ผู้ตรวจการแผ่นดิน 13 พ.ย.- “ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาส่งศาลรธน.วินิจฉัยโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ขัดมาตรา 140 รัฐธรรมนูญ กฎหมายการเงินการคลัง ชี้หวังผลการเมืองชัดเจน ผิดจริยธรรมร้ายแรง
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีรัฐบาลตราพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 140 ประกอบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2560 มาตรา 53 หรือไม่ โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรับหนังสือ
“ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง พูดมาตลอดว่า จะไม่กูเงินมาเพื่อทำโครงการนี้ แต่วันนี้กลับกลืนน้ำลายตัวเอง ใช้ช่องทางการกู้เงินมาแจก เพื่อหวังความนิยมทางการเมืองเท่านั้น นอกจากเป็นการตระบัดสัตย์ของผู้นำประเทศ ยังเป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 ซึ่งกำหนดไว้ชัดเจนว่า การจะกู้เงิน จะทำได้เฉพาะที่เป็นไปตามกฎหมายว่า ด้วยเงินงบประมาณ หรือที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายวินัยการเงินการคลัง เว้นแต่มีกรณีจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งต้องไปดูพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง โดยมาตรา 53 เขียนชัดเจนว่าการจะกู้เงิน นอกจากต้องมีเหตุตามกฎหมายว่า ด้วยการบริหารหนี้สาธารณะแล้ว จะมีเงื่อนไขว่าต้องมีเหตุเร่งด่วน และต้องใช้ความต่อเนื่องในการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ และตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน แต่ ณ วันนี้ สถานการณ์ของประเทศไม่มีเหตุอะไรจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องกู้เงินเลย” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแถลงมาโดยตลอดว่าจะใช้เงิน 5 แสนล้านบาทครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วจบเลย จึงไม่ใช่เรื่องของความต่อเนื่อง แต่ที่จะต่อเนื่องก็มีแค่คนไทยทั้ง 70 ล้านคนต้องมาใช้หนี้และดอกเบี้ยเงินกู้ในภายหลัง ส่วนการแก้ปัญหาวิกฤติเศษฐกิจประเทศยังห่างไกลมาก แต่ถ้าจะอ้างว่า ประเทศมีวิกฤติเศรษฐกิจ ก็เป็นทั้งโลก แต่ถ้าจะอ้างข้อนี้ทำไมต้องมาออกเป็นพระราชบัญญัติ ไม่ออกเป็นพระราชกำหนดไปเลย ขณะที่การตั้งงบประมาณไม่ทันนั้น ยิ่งไม่เข้า เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ยังอยู่ในวาระการพิจารณาตั้งงบฯ ของหน่วยงานราชการ ยังไม่เสนอต่อสภา ถ้าจะใช้ช่องทางนี้รัฐบาลสามารถบรรจุโครงการเข้าไปในงบฯ 2567 ได้เลย แต่ที่ไม่ทำเพราะจะทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณขาดดุลอย่างบักโกรก ขาดดุลมหาศาล จึงมาใช้วิธีออกพ.ร.บ.กู้เงินแทน
“พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 9 กำหนดไว้ชัดเจน ว่าการดำเนินโครงการจะต้องไม่เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมือง แต่การแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท นายกฯ มาแถลงว่าจะทำโครงการนี้ แล้วบอกว่าจะไปหารือกับกฤษฎีกา ทำไมจึงไม่หารือให้มีความชัดเจนก่อนว่าทำได้หรือไม่ได้ แล้วค่อยมาแถลงเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องของการเมืองล้วน ๆ เป็นการหวังสร้างความนิยมทางการเมืองชัดเจน ไม่มีเจตนาจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ไม่มีเหตุผลอื่นเลย นายกฯ พูดมาตลอดว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจมีความรู้ความสามารถบริหารกิจการเรียลเอสเตสมีกำไรมากมาย จึงสามารถบริหารจัดการเงินที่จะเอามาใช้ในโครงการนี้ได้ การที่จะออกพ.ร.บ.เงินกู้เพื่อใช้โครงการนี้ ทำให้คนไทยต้องจ่ายภาษีใช้หนี้ให้โครงการนี้ ไม่ว่าจะยากดี มีจน แม้แต่คนที่ไม่เข้าข่ายว่าจะต้องได้เงิน 1 หมื่นบาท ต้องมาร่วมใช้หนี้ด้วย ฉะนั้นความเป็นนักบริหารมืออาชีพที่อ้างก็เป็นเพียงโฆษณาช่วนเชื่อ หลอกลวงประชาชนมาโดยตลอด จะใช้เงินแล้วใช้การกู้เงินแบบนี้เด็กอมมือก็กู้ได้ ไม่ต้องป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากู้หรอก” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การยื่นเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประชาชนทำเองไม่ได้ ตนจึงมายื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และในวันพุธที่ 15 พ.ย.นี้ตนจะไปยื่นเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะตอนยื่นนโยบายที่จะใช้หาเสียงต่อกกต. จะไม่ใช้เงินกู้ จะใช้เกลี่ยจากกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ และ ใช้เงินสำรองที่มีอยู่กว่าแสนล้านบาท ไม่เกี่ยวกับการกู้เงินเลย ซึ่งตนก็โอเคถ้าไม่ไปกู้มาแจก ก็พอจะหยวนๆ กันได้ แต่กลับมาออกพ.ร.บ.เงินกู้ อาจจะขัดกับมาตรา 57 พ.ร.ป.พรรคการเมืองและการที่ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่กู้ แต่สุดท้ายมาแถลงจะกู้ สะท้อนว่า เป็นผู้นำประเทศ กำลังสร้างผลประโยชน์ส่วนตัว เข้าข่ายขัดจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง ซึ่งจะไปยื่น ป.ป.ช. ในวันศุกร์ 17 พ.ย.นี้ ซึ่งเรื่องนี้ ศรีสุวรรณปล่อยไปไม่ได้ และจะร้องทุกหน่วยงาน
ด้าน นายปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้มีคำร้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่ที่ผู้ตรวจฯ 5 เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้ตรวจฯ เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ก็ต้องเร่งรัดการพิจารณาเรื่องร้องเรียนให้เร็วที่สุด แต่ไม่สามารถตอบได้ว่า จะใช้เวลานานเท่าใด.-สำนักข่าวไทย