เปิดทรัพย์สินฯ 3 อดีตรัฐมนตรี

ป.ป.ช. 24  พ.ย. – ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน 3 อดีตรัฐมนตรี “คุณหญิงกัลยา” รวย 2,620 ล้านบาท “จุติ” 209 ล้านบาท รวยที่ดิน 58 แปลง ด้าน “ประภัตร“ 85.9 ล้านบาท สะสมแบงก์ห้าร้อย 500 ฉบับ


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 โดยนายประภัตร โพธสุธน   แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ กรณีพ้นจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุสถานะโสด มีทรัพย์สินรวม 85,973,286 บาท ไม่มีหนี้สิน ทรัพย์สินแบ่งเป็นเงินสด 500,000 บาท เงินฝาก  3,0 91,386 บาท เงินให้กู้ยืมแก่ บจก.พีพีแอนด์พี ทรานสปอร์ต 8 ล้านบาท ที่ดิน 19 แปลงใน จ.สุพรรณบุรี และเชียงใหม่ รวม 48,526,900 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านพักในจังหวัดสุพรรณบุรี และเชียงใหม่ รวม 25 ล้านบาท รถยนต์ volkswagen 3 คัน รวม 3,525,000 บาท สิทธิและสัมปทานเป็นสิทธิสัญญาเช่าที่ดินเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 66 และสิ้นสุดสัญญาเช่า 9 ม.ค. 68   มูลค่า 180,000 บาท ทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่า 4,350,000 บาท เช่น นาฬิกา 6 เรือน แหวน 2 วง พระเครื่อง เหรียญบูชา 247 องค์ สร้อยคอทองคำ 14 เส้น เหรียญที่ระลึกทองคำ/เงิน 250 เหรียญ ธนบัตรที่ระลึกฉบับละ 500 จำนวน 500 ฉบับ โดยแจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 1,715,761 บาท แบ่งเป็นจากกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา 1,362,720 บาท ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม 293,000 บาท ค่าเช่า 60,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว รวม 600,000 บาท

ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ แจ้งกรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุตนเองและนางสมานจิตต์ ไกรฤกษ์ คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 209,119,351 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นทรัพย์สินของนายจุติ จำนวน 162,717,758 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 12 บัญชี รวม 5,758,839 บาท เงินลงทุนในกองทุนรวม จำนวน 16,289,217 บาท ที่ดิน 58 แปลง ใน จ.พิษณุโลก กรุงเทพฯ นครปฐม เชียงใหม่ เชียงราย มูลค่า 126,763,774  บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นห้องชุดใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวม 12,75,927 บาท ยานพาหนะ จำนวน 200,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1 ล้านบาท เป็นแสตมป์ทองโครงการ 99 ล้านถวายเทิดไทองค์ราชันย์ ได้มาเมื่อ 22  มี.ค.55


โดยแจ้งมีรายได้ต่อปี จากเงินเดือนเบี้ยประชุมและดอกเบี้ยธนาคาร รวมประมาณ 1,432,720 บาท รายจ่ายต่อปีแจ้งว่าไม่สามารถประเมินได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจ

ส่วนนางสมานจิตต์ แจ้งมีทรัพย์สิน รวม 46, 401,593 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 9 บัญชี จำนวน 11,316, 753 บาท เงินลงทุนนกองทุน จำนวน 17,351,189 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านและตึกแถวพร้อมที่ดิน จำนวน 2 หลัง มูลค่า 8 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน จำนวน 7,433,650 บาท ทรัพย์สินอื่น 2.3 ล้านบาท เป็นตุ้มหูเพชรหยดน้ำ และแจ้งมีรายได้ต่อปีจากดอกเบี้ยธนาคารจำนวน 55,000 บาท

ด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช แจ้งบัญชีทรัพย์สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งว่าตนเองและนายโชติ โสภณพนิช คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 2,620,440,398 บาท มีหนี้สินรวม 148,368 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของคุณหญิงกัลยาจำนวน 105,824, 894 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 12 บัญชี จำนวน 37,069,864 บาท  เงินลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้ หลักทรัพย์รัฐบาลค้ำประกันต่างๆ จำนวน 49,036,400 บาท ที่ดิน 2 แปลงใน จ.ระยอง และนครราชสีมา มูลค่า 1,599,630 บาท งานผ้าขนาด 749,000 บาท ทรัพย์สินอื่น จำนวน 12,370,000 บาท เช่น เครื่องประดับแหวน ต่างหู เข็มกลัด สร้อยข้อมือ จี้ นาฬิกา รวม 20  รายการ และหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 107,724 บาท


โดยคุณหญิงกัลยา แจ้งมีรายได้ต่อปี รวม 17,368,972 บาท จากเงินเดือน 1,362,720 บาท เบี้ยประชุม 5,750 บาท ค่าตอบแทน 201,600 บาท รายได้จากดอกเบี้ย 1,379,191 บาท เงินปันผล 5,298,600 บาท ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ 9,076,111 บาท แต่มีรายจ่ายต่อปีรวม 5,901,474 บาท จากอุปโภคบริโภค เบี้ยประกัน ท่องเที่ยวและเงินบริจาค

ส่วนนายโชติ มีทรัพย์สินรวม 2,519,615,504 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 3 บัญชี จำนวน  43,169,041 บาท เงินลงทุน 2,316 686,162 บาท ในจำนวนนี้นอกจากเป็นการลงทุนในบริษัทกองทุนเปิดต่างๆ แล้ว ยังมีการลงทุนใน Mission Bay Capital Fund lll,L.P.(USD2,565,000) มูลค่า 82,972,425 บาท เงินลงทุนใน Glint Pay Limited UK มูลค่า 4,428,072 บาท เงินลงทุนใน Half Brother Captain Limited มูลค่า 2,325,957 บาท ที่ดิน 7 แปลง ใน กทม. ปทุมธานี เชียงใหม่ มูลค่า 151,760,300 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักในเขตบางนา กทม. 8 ล้านบาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 40,644 บาท

ทั้งนี้ นายโชติ แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 132,564,913 บาท จากเงินเดือน 13,997,823 บาท เบี้ยประชุม 150,000 บาท รายได้จากดอกเบี้ย 157,209 บาท เงินปันผล 77,860,575 บาท ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ 40,399,305 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 4,799,568 บาท โดยเป็นค่าท่องเที่ยว 3 ล้านบาท เงินบริจาค 204,500 บาท ค่าบริหารเงินลงทุนตามสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของคู่สมรสรัฐมนตรี 500,000 บาท  ค่าภาษีที่ดิน 477,271 บาท ค่ารักษาพยาบาล 527,797 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย