ การดีไซน์หน้าร้าน เพื่อให้ทุกผู้ขายได้มาแสดงสินค้าและมาเผยแพร่สินค้าเหล่านี้ และต่อไปอาจจะมีการเชิญทูตประจำประเทศต่างๆ เข้ามาเยี่ยมชมด้วย ซึ่งเป็นความคาดหวังของรัฐบาลที่อยากจะให้มีเรื่องการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ

“ผมมั่นใจว่า สินค้าของท่านเป็นสินค้าค่อนข้างดี มีคุณภาพ แต่ยังต้องมีการสนับสนุนทางด้านการตลาด ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา ผมเดินทางไปต่างประเทศ พยายามไปขายสินค้า แต่เราไม่ได้ไปแค่ให้เขามาลงทุนในประเทศไทย แต่ไปเปิดตลาดให้ทุกคนได้ไปเปิดสินค้า ให้ทุกคนรู้ว่ารัฐบาลนี้เป็นห่วง และอยากจะส่งเสริมศักยภาพในเวทีโลก ตนยืนยันว่า สินค้าท่านไม่เชยแน่นอน แต่เรื่องของแหล่งทุนก็เป็นเรื่องสำคัญ จริงๆ ต้องเอาหลักการคิด หลักการแข่งขัน ไม่ใช่อยู่ๆ จะยื่นเอาเงินให้ พวกท่านเองก็ต้องช่วยตัวเองก่อน หน้าที่หลักของรัฐบาลคือต้องมีเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนพร้อมที่จะเข้าถึงได้ ถ้าสินค้าของท่านมีคุณภาพ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสนับสนุนในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ไม่ใช่หนี้นอกระบบ หรือเงินนอกตลาด เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำให้ได้” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกด้วยว่า อีกสองสัปดาห์จะไปญี่ปุ่น ซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นด้าน OTOP ที่มีแพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม และมีโซเชียลมีเดียเยอะ เมื่อเห็นสินค้าสวยก็อยากซื้อ ซึ่งจะหาโอกาสนำผู้ประกอบการ OTOP ไทยไปญี่ปุ่น เพื่อดูความสำเร็จและนำมาปรับใช้ และพัฒนาให้ OTOP ไทยไปสู่เวทีโลก ซึ่งถือเป็นเป้าหมายและหน้าที่ของรัฐบาลที่จะสร้างอนาคต สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน

“น้องๆ หลายคนอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว อยากให้อยู่ที่นี่สร้างความเจริญให้กับพื้นที่ตรงนี้ เท่าที่สามารถทำได้ เป็นหน้าที่ผมเองที่จะสร้างอนาคตและสร้างแรงบันดาลใจ เพราะไม่มีใครที่จะเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีสินค้าของเราดีกว่า เพราะท่านเกิดที่นี่และโตที่นี่ ” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานเรื่องสินค้า OTOP สะดุดไป เนื่องจากมีโควิด ซึ่งเราไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก การสะดุดก็ถือเป็นการทำลายโอกาสอย่างหนึ่ง ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านออนไลน์ก็เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอีกเช่นกัน ขอให้มั่นใจรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ และอยากจะพาไปสู่เวทีโลก.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย

จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

แพร่ 28 ก.ค.-จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึก พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชน แต่ในระหว่างอพยพ กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังข้ามน้ำถูกพัดออกไปติดอยู่อีกฝั่ง โชคดีชาวบ้านโยนเชือกช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะน้ำเมื่อคืนไหลแรงมาก ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน มีรถยนต์ ของใช้ที่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับฝนที่ตกลงมาใน จ.แพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลห้วยโรง และตำบลไผ่โทน เมื่อเวลา 20.00 น. มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด 130 มม. สำหรับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ Y20 สถานีวัดระดับน้ำบ้านห้วยสักวัดได้ 7.58 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.00 ม. เมื่อตอนเวลา 22.00 น. หากฝนยังคงตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำยมสูง อาจส่งผลให้น้ำท่วมระลอกที่ 2 ได้.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สนามหลวง 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ และภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรแด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ก่อนจะตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร 174 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย จากนั้น เวลา 08.00 น. รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ตโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ต Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย