นายกฯ เผยเชิญ “โจ ไบเดน” เยือนไทยอย่างเป็นทางการ

ไบเทค 19 พ.ย.- นายกฯ พอใจผลประชุมเอเปคและหารือผู้นำ พรุ่งนี้เตรียมเรียกถกทีมงานสานต่อผลการเจรจา หวังดึงนักลงทุนย้ายฐานการผลิตมาไทย เผยเชิญ “โจ ไบเดน” เยือนไทยอย่างเป็นทางการ


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ เอเปค ณ ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เสร็จสิ้นว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจ ที่พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งซานฟรานซิสโก โดยมีผู้นำประเทศต่างๆ เข้าร่วม

ขณะนั่งรับประทานอาหารข้างกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และได้พูดคุยกัน ยืนยันว่าไทยพร้อมที่จะเป็นทางเลือกให้บริษัทใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานผลิตที่ไทยเพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งเห็นกันอยู่ว่าตอนนี้มีหลายประเทศเข้ามาร่วมลงทุนที่ไทย นอกจากนี้ยังถือโอกาสเชิญนายโจ ไบเดน เดินทางมาไทยโดยระบุว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการมากกว่า 10 ปีแล้ว จึงได้เรียนเชิญนายโจ ไบเดน มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงการต่างประเทศก็จะประสานงานต่อไป


นายเศรษฐา เผยว่าได้พบกับนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทย พูดคุยกันในหลายประเด็น ซึ่งสัมผัสได้ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นคนที่มีพลังอบอุ่นและเป็นมิตร ตนเองยังได้แสดงความยินดี ผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มซี นัดแรก ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 16 พ.ย.66 ทีมชาติไทยแพ้ทีมชาติจีน 1-2 ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บอกว่าน่าจะฟลุ๊กมากกว่า โดยท่านก็อวยพรให้ทีมไทยชนะและผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกเช่นกัน

นายเศรษฐา ยังเผยว่าได้กับนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ซึ่งนายเศรษฐาพูดติดตลกว่าไม่ได้พูดคุยเรื่องสีถุงเท้า แต่พูดคุยหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการขอวีซ่าให้นักเรียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแคนาดารับเรื่องไว้พิจารณา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยถึงการเข้าพบกับนักธุรกิจรายใหญ่ของสหรัฐหลายราย ที่ส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เช่น บริษัทเทสลา ที่สนใจจะเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถยนต์อีวีในประเทศไทย และในสัปดาห์หน้าผู้บริหารระดับสูงก็จะบินเข้ามาในประเทศไทยเพื่อมาดูสถานที่ตั้งโรงงาน ล่าสุดมีผู้เสนอขายที่ให้ตั้งโรงงานจำนวน 3 ราย พร้อมกันนี้ตนได้เชิญไปร่วม สัมผัสซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในงานยี่เป็ง ที่จังหวัดเชียงใหม่


บริษัท เอดีไอ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ สนใจลงทุนเรื่องพลังงานสะอาดในไทย ส่วนผลการหารือกับบริษัท วอลมาร์ท จะขยายเรื่องอาหารฮาลาล และผลไม้สด อาหารสด ขอให้มีการคมนาคม ศุลกากร เพื่อขนส่งสินค้าด้วยความรวดเร็ว สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

บริษัท เวสเทิ้น ดิจิทัล จะย้ายฐานจากฟิลิปปินส์มาไทย ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ และบริษัทนี้ยังรักเมืองไทย และบริษัท แอปเปิ้ล ที่จะส่งเสริมคนพัฒนาแอปพลิเคชันในไทยที่มีกว่า 3 แสนคน เพื่อต่อยอด ซึ่งจะเสนอให้ทำเทรนนิงเซนเตอร์ พร้อมสนับสนุนการลงทุน โดยอาจทำที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะให้หน่วยงานพื้นที่หารือ

เมื่อถามว่าการเดินทางเยือนสหรัฐในครั้งนี้ถือว่าพอใจและประสบความสำเร็จหรือไม่ นายเศษฐากล่าวว่ายังมีรายละเอียดที่ต้องดำเนินการอีกมาก โดยวันพรุ่งนี้ตนจะร่วมประชุมกับทีมงาน หลังเข้าร่วมประชุมแล้วใครต้องตามงานอะไร อย่างไรบ้าง ไม่ได้เป็นการพบปะแล้วก็พอใจสิ่งที่ตนเองมีอยู่ แต่เราต้องเดินทางให้เยอะขึ้นทำให้เยอะขึ้น จากการพบปะพูดคุยกับนักธุรกิจหลายราย โดยรายหนึ่งที่ทำด้านโลจิสติกส์ ซึ่งบอกว่าประเทศไทยเป็นที่เป็นที่หมายปองของหลายบริษัท ที่อยากจะย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย ที่เป็นประเด็นที่ตนจะต้องมาหารือกับสภาหอการค้าไทยในวันนี้ด้วย ซึ่งมีนักธุรกิจอยู่มาก โดยจะพูดคุยกัน และจะบอกว่าประเทศเราเป็นที่หมายปอง พวกเราทุกคนต้องเปิดกว้าง ต้องเดินทางออกไปค้าขาย ขณะที่รัฐบาลเองก็พร้อมที่จะเจรจาเรื่อง FTA ทุกหน่วยงาน รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง ก็พร้อมที่จะเปิดและแก้ไขกฎหมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนให้มีการท่องเที่ยว วีซ่าฟรี เปิดสถานบริการให้ยาวขึ้น และกวาดล้างมิจฉาชีพต่างๆ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ ส่วนตัวไม่อยากจะบอกว่าประสบความสำเร็จ แต่พวกเราต้องทำงานอีกมาก เชื่อรัฐมนตรีหลายๆ คน ได้รับฟังน่าจะรู้สึกตื่นเต้น และทุกคนน่าจะทราบว่าแต่ละคนมีหน้าที่จะต้องดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามว่านายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ก็เห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่ก็มีบางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการกู้เงินมาใช้ในโครงการนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็พร้อมรับฟังความเห็นต่างๆ และขอบคุณนายธานินทร์ที่ให้การสนับสนุน ต้องไปดูว่าประเทศเราต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยที่นโยบายหลักไม่ว่าจะเป็น ลดค่าใช้จ่าย การสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลทำอยู่แล้ว จะส่งผลระยะสั้นแต่ระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการย้ายถิ่นฐานการผลิตของหลายๆ บริษัทเข้ามา กว่าจะตอกเสาเข็มและส่งสินค้าออกไป ต้องใช้เวลาหลายปี โดย 9 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 1.8% เราจึงต้องการวิธีการใหม่ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินมาใช้ในโครงการนี้ มองว่าเศรษฐกิจไทยยังสามารถเติบโตได้ ไม่ใช่ภาวะวิกฤติจนต้องกู้เงิน นายเศรษฐา กล่าวว่าพร้อมรับฟังและรับทราบ และอย่างที่ตนได้บอกตลอดเวลาว่า มีอยู่ประเด็นเดียว วิกฤติหรือจำเป็นหรือไม่ ซึ่งตนถือว่าวิกฤติ ถ้าเกิดบอกว่าวิกฤติแล้ว GDP ต้องติดลบ อันนั้นก็มีวิกฤติ แต่ถ้ามองดูว่า 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเราโตขยายตัวอยู่ที่ 1.8 คู่แข่งเราไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เศรษฐกิจเขาขยายตัวโตเท่าไร ขอย้อนกลับดูตัวเลขย้อนหลัง และชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน สาเหตุที่ค่าแรงขึ้นไม่ได้เพราะอะไร เพราะทุกธุรกิจเรารายได้ไม่ได้ขยายตัวขนาดนั้น รายได้ขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาท เพิ่มเป็น 337 บาท กลับบ้านเถอะครับ เราก็เห็นใจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อย ว่าไม่สามารถขึ้นค่าแรงได้ เนื่องจากหลายๆ เหตุผล กว่า FTA จะเจรจาแล้วเสร็จใช้เวลา 1-2 ปี และกว่าจะต้องโรงงานก็ใช้เวลานานพอสมควร กว่านโยบายหลายหลายนโยบายจะประสบความสำเร็จก็ต้องใช้เวลา ซึ่งระหว่างนี้เราจะทำอะไรกันก็ฝากไว้แล้วกัน .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]

ทบ.ยันคุมตัว 18 ทหารเขมร ยึดหลักกฎหมายสากล

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบก แถลงโต้กัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติสากล ยืนยันควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกัมพูชายื่นข้อเรียกร้องต่อทางการไทย เพื่อให้ส่งตัวทหารที่ถูกควบคุมตัวไว้กลับประเทศ ขอเรียนว่าฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบของสากล ยืนยันการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล ซึ่งเชื่อว่าประเทศพันธมิตรและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ มีความเข้าใจ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง โดยเฉพาะการที่ฝ่ายไทยได้เปิดโอกาสให้องค์กรสากลที่เกี่ยวข้องสามารถประสานขอเข้าเยื่ยมชมได้ตลอดตั้งแต่วันแรกๆ ที่ฝ่ายไทยได้มีการควบคุมตัว   อย่างเช่นเมื่อ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคณะผู้แทนจาก ICRC ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านการคุ้มครอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เจ้าหน้าที่โครงการของ ICRC และล่าม รวม 4 คน เพิ่งมาเยื่ยมชมไป จึงขอยืนยันว่าการควบคุมทหารกัมพูชาทั้ง 18 คนนั้น เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวา ไม่ใช่การควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายตามที่ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กล่าวอ้าง ทั้งนี้การถูกควบคุมตัวดังกล่าว จำเป็นต้องคงไว้ จนกว่าสถานะการณ์การหยุดยิงหรือสถานการณ์การสู้รบ จะมีความสมบูรณ์เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้วเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด จะไม่หวนกลับมาทำการสู้รบกับฝ่ายไทยอีก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางหลักสากล และเชื่อว่าด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชายังมีเรื่องสำคัญอื่น ที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน […]