แนะเพิ่มคู่สายแจ้งเบาะแสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 14 วัน ยอดโทรพุ่ง 3.8 หมื่นสาย

กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – กมธ.ดีอี แนะเปิดเพิ่มคู่สายศูนย์ AOC สายด่วน 1441 แจ้งเบาะแสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผย 14 วัน คนโทรแจ้ง 3.8 หมื่นสาย


นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กมธ.การสื่อสารฯ ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Cyber Crime) โดยเชิญกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้ารายงานผลการทำงานของศูนย์ AOC (Anti Online Scam Operation Center) สายด่วน 1441 หลังเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนติดต่อเข้ามาในช่วงระยะเวลา 14 วันแรก (1-14 พ.ย.66) จำนวน 38,564 สาย โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก การโทรเข้าพุ่งสูงจากประมาณ 1,000 สาย ไปถึง 3,000 กว่าสาย ขณะที่การดำเนินการอายัดบัญชี มีจำนวน 2,671 บัญชี ซึ่งถือว่าการทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วและตอบสนองเท่าทันต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในศูนย์ AOC และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ยังพบปัญหาว่า ในจำนวนการโทรเข้ารวมทั้งหมด มีทั้งโทรซ้ำ โทรติดตามเรื่อง โทรติดแต่รอนานและโทรเข้ามาใหม่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก บางครั้งผู้เสียหายที่มีเรื่องเร่งด่วนจริงๆ อาจได้รับความล่าช้าในการส่งเรื่องถึงเจ้าหน้าที่ ทาง กมธ.สื่อสารฯ จึงเห็นว่า ศูนย์ AOC ควรต้องเพิ่มคู่สายเพื่อรองรับสายที่โทรเข้ามา ในขณะเดียวกัน ควรมีการเปิดช่องทางออนไลน์ เพื่อแจ้งเบาะแสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อความรวดเร็วในการสื่อสารและการแก้ไขปัญหามากขึ้น


เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของศูนย์ AOC 1441 อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งได้แก่

  1. อายัดบัญชีของคนร้ายให้ผู้เสียหายทันที
  2. ติดตามสถานะการแก้ไขปัญหาให้ผู้เสียหายทุกขั้นตอนได้ทันที
  3. เร่งการคืนเงินให้ผู้เสียหาย
  4. เพิ่มประสิทธิภาพการจับกุมดำเนินคดีและการขยายผลคดี โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยงานบูรณาการข้อมูล และร่วมทำงานทันทีทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย

“ศูนย์ AOC ตั้งขึ้นมาในช่วงของกระทรวงดิจิทัลฯ ในรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย สามารถตอบสนองต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นการส่งเสริมให้การแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนดียิ่งขึ้น และป้องปรามการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน การเพิ่มจำนวนคู่สายจึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำงานเพื่อประชาชนอีกทางหนึ่ง” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C

นายกฯ ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบตึก สตง.ถล่ม ทำโมเดลขีดเส้น 90 วัน

นายกฯ ดึง 4 สถาบันวิศวะ บวก กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมทำโมเดลเหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม ขีดเส้น 90 วัน ลั่น ต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน พร้อมฟันระหว่างทางถ้าพบทำผิดกฎหมาย สั่ง ตรวจตึกทั้งรัฐและเอกชนใหม่ทั้งหมด เข้ม ปลอดภัยรับแผ่นดินไหว ชี้ เอกชนขู่ถอดถอน รมว.อุตสาหกรรม ไม่ได้ เพราะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ