สำนักงานป.ป.ช. 24 พ.ย.-“ศรีสุวรรณ” ร้องป.ป.ช.สอบนายกฯ ปมสส.ฝากย้ายผู้กำกับ ชี้แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ หมดความน่าเชื่อถือ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมชัดเจน
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์การใช้อำนาจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการแต่งตั้งนายตำรวจระดับผู้กำกับ (ผกก.) หรือไม่ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีพูดในที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา และหลุดปากว่า “ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกมันเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง แต่ก็เป็นผู้กำกับใหม่ ซึ่งเราจะต้องพูดคุยเรื่องนี้กันให้เข้าใจถ่องแท้ และต้องกำจัดปัญหานี้ออกไป เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ”
“คำพูดของนายกฯ เป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 วรรคสอง เข้าข่ายการฝ่าฝืนจริยธรรม ส่วนสส.ที่มีพฤติการณ์การขอตำแหน่งไปยังนายกฯ จะเข้าข่ายความผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 (3) แต่พฤติการณ์ของ สส.ก็เข้าข่ายผิดจริยธรรรมด้วย ตอนที่นายเศรษฐาหาเสียงเลือกตั้ง ยืนยันว่าจะไม่ทุจริตและใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซงโยกย้ายข้าราชการ เพื่อสร้างระบบอุปถัมภ์อีก แต่มาวันนี้ความจริงถูกเปิดเผยว่า มีพฤติการณ์ไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจริง ดังนั้น ป.ป.ช.สามารถเรียกนายกฯ มาสอบว่ามีสส.คนใดบ้างของพรรคเพื่อไทย ที่เสนอให้โยกย้ายผู้กำกับ” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงภายหลัง เหมือนเป็นการแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่น ๆ ว่าไม่มีเจตนาและไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย ซึ่งเป็นการแก้ตัวและหาเหตุอ้างว่าตัวเองไม่ได้ทำ แต่คำพูดที่ออกมาเป็นประจักษ์พยานชัดเจน นักการเมือง นักวิชาการหลายคนพูดตรงกันว่าเป็นเหมือนใบเสร็จที่ไม่สามารถลบล้างสิ่งที่พูดไปแล้วได้ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีชอบพูดอย่าง ทำอย่างลักษณะนี้หลายครั้ง ทำให้ความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศหายไป อย่างกรณีเงินดิจิทัล วอลเล็ตที่บอกว่าจะไม่กู้ สุดท้ายก็ต้องกู้ หรือกรณีการสู้รบในอิสราเอล ก็ไปตำหนิกลุ่มฮามาส จนกระทั่งมีปัญหาแรงงานไทยถูกจับไปเป็นตัวประกัน
“นายกฯ เป็นผู้นำประเทศที่สิ้นแล้วซึ่งความน่าเชื่อถือและศรัทธาของประชาชน ถูกจับได้ก็ปฏิเสธพัลวัน สีข้างแดงไปทั้งเถือก และต้องมีบทลงโทษด้วย เนื่องจากกฎหมายป.ป.ช.เขียนไว้ชัดเจนว่ามีเจตนา จงใจที่ละเมิดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รวมถึงฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เราจึงต้องนำเรื่องนี้มาร้องต่อป.ป.ช. ตามครรลองของกฎหมาย” นายศรีสุวรรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย