“มาดามเดียร์” ประกาศชิง หน.ปชป. 9 ธ.ค.

ประชาธิปัตย์ 29 พ.ย.-“มาดามเดียร์” สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผล พร้อมเปิดตัวลงชิงตำแหน่งหน.ปชป. 9 ธ.ค.นี้ หวังส่งสารถึงปชช.-สมาชิกพรรคพร้อมฟื้นฟูพรรค ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์-เพศ-วัย ฟู ด้าน “ชวน” ให้กำลังใจ


น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ถือฤกษ์ 9.29 น. กราบสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม สัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ก่อนแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ โดยมั่นใจในความเป็นประชาธิปไตยและเสรีภาพของพรรค ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และมีความตั้งใจที่จะเปิดตัวต่อสื่อมวลชน เพื่อส่งสารไปยังประชาชนที่รักพรรคและสมาชิกพรรค

“เป็นการเริ่มต้นการทำการเมืองแบบใหม่ที่ซื่อตรงกับประชาชน ตรงไปตรงมา จริงใจกับประชาชน จึงอยากขอโอกาสฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นที่พึ่งกลับมาเป็นความหวังของประชาชนเพื่อที่จะ นำพาประเทศนำพาอนาคต นำพาให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตัดสินใจในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า จุดยืนของดิฉันชัดเจนว่าวันนี้เราอยู่ฝ่ายค้านขอประกาศตัวจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างดีที่สุดต่อไป ไม่ได้มุ่งหวังจะแสวงหาอำนาจร่วมรัฐบาล” น.ส.วทันยา กล่าว


ส่วนมั่นใจในคะแนนเสียงที่จะได้รับเลือกเพียงใด น.ส.วทันยา กล่าวว่า ก่อนจะมาแถลงข่าว ได้ไปเรียนผู้ใหญ่และมีโอกาสพูดคุยกับสมาชิกพรรคบางคน แต่ถามว่ามี ส.ส.หรือสมาชิกคนไหนพูดคุยที่จะมาเป็นทีมงานนั้น ยังไม่มีข้อสรุป จุดเริ่มต้น คือการตัดสินใจนำเสนอตัวเองลงสมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรคในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ เชื่อว่าการจะฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ได้ ต้องเลือกจากบุคลากรที่มีความสามารถในการเลือกตั้ง ไม่ใช่เลือกจากระบบอุปถัมภ์ เราก้าวข้ามเรื่องระบบอุปถัมภ์ อคติทางเพและวัย จึงเชื่อมั่นว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนจะเปิดโอกาสให้บุคลากรตามความเหมาะสม และเมื่อลงสมัครแล้วไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ โดยสิ่งที่ตัดสินใจคืออยากจะขอลงเลือกตั้งเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับสมาชิกพรรคในการที่จะกลับมาฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์

“สำหรับคนที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรคต้องเริ่มจากบุคลากรภายในพรรคซึ่งพร้อมจะทำงานกับทุกคนไม่ได้มีการ เลือกตัวบุคคลมาก่อน ณ วันนี้อยากจะเสนอตัวเองมาเป็นทางเลือกก่อนแล้วจะพูดคุยในเรื่องของทีมงานในลำดับถัดไป ที่สำคัญคืออยากทำพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นพรรคของประชาชนเป็นทางเลือกที่ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ จึงอยากเปิดโอกาสเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังมีความรู้ความสามารถ บุตรกรภายนอกอีกมากมายเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์” น.ส.วทันยา กล่าว

เมื่อถามว่ามีเลขาธิการพรรคในใจหรือยัง น.ส.วทันยา กล่าวว่า อาจจะมีในใจฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับบุคคลคนนั้นว่าเต็มใจที่นำมาทำงานหนือไม่ ส่วนจะเป็นนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรคหรือไม่ คงต้องให้เกียรตินายชัยชนะว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ยอมรับว่าได้พูดคุยกับนายชัยชนะว่าตัดสินใจลงสมัครและขอลงสู้ คิดว่า ณ วันนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น หากตนไม่กล้าตัดสินใจลงสู้ก็คงไม่ต้องพูดถึงการเมืองและอุปสรรคอีกมากมาย ไม่ว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นและการเมืองในระดับชาติ


ส่วนผู้ใหญ่ให้คำแนะนำอย่างไร นส.วทันยา กล่าวว่า ได้รับคำแนะนำว่าทำให้ดีที่สุดและขออวยพร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้ไปกราบเรียนถึงความตั้งใจเป็นการตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้เกี่ยวกับการเจรจาใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตนได้พูดคุยกับผู้ใหญ่รวมทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ว่าวันนี้มีความตั้งใจจะขอลงชิงหัวหน้าพรรค และอยากให้ช่วยสนับสนุน ซึ่งไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรก็พร้อมที่จะเคารพ และไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็พร้อมจะทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์

“ส่วนจะเปิดตัวทีมงานเมื่อไหร่ ขอรอดูอีกครั้ง ไม่อยากจะให้ตัวบุคคลมาเป็นตัวกำหนดและจากการ เลือกหัวหน้าพรรคที่ผ่านมาบรรยากาศหลายครั้งเกิดขึ้นหลังการเลือกหัวหน้าพรรค เมื่อได้ทีมที่ชนะแล้วอาจจะทำให้ทีมที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อของทีมที่ชนะ หรือทีมที่แพ้ ไม่มีที่ยืนในการทำงาน สิ่งสำคัญที่สุด ในการที่เราจะกลับมาฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ได้ไม่ใช่ความสำเร็จของตนเพียงคนเดียว หรือความสำเร็จของเลขาธิการพรรคหรือกลุ่มผู้บริหารพรรคโดยความสำเร็จเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากความร่วมมือในทุกภาคส่วน จึงเป็นเหตุผลที่วันนี้ยังไม่เสนอรายชื่อทีมงาน ทุกครั้งที่ผ่านมาในการเลือกหัวหน้าพรรคเพราะอยากเปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย ไม่ได้เลือกเป็นฝั่งของใคร เพราะอยากก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์” น.ส.วทันยา กล่าว

ส่วนพูดคุยกับนายนราพัฒน์ แก้วทอง คู่ชิงหัวหน้าพรรคหรือยัง น.ส.วทันยา กล่าวว่า ยังไม่มีโอกาสคุย แต่สามารถร่วมงานกันได้ ส่วนวิสัยทัศน์ของตนคือการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างดีที่สุด เพื่อเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้เป็นไปด้วยความรัดกุม รอบคอบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นปัญหาหมักหมมประเทศ และไม่มีปัญหากับการจับมือกับพรรคก้าวไกลพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรค เจตนารมณ์เพื่อประโยชน์ของประเทศ และในบทบาทฝ่ายค้านก็ร่วมมือมาโดยตลอด เชื่อมั่นว่าหลังจากนี้หากพรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าพรรคแล้วบทบาทการทำงานของของพรรคจะชัดเจนมากขึ้น

ส่วนหากต้องทำงานร่วมกับสส. โดยเป็นหัวหน้าพรรคอยู่นอกสภา น.ส.วทันยา กล่าวว่า การทำงานร่วมกับสส. โดยธรรมเนียมของพรรค การลงมติสำคัญกฎเหล็กของพรรคและสิ่งที่เป็นประเพณีสำคัญจะต้องโหวตเพื่อหามติร่วมกัน ดังนั้น บทบาทนี้คงไม่เป็นอุปสรรคหากต้องทำงานอยู่นอกสภาฯ  ส่วนบทบาทการทำงานอื่น ๆ  คิดว่าวันนี้โลกเปิดกว้าง สื่อสารช่องทาง ใน Social Media ต่าง ๆ ไม่ได้มีข้อจำกัดเหมือนในอดีต

“ส่วนการพลิกพื้นความศรัทธาของพรรค เชื่ออยู่ 3 แนวทางคือ เรื่องของอุดมการณ์ทางการเมือง นับตั้งแต่วันที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งมาอุดมการณ์ 10 ข้อของพรรคได้เขียนอย่างชัดเจน และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่จะพลิกฟื้นพรรคได้คือการสร้างอุดมการณ์ทางการเมืองและอุดมการณ์ทางเศรษฐกิจของพรรคให้กลับมาชัดเจน เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง และแนวทางที่จะทำพรรคให้สมเจตนารมณ์ทางการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง คือเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง สร้างระบบสาขาของพรรคซึ่งเป็นหนึ่งในระบบสาขาที่มีความกว้างขวาง และมีจำนวนสมาชิกมากที่สุด” น.ส.วทันยา กล่าว

น.ส.วทันยา กล่าวว่า หากเราหรือฟื้นกิจกรรมเหล่านี้มา สร้างการมีส่วนร่วม และเปิดโอกาสในการรับฟัง ประชาชนอย่างแท้จริง และดำเนินตามอุดมการณ์ทาง เศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ที่ ต้อง สร้างสังคมสวัสดิการ ขอบใจมากจะใช้โอกาสให้กับประชาชนทุกคน อย่างเท่าเทียม จะซื้อใจ ด้วยการแสดงความจริงใจในการทำงานความตั้งใจ เช่นที่ตัดสินใจอยากจะมาแสดงเจตนารมณ์เพื่อที่จะแสดงออกไปยังสมาชิกทุกคนรวมถึงองค์ประชุมทั้งหลายที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ และเชื่อในเซอร์วิสของสมาชิกพรรค หากมีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากสมาชิก จะเป็นจุดสำคัญที่จะเป็นกำลังใจและสัญลักษณ์ในการแสดงออกให้เห็นว่าวันนี้เวทีการเมืองไทยเปิดกว้าง และเป็นเวทีที่แสดงถึงความเท่าเทียมที่เราก้าวข้ามเรื่องเพศและเรื่องวัยและเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงหลายคนที่สนใจที่อยากจะเข้ามาทำงานการเมือง ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเพศและวัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่น.ส.วทันยาให้สัมภาษณ์เสร็จ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้ามาที่ทำการพรรคพอดี และได้เจอกับน.ส.วทันยา นายชวนจึงสอบถามว่า “”มาดามเดียร์มาเปิดตัวหรอ เรียบร้อยดีแล้วใช่ไหม” ซึ่งน.ส.วทันยา กล่าวตอบว่า มาบอกความตั้งใจต่อสื่อมวลชน และจะทำให้ดีที่สุด ตามที่เคยได้เรียนนายชวนไปแล้ว

เมื่อสื่อถามนายชวน จะแนะนำอะไรหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า มิบังอาจ มาดามเก่งอยู่แล้ว ขอให้กำลังใจ

ส่วนดูแล้วจะมีความหวังหรือไม่นายชวนปฏิเสธที่จะตอบ และบอกให้ไปถามน.ส.วทันยา.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย