เยี่ยมศูนย์ OTOP สันกำแพง ผลักดันไปสู่เวทีโลก

เชียงใหม่ 29 พ.ย. –นายกฯ เยี่ยมศูนย์ OTOP สันกำแพง ต่อยอด “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ริเริ่มไว้ ลั่นเป็นหน้าที่รัฐบาล ต้องผลักดัน OTOP ไปสู่เวทีโลก เล็งพาผู้ประกอบการไทยดูงานญี่ปุ่น เจ้าตำรับ OTOP


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมหารือแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ด้วย Soft Power โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีการแสดงฟ้อนต้อนรับ และมีกลุ่ม OTOP มารอต้อนรับ โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ พิธีกรภายในงานได้บอกว่า “ทุกคนรอเงินดิจิทัล 10,000 บาทอยู่” ทำให้คนที่มาร่วมงานต่างส่งเสียงและปรบมือ ขณะเดียวกันก็มีประชาชนถือป้ายต้อนรับนายกรัฐมนตรี มีข้อความว่า จาวสันกำแพงอยากได้เงินดิจิทัล 10,000 บาทเจ้า, ชาวสันกำแพงรักนายกฯ เศรษฐา รอเงินดิจิทัล 10,000 บาทอยู่นะจ๊ะ, คืนศักดิ์ศรีคือความหวัง ขอท่านนายกฯ ช่วยแก้หนี้นอกระบบ, ขอบคุณนายกฯ ที่ช่วยให้ลูกหนี้ได้มีโอกาสหายใจ ขณะเดียวกัน ยังมีป้ายไวนิล ภาพกราฟิกการ์ตูน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สวมใส่ชุดคล้ายซูเปอร์ฮีโร่ พร้อมเขียนข้อความว่า Soft Power อำนาจแห่งความสร้างสรรค์เพื่อสรรสร้างเศรษฐกิจไทย กัปตัน Soft Power ชาวอำเภอสันกำแพงขอร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power อย่างเต็มพลัง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธสินค้า OTOP และเซ็นชื่อในร่มสันกำแพง ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้า OTOP และได้มอบร่มสีแดงให้กับนายกฯ และนายกฯ ได้กางร่มโชว์อย่างอารมณ์ดี นอกจากนี้ได้เซ็นชื่อบนตัวรูปปั้นช้างเคลือบหยก ที่มีความคงทนและแข็งเหมือนหิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสินค้า OTOP โดยบนตัวช้างยังมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว S ที่ย่อมาจากเศรษฐา โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีเซ็นแล้วจะต้องนำไปเคลือบหยกอีกรอบ ก่อนจะส่งมอบให้นายกรัฐมนตรีผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นของที่ระลึก จากนั้นในระหว่างที่แวะบูธร้านกาแฟเทพเสด็จ ห้วยฮ่องไคร้ มีคุณยายวัย 86 ปี เข้ามาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี จนทำให้นายกรัฐมนตรีต้องลงไปนั่งคุกเข่าพูดคุยกับคุณยาย และสอบถามคุณยายว่า มีปัญหาอะไรให้ช่วยหรือไม่ คุณยายกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่มาให้กำลังใจ


จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมวงหารือกับผู้ประกอบการ เพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาและแนวทางเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้า OTOP ซึ่งมีการเลือกตัวแทน กลุ่มเยาวชน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏ และผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่ 

“การที่ได้มานั่งฟังตรงนี้ หรือว่าได้เห็นปัญหาจริงๆ และเชื่อว่าการที่ได้ลงพื้นที่ แตกต่างจากที่นั่งอยู่ที่ทำเนียบฯ หรือมีคนมาบอกทางออก แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี แต่มาวันนี้ได้ฟังทั้งผู้ประกอบการ นักวิชาการ คนรุ่นใหม่ เยาวชน ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะจังหวัดเชียงใหม่ก็เหมือนเป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย เพราะ OTOP มีการทำมา 20 ปีแล้ว ตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาสานต่อ ซึ่งถือเป็นมรดกที่รัฐบาลนี้ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่ตนควรจะให้ความกระจ่าง ให้ความหวัง ให้แรงบันดาลใจกับทุกคน” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า เรื่องของการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สวยมาก ทุกคนมีความตั้งใจและเข้าใจผลิตภัณฑ์ของตนเอง ผลิตสินค้าที่ดี แต่บางครั้งทั่วโลกก็ยังไม่ทราบถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์ของเรา


“ที่ผ่านมาทางกระทรวงต่างประเทศได้ผลักดัน Soft Power ได้เชิญทูตไทยประจำทุกๆ ประเทศกลับมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เน้นย้ำเรื่องความสำคัญของการเป็นทูตพาณิชย์ทั้งหลาย โดยต่อไปรัฐบาลจะมีการวัดเป็น KPI อย่างเป็นรูปธรรม เช่นในหนึ่งปี จะต้องขายเสื้อได้กี่ตัว ขายช้างได้กี่ตัว เป็นต้น นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษาใหญ่ด้านซอฟต์พาวเวอร์ ก็ไปให้ความกระจ่างกับทูตพาณิชย์ทุกคนว่า เรามีสินค้าดีอยู่ เราควรต้องเอาสินค้าเหล่านี้ไปเผยแพร่ ไปขาย ไปสร้างตลาด ไปสร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เรามี KPI เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือทุกคนให้มีพื้นที่ในการแสดงสินค้า” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัจจุบันถ้าอยากซื้อผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ต้องเดินทางมาถึงเชียงใหม่ ซึ่งเคยคุยกับรัฐมนตรีบางคนไปแล้วว่า อยากจะหาพื้นที่ ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ เพื่อให้สินค้า OTOP ไปขาย จัดทำดิสเพลย์เผยแพร่ให้คนมาที่เดียวแล้วเห็นสินค้าหมด ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยถึงการจัดสถานที่ การดีไซน์หน้าร้าน เพื่อให้ทุกผู้ขายได้มาแสดงสินค้าและมาเผยแพร่สินค้าเหล่านี้ และต่อไปอาจจะมีการเชิญทูตประจำประเทศต่างๆ เข้ามาเยี่ยมชมด้วย ซึ่งเป็นความคาดหวังของรัฐบาลที่อยากจะให้มีเรื่องการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ

“ผมมั่นใจว่า สินค้าของท่านเป็นสินค้าค่อนข้างดี มีคุณภาพ แต่ยังต้องมีการสนับสนุนทางด้านการตลาด ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา ผมเดินทางไปต่างประเทศ พยายามไปขายสินค้า แต่เราไม่ได้ไปแค่ให้เขามาลงทุนในประเทศไทย แต่ไปเปิดตลาดให้ทุกคนได้ไปเปิดสินค้า ให้ทุกคนรู้ว่ารัฐบาลนี้เป็นห่วง และอยากจะส่งเสริมศักยภาพในเวทีโลก ตนยืนยันว่า สินค้าท่านไม่เชยแน่นอน แต่เรื่องของแหล่งทุนก็เป็นเรื่องสำคัญ จริงๆ ต้องเอาหลักการคิด หลักการแข่งขัน ไม่ใช่อยู่ๆ จะยื่นเอาเงินให้ พวกท่านเองก็ต้องช่วยตัวเองก่อน หน้าที่หลักของรัฐบาลคือต้องมีเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนพร้อมที่จะเข้าถึงได้ ถ้าสินค้าของท่านมีคุณภาพ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสนับสนุนในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ไม่ใช่หนี้นอกระบบ หรือเงินนอกตลาด เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำให้ได้” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกด้วยว่า อีกสองสัปดาห์จะไปญี่ปุ่น ซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นด้าน OTOP ที่มีแพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม และมีโซเชียลมีเดียเยอะ เมื่อเห็นสินค้าสวยก็อยากซื้อ ซึ่งจะหาโอกาสนำผู้ประกอบการ OTOP ไทยไปญี่ปุ่น เพื่อดูความสำเร็จและนำมาปรับใช้ และพัฒนาให้ OTOP ไทยไปสู่เวทีโลก ซึ่งถือเป็นเป้าหมายและหน้าที่ของรัฐบาลที่จะสร้างอนาคต สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน

“น้องๆ หลายคนอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว อยากให้อยู่ที่นี่สร้างความเจริญให้กับพื้นที่ตรงนี้ เท่าที่สามารถทำได้ เป็นหน้าที่ผมเองที่จะสร้างอนาคตและสร้างแรงบันดาลใจ เพราะไม่มีใครที่จะเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีสินค้าของเราดีกว่า เพราะท่านเกิดที่นี่และโตที่นี่ ” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานเรื่องสินค้า OTOP สะดุดไป เนื่องจากมีโควิด ซึ่งเราไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก การสะดุดก็ถือเป็นการทำลายโอกาสอย่างหนึ่ง ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านออนไลน์ก็เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอีกเช่นกัน ขอให้มั่นใจรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ และอยากจะพาไปสู่เวทีโลก.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]