ร้องผู้ตรวจฯส่งศาลรธน.วินิจฉัยเงินดิจิทัล

ผู้ตรวจการแผ่นดิน 13 พ.ย.- “ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาส่งศาลรธน.วินิจฉัยโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ขัดมาตรา 140 รัฐธรรมนูญ กฎหมายการเงินการคลัง ชี้หวังผลการเมืองชัดเจน ผิดจริยธรรมร้ายแรง  


นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีรัฐบาลตราพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 140 ประกอบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2560   มาตรา 53 หรือไม่ โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรับหนังสือ

“ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง พูดมาตลอดว่า จะไม่กูเงินมาเพื่อทำโครงการนี้ แต่วันนี้กลับกลืนน้ำลายตัวเอง ใช้ช่องทางการกู้เงินมาแจก เพื่อหวังความนิยมทางการเมืองเท่านั้น นอกจากเป็นการตระบัดสัตย์ของผู้นำประเทศ ยังเป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 ซึ่งกำหนดไว้ชัดเจนว่า การจะกู้เงิน จะทำได้เฉพาะที่เป็นไปตามกฎหมายว่า ด้วยเงินงบประมาณ หรือที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายวินัยการเงินการคลัง เว้นแต่มีกรณีจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งต้องไปดูพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง โดยมาตรา 53 เขียนชัดเจนว่าการจะกู้เงิน นอกจากต้องมีเหตุตามกฎหมายว่า ด้วยการบริหารหนี้สาธารณะแล้ว จะมีเงื่อนไขว่าต้องมีเหตุเร่งด่วน และต้องใช้ความต่อเนื่องในการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ และตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน แต่ ณ วันนี้ สถานการณ์ของประเทศไม่มีเหตุอะไรจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องกู้เงินเลย” นายศรีสุวรรณ กล่าว


นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแถลงมาโดยตลอดว่าจะใช้เงิน 5 แสนล้านบาทครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วจบเลย จึงไม่ใช่เรื่องของความต่อเนื่อง แต่ที่จะต่อเนื่องก็มีแค่คนไทยทั้ง 70 ล้านคนต้องมาใช้หนี้และดอกเบี้ยเงินกู้ในภายหลัง ส่วนการแก้ปัญหาวิกฤติเศษฐกิจประเทศยังห่างไกลมาก แต่ถ้าจะอ้างว่า ประเทศมีวิกฤติเศรษฐกิจ ก็เป็นทั้งโลก   แต่ถ้าจะอ้างข้อนี้ทำไมต้องมาออกเป็นพระราชบัญญัติ ไม่ออกเป็นพระราชกำหนดไปเลย ขณะที่การตั้งงบประมาณไม่ทันนั้น  ยิ่งไม่เข้า เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ยังอยู่ในวาระการพิจารณาตั้งงบฯ ของหน่วยงานราชการ ยังไม่เสนอต่อสภา ถ้าจะใช้ช่องทางนี้รัฐบาลสามารถบรรจุโครงการเข้าไปในงบฯ 2567 ได้เลย แต่ที่ไม่ทำเพราะจะทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณขาดดุลอย่างบักโกรก ขาดดุลมหาศาล จึงมาใช้วิธีออกพ.ร.บ.กู้เงินแทน

“พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 9 กำหนดไว้ชัดเจน ว่าการดำเนินโครงการจะต้องไม่เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมือง แต่การแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท นายกฯ มาแถลงว่าจะทำโครงการนี้ แล้วบอกว่าจะไปหารือกับกฤษฎีกา ทำไมจึงไม่หารือให้มีความชัดเจนก่อนว่าทำได้หรือไม่ได้ แล้วค่อยมาแถลงเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องของการเมืองล้วน ๆ เป็นการหวังสร้างความนิยมทางการเมืองชัดเจน ไม่มีเจตนาจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ไม่มีเหตุผลอื่นเลย นายกฯ พูดมาตลอดว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจมีความรู้ความสามารถบริหารกิจการเรียลเอสเตสมีกำไรมากมาย จึงสามารถบริหารจัดการเงินที่จะเอามาใช้ในโครงการนี้ได้ การที่จะออกพ.ร.บ.เงินกู้เพื่อใช้โครงการนี้ ทำให้คนไทยต้องจ่ายภาษีใช้หนี้ให้โครงการนี้ ไม่ว่าจะยากดี มีจน แม้แต่คนที่ไม่เข้าข่ายว่าจะต้องได้เงิน 1 หมื่นบาท ต้องมาร่วมใช้หนี้ด้วย ฉะนั้นความเป็นนักบริหารมืออาชีพที่อ้างก็เป็นเพียงโฆษณาช่วนเชื่อ หลอกลวงประชาชนมาโดยตลอด จะใช้เงินแล้วใช้การกู้เงินแบบนี้เด็กอมมือก็กู้ได้ ไม่ต้องป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากู้หรอก” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การยื่นเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประชาชนทำเองไม่ได้ ตนจึงมายื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  และในวันพุธที่ 15 พ.ย.นี้ตนจะไปยื่นเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะตอนยื่นนโยบายที่จะใช้หาเสียงต่อกกต. จะไม่ใช้เงินกู้ จะใช้เกลี่ยจากกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ และ ใช้เงินสำรองที่มีอยู่กว่าแสนล้านบาท ไม่เกี่ยวกับการกู้เงินเลย ซึ่งตนก็โอเคถ้าไม่ไปกู้มาแจก ก็พอจะหยวนๆ กันได้ แต่กลับมาออกพ.ร.บ.เงินกู้ อาจจะขัดกับมาตรา 57 พ.ร.ป.พรรคการเมืองและการที่ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่กู้ แต่สุดท้ายมาแถลงจะกู้ สะท้อนว่า เป็นผู้นำประเทศ กำลังสร้างผลประโยชน์ส่วนตัว เข้าข่ายขัดจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง ซึ่งจะไปยื่น ป.ป.ช. ในวันศุกร์ 17 พ.ย.นี้ ซึ่งเรื่องนี้ ศรีสุวรรณปล่อยไปไม่ได้ และจะร้องทุกหน่วยงาน


ด้าน นายปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้มีคำร้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่ที่ผู้ตรวจฯ 5 เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้ตรวจฯ เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ก็ต้องเร่งรัดการพิจารณาเรื่องร้องเรียนให้เร็วที่สุด แต่ไม่สามารถตอบได้ว่า จะใช้เวลานานเท่าใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย