แฉ นักการเมืองใหญ่ – ขรก. เอี่ยวหมูเถื่อน

ทำเนียบรัฐบาล 24 พ.ย.- “ธรรมนัส” แถลงหมูเถื่อน แฉ นักการเมืองใหญ่ – ขรก. เอี่ยวด้วย ขอไม่เอ่ยชื่อสาวถึง รมต. อักษรย่อ ป.หรือไม่ ส่งสำนวน ป.ป.ช.แล้ว ขณะดีเอสไอ เผย เช้านี้ “สมนึก” มอบตัวแล้ว  ชี้เป็น องค์กรอาชญากรรมกระทบความมั่นคงทางอาหาร  มั่นใจ ต้นปีหน้าสถานการณ์คลี่คลายแน่ 


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวความคืบหน้าการปราบปรามหมูเถื่อน พร้อมด้วยพันตำรวจตรีสุริยา สิงกลม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ,นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์, นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง ,พันตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ,และนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร

ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้มีการตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานลับเพื่อตรวจค้นได้ทันที โดยอาศัย พ.ร.บ.โรคระบาด


อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่าตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม จนถึงปัจจุบัน สามารถดำเนินการเข้าตรวจสอบห้องเย็น 2,210 แห่ง ทั้งที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมปศุสัตว์ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมการค้าภายใน และกรมประมง ส่วนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมใดเลย เบื้องต้นได้เข้าตรวจสอบ 1,100 แห่ง ซึ่งขณะนี้สามารถอายัดซากสัตว์ได้กว่า 2.5 ล้านกิโลกรัม เป็นเนื้อหมู 6 แสนกิโลกรัม ใน 35 จังหวัด 92 คดี ซึ่งเป็นความผิด ทั้งโรงฆ่าเถื่อน นำเนื้อจำหน่ายโดยไม่มีแหล่งที่มาหรือไม่ได้ขออนุญาตที่ถูกต้อง

จากนั้นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ของกลางทั้ง 161 ตู้ ได้พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา เราได้เร่งรัดดำเนินการ ผลการดำเนินการ มีพยานหลักฐานพร้อม ซึ่งมีผู้กระทำความผิดพอสมควร

“เป็นองค์กรอาชญากรรมที่กระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของคนไทยและเกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพ โดยประกอบไปด้วย กลุ่มนายทุน กลุ่มข้าราชการอดีตข้าราชการ และข้าราชการฝ่ายการเมือง ซึ่งพบว่าเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยขณะนี้ได้มีการสรุปสำนวน ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เสร็จสิ้นแล้ว” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว


เมื่อถามว่า มีผู้กระทำผิดพอสมควรคือจำนวนเท่าใด อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า ว่า เป็นอดีตข้าราชการ และข้าราชการ หลัก 10 คน เป็นข้าราชการฝ่ายการเมือง ไม่ถึง 10 คน ซึ่งไม่ขอลงรายละเอียดว่าจะสาวไปถึงรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช.แล้ว จึงไม่ขอก้าวล่วง ซึ่งเมื่อสาวไปถึงใคร ก็จะมีการขยายผลไปอีกตามข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง

ส่วนจะสามารถสาวไปถึงตัวคนผิดได้หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อนแถลงข่าว และได้โทรหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งขณะนี้กลุ่มผู้กระทำความผิด ได้ซัดทอดไปถึงกลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ 3 ซึ่งสรุปสำนวนไปถึงป.ป.ช. แล้ว ถึงระดับนักการเมืองใหญ่ ยืนยันว่าจะถึงต้นตอทั้ง 161 ตู้

ส่วนกลุ่มนักการเมือง กลุ่มพ่อค้า มีอดีตรัฐมนตรีช่วยอักษรย่อป.ปลาหรือไม่นั้น ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า “ขออย่าไปเอ่ยชื่อ เดี๋ยวจะต้องขึ้นศาลไปด้วยกันทั้งหมด”

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวถึงการดำเนินการเชิงรุกการปราบปรามหมู่เถื่อน ว่า ตนได้สั่งการให้มีการเซ็ตซีโร่ห้องเย็นทั้งหมด หลังจากนี้ ไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคมนี้ หากผู้ขายไม่ยอมมาขึ้นทะเบียน ก็จะถือว่าเป็นผู้ประกอบการเถื่อน จะถูกดำเนินคดีอาญาในทันทีรวมถึงรถบรรทุกที่มีห้องเย็นด้วย

ร้อยเอกธรรมนัส ยอมรับว่าตั้งแต่มีการขนย้ายตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบังไปฝังกลบและเผาก็เกิดประเด็นสังคม เกิดความไม่ไว้วางใจ ว่าสิ่งเหล่านี้มีเชื้อหรือไม่ ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งเข้าใจความรู้สึก ของสังคม และสิ่งสำคัญคือผู้อยู่เบื้องหลัง การค้าหมูเถื่อน เมื่อทราบ ก็จะมีกระบวนการ ทำให้เราไม่สามารถไปฝังกลบ หรือทำลายได้ ตนจึงสั่งการให้มีการบันทึกภาพวีดีโอในการฝังกลบภายในสิ้นเดือนนี้ทั้งหมด จะนำเสนอต่อสื่อฯและรับรองว่ามีคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมด เรื่องนี้ต้องขออนุญาตสงวนสิทธิ์เป็นความลับ เพราะว่าพอเปิดเผยแล้ว ก็มีอุปสรรค

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยต่อว่า วันนี้มีผู้ต้องหา 1 รายเดินทางมามอบตัวคือนายสมนึก โดยจะเร่งดำเนินการเอาผิดทั้งหมด

“ขออย่ากังวลว่า หากจะไปกระทบผู้มากมีอิทธิพลแล้วจะไม่ดำเนินการ ส่วนเรื่องยึดทรัพย์ ก็จะทำคู่ขนานไปด้วยสัปดาห์ต่อไป จะเห็นความคืบหน้าของตัวละคร ที่มีความต้องการ ไประบายหมูเถื่อน ยืนยันไม่เอาไว้ ถึงใครต้องดำเนินการทั้งหมด พร้อมระบุว่าสถานการณ์หมูเถื่อนจะคลี่คลายในปีหน้า” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว

ขณะที่ รองเลขา ป.ป.ง.ยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน เราได้ดำเนินการ กับนอมินีและนายทุน ซึ่งขณะนี้ยึดทรัพย์ไปแล้ว 8 บุคคล 6 บริษัท จำนวน 53 ล้านบาทและจะดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป

โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ศุลกากรถือเป็นด่านแรกในการนำหมูเข้ามา ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมศุลกากรโดยตรง ปัจจุบันได้มีการตรวจสินค้าแช่เยือกแข็งทุกตู้สินค้า ปัจจุบันมีการนำเข้าและส่งออกปีละ 11 ล้านตู้ จึงไม่ได้ตรวจทุกตู้ แต่เมื่อมีการสำแดงเป็นสินค้า ประเภทอื่น และมีใบอนุญาตมา หากเราเปิด ทำให้ตู้เย็นเสียอุณหภูมิ ผู้ประกอบการจึงไม่ได้รับความสะดวก และร้องเรียนมา แต่ 161 ตู้ที่เราตรวจพบ เนื่องจากเราเห็นความผิดปกติมีการสำแดงนำเข้าปลามากจนเกินไป จึงส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ปัจจุบันได้มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานเกษตรในพื้นที่มีการตรวจตู้ร่วมกันอย่างเข้มข้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย