ซานฟรานซิสโก 13 พ.ย.-ปลัดคมนาคม เชื่อต่างชาติสนใจโครงการแลนด์บริดจ์ พร้อมออกกฎหมายพิเศษ เอื้อนักลงทุน ยันไทยได้ประโยชน์
เวลา 14.00 น.วานนี้(12 พ.ย.) (ตามเวลาท้องถิ่นซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง ) นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวระหว่างร่วมคณะนายเศรษฐษ ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ที่นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงการเตรียมโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ว่า ไม่ใช่โครงการที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นนานพอสมควรและพูดคุยตลอด 20-30 ปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลที่แล้วให้ศึกษาเรื่องแลนด์บริดจ์ ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้เปรียบ เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ฝั่งทะเล ได้แก่ ฝั่งทะเลจีนใต้ และฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งจะมีการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง ไปยังโรงงานในผลิตใน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เมื่อผลิตเสร็จสินค้าส่วนหนึ่งจะข้ามไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก
“ อีกส่วนจะวกกลับผ่านช่องแคบมะละกาไปทางยุโรป เอเชียกลาง และเอเชียใต้ ซึ่งประเทศไทยอยู่ตรงกลางจึงมีโลเคชั่นที่ได้เปรียบ อีกทั้งสินค้าที่ต้องผ่านช่องแคบมะละกามีจำนวนมากขึ้นและในอนาคตอาจจะมีปัญหาการส่งสินค้าได้ จึงเป็นจังหวะที่ประเทศไทยได้เปรียบ หากสามารถดึงสิ่งที่อยู่ในเส้นทางเดินเรือโลกมาผ่านประเทศไทยได้ โดยโครงการแลนด์บริดจ์จะทำให้เส้นทางการขนส่งสินค้าสั้นลงประมาณ 5 - 10 วัน และหากได้ทำโรดโชว์โครงการนี้ให้คนเห็น และมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยก็มีโอกาสที่โครงการนี้จะเกิดขึ้นได้และประเทศไทยจะได้ประโยชน์” ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าว
นายชยธรรม์ กล่าวว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีพูดในหลายเวที ซึ่งมีหลายประเทศให้ความสนใจ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาให้ความสนใจเรื่องนี้ จึงเป็นเหตุผลที่มาโรดโชว์ในสหรัฐอเมริกา สำหรับการโรดโชว์ครั้งนี้ เพื่อต้องการมารับฟังความเห็นของนักลงทุนว่า ถ้าต้องการมาลงทุนในประเทศไทย มีปัจจัยอะไรที่ต้องการ และให้เราเตรียมให้ โดยมุมหนึ่งในการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ คือเรื่องกฎหมาย จะต้องมีกฎหมายพิเศษที่เป็นลักษณะเดียวกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีซีซี ) จากนั้นจะนำความเห็นจากการโรดโชว์ไปประมวลว่าสิ่งใดสามารถทำได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน หรือมีอะไรที่จะต้องเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า จะมีมาตรการภาษีเพื่อเป็นแรงจูงใจด้วยหรือไม่ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าว่า จะต้องคุยกันว่าเขามีความประสงค์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม โครงการแลนด์บริดจ์ นอกจากจะนำเรือเดินสินค้า มายังประเทศไทยแล้ว ส่วนที่นายกฯ มองคือให้เขามาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์แล้วส่งออก ซึ่งจะทำให้ต้นทุนต่างๆถูกลง อีกทั้งลดระยะเวลาการเดินทาง และสิ่งนี้จะทำให้โครงการแลนด์บริดจ์น่าสนใจมากขึ้น
ส่วนเป้าหมายของนักลงทุนจะเป็นต่างชาติ 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ นายชยธรรม์ กล่าวว่า เรามองว่าเมื่อสร้างเสร็จต้องมีคนมาใช้ ดังนั้นคนที่จะมาลงทุนจะต้องเป็นคนที่อยู่ในธุรกิจนี้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า โครงการนี้จะเกิดได้เมื่อใด ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังโรดโชว์เสร็จสิ้นจะกลับไปประมวลว่าต้องทำกฎหมายพิเศษอย่างไร เมื่อทำเสร็จแล้วจะเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุน ซึ่งภายในระยะเวลา 2 ปีจะมีความชัดเจน โดยในกรอบของกฎหมายจะมีการตั้งหน่วยงานและคณะกรรมการที่จะมารับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งโครงการนี้มีความเกี่ยวข้องหลายกระทรวง โดยจะมีการรายงานนายกฯ โดยตรง สำหรับเป้าหมายประเทศที่อยากให้มาลงทุนในโครงการดังกล่าวมีทั้งตะวันออกกลาง จีน ยุโรป อเมริกา.-สำนักข่าวไทย