“พิธา” เยือนพบพระ-แม่สอด รับฟังปัญหา

ตาก 11 พ.ย. – “พิธา” เยือนพบพระ-แม่สอด รับฟังปัญหาเด็กรหัสจีและการค้าชายแดน ให้คำมั่น “ก้าวไกล” พร้อมผลักดันแก้ปัญหา มองเป็นโอกาสของอาเซียนที่ต้องพัฒนาร่วมกัน


วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยคณะ สส. จากจังหวัดตาก และ สส.บัญชีรายชื่อ ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านแม่ปะเหนือ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 297 คน คิดเป็นเด็กสัญชาติไทย 20% เด็กเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยง จำนวน 20% และเด็กมุสลิมเมียนมา 60% นักเรียนเมียนมาบางส่วนยังไม่ได้รับรหัสเลขประจำตัวเพื่อใช้ในระบบการศึกษา (รหัส G) โดยสถานการณปัจจุบัน เด็กรหัส G ทั้งประเทศมีทั้งสิ้น 120,000 คน มีเพียง 30,000 คนที่ได้รับเลข 13 หลักแล้ว

ทั้งนี้ จังหวัดตาก เป็นจังหวัดที่มีลูกหลานแรงงานข้ามชาติหนาแน่นที่สุดในประเทศไทย มีการจัดการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนรัฐบาล และศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้เข้าระบบโรงเรียน (หรือ Migrant Learning Center) มากกว่า 64 แห่ง


พิธากล่าวระหว่างประชุมรับฟังปัญหาว่า หลังจากเดินทางมาเยี่ยมชมโรงเรียนแม่ปะเหนือ ตนเห็นกระบวนการการทำงานของโรงเรียน และทราบว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในการจัดการกับปัญหาและช่วยเหลือเด็กๆ เห็นว่ามีการทำงานกันมาโดยตลอดในการช่วยเด็กนักเรียนไม่ว่าจะเป็นสัญชาติไหน กลุ่มที่ 1 คือโรงเรียนรัฐ กลุ่มที่ 2 คือศูนย์การเรียนรู้ (หรือ MLC) ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีข้อดีต่างกัน หากอยู่ในโรงเรียนในระบบ เด็กจะสามารถเติบโตและใช้ชีวิตในประเทศไทยได้ง่ายกว่า ขณะที่ MLC จะยืดหยุ่นมากกว่าในการรับเด็กที่เกินอายุ หรือเด็กที่ไม่มีเอกสารแสดงตน หรือเด็กที่เข้ามาในช่วงเวลาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่วงที่โรงเรียนรับสมัคร

พิธากล่าวว่า ตนได้รับเรื่องแล้ว จะนำไปคิดร่วมกับ ครูจวง ปารมี ไวจงเจริญ ซึ่งเป็นผู้เสนอญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย หรือ “เด็กรหัส G” ซึ่งญัตติดังกล่าวถูกสภาฯ ปัดตก ไม่ได้รับความเห็นชอบ ขณะเดียวกัน ต้องขอชื่นชมความพยายามของชาวแม่สอดที่มีการตั้งศูนย์ประสานงานในการรับนักเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน และสามารถจัดการศึกษาได้ตามแนวคิด Education for all ได้เป็นอย่างดี แม้จะมีข้อจำกัดหลายประการ

พิธา ทิ้งท้ายว่า ในมุมมองของพรรคก้าวไกล เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาของประเทศไทยหรือประเทศเมียนมาเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของประชาคมอาเซียน ในอดีตการบริหารกิจการชายแดน จะคิดในกรอบความมั่นคงระดับชาติ (National Security) แต่สำหรับตน มองว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ (Human Security) โดยเฉพาะหากมองว่าเราเป็นประชาคมอาเซียนที่มีอาณาเขตติดกัน รวมถึงเศรษฐกิจของไทย หากไม่มีพี่น้องชาวเมียนมา ลาว มาทำงาน เศรษฐกิจไทยก็ไปต่อไม่ได้ พรรคก้าวไกลจึงไม่เคยมองว่าเรื่องของพี่น้องในประเทศเพื่อนบ้านเป็นภาระของเรา แต่มองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาอาเซียนไปด้วยกัน


พิธากล่าวต่อว่า ผู้นำประเทศควรมองเห็นโอกาส ในมุมสิทธิมนุษยชน เรื่องนี้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประเทศไทยต้องโอบรับสนับสนุน เป็นโอกาสที่จะทำให้เด็กไทยได้อยู่ในสังคมพหุวัฒนธรรม สำหรับพรรคก้าวไกลหวังว่าจะมีโอกาสได้ขับเคลื่อนประเด็นนี้อย่างยั่งยืนต่อไป

พร้อมกันนี้ พิธา และ ทีม สส. ร่วมเยี่ยมชมการเรียนการสอนของห้องเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา โรงเรียนแม่ปะเหนือ รวมถึงทักทายครูประจำและเด็กนักเรียนในโรงเรียน

ระหว่างการเยือนพื้นที่ของพิธาในวันนี้ ปารมี ไวจงเจริญ สส. บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติ (MLC) นิวโซไซตี้ อำเภอแม่สอด ซึ่งมีนักเรียน 186 คน มีหลักสูตรการเรียนเป็น 3 ภาษา คือ ไทย เมียนมา และอังกฤษ โดยนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจะได้วุฒิการศึกษาทั้งของไทยและเมียนมา ทั้งนี้ ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ ไม่ได้รับงบประมาณจากรัฐและไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายของนักเรียน แต่บริหารโดยเงินบริจาคจากชุมชน และองค์กรต่าง ๆ

ปารมี กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน นักเรียนในศูนย์การเรียนรู้ฯ มีแนวโน้มจะศึกษาต่อในประเทศไทยมากขึ้น จึงจำเป็นต้องสนับสนุนการเรียนการสอนด้วยภาษาไทยเพิ่มขึ้น และมีการช่วยเหลือให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาเข้าสู่ตลาดแรงงานในประเทศไทยหรือสามารถศึกษาต่อ เพราะฉะนั้น การเร่งรัดเรื่องการออกเลขประจำตัวของนักเรียนที่ติดรหัส G จึงสำคัญมาก ตนจะพยายามผลักดันผ่านคณะกรรมาธิการการศึกษาฯ ของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ