เปิดทรัพย์สินฯ 3 รมต.-สุดาวรรณ รวย 805 ล้านบาท

ป.ป.ช. 10 พ.ย.-เปิดทรัพย์สิน 3 รมต. “สุดาวรรณ” รมว.ท่องเที่ยว รวย 805 ล้านบาท มีที่ดินโคราช 216 ล้านบาท เทขายหุ้นแต่ยังไม่ได้เงินอีกกว่า 459 ล้าน ด้าน รมช.พาณิชย์ รวย 308 ล้านบาท “พัชรวาท” รวย 286 ล้านบาท

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา 1 และเข้ารับตำแหน่ง  สส. จำนวน 49 ราย โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เมื่อ 5 ก.ย.66  แจ้งว่าตนเองและนางสมถวิล วงษ์สุวรรณ คู่สมรส  มีทรัพย์สินรวม 286,958,024 บาท   ไม่มีหนี้สิน เป็นทรัพย์สินของพล.ต.อ.พัชรวาท 123,682,269 บาท   ประกอบด้วยเงินสด  5 แสน    เงินฝาก 12  บัญชีรวม  79,198,650 บาท   เงินลงทุน 5  แสนบาท  ที่ดิน  4 แปลงในกรุงเทพฯและนนทบุรี   รวมมูลค่า  10,135,500 บาท   โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2  หลัง เป็นบ้านพักและอาคารอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ 16 ล้านบาท   ยานพาหนะ  8,574,000 บาท   สิทธิและสัมปทาน 1 ,176,619 บาท   ทรัพย์สินอื่นๆ  มูลค่า   7,597,500 บาท   เป็นพระสมเด็จพระเลี่ยมกรอบทอง เหรียญทอง เหรียญรัชกาลทอง รวม 82 องค์  และสร้อยทอง  1 เส้น   และแจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 647,140 บาท   จากเงินเดือน สตช. มีค่าใช้จ่ายต่อปีรวม 5 แสนบาท    เป็นค่าน้ำมันรถและค่าอุปโภคบริโภค


ส่วนนางสมถวิล    มีทรัพย์สินรวม 163,275,755 บาท  แบ่งเป็นเงินสด  5  แสนบาท     เงินฝาก 6  บัญชีมูลค่า  115,656,500 บาท    เงินลงทุนในตราสาร หุ้นกู้ กองทุนเปิดรวม  31,165,887 บาท   ที่ดินใน จ.ลพบุรี 320,000 บาท    โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง    เป็นบ้านพักใน จ.ลพบุรี 300,000 บาท   ยานพาหนะ 320,000 บาทสิทธิและสัมปทาน 1,374,365 บาท    ทรัพย์สินอื่น 13,630,000 บาท  เช่น ต่างหูเพชร 4 คู่แหวนเพชร 3 วง  สร้อยพร้อมจี้เพชร 2 เส้น จี้เพชร 1 อัน     สร้อยเพชร 1 เส้นนาฬิกา 3 เรือนกระเป๋า 12 ใบ กำไลเพชร 2 วง

นายนภินทร ศรีสรรพางค์   กรณีเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.66  แจ้งว่าตนเองและนางวีณา ศรีสรรพางค์ คู่สมรส    มีทรัพย์สินรวม 308,500,951  บาท   ไม่มีหนี้สิน  โดยเป็นทรัพย์สินของนายนภินทร 244,181,244 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 4 บัญชี รวม 7,581,646 บาท เงินลงทุน  10 ล้านบาท  ที่ดิน 13 แปลงใน  จ.ราชบุรี 96,411,597 บาท   โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพัก 1 หลัง  ใน  จ.ราชบุรี 70 ล้านบาท    ยานพาหนะ 2,568,000 บาท  โดยเป็นเรือยนต์มูลค่า 240,000 บาท   และรถตู้  2,328,000 บาท    ทรัพย์สินอื่น 57,620,000 บาท   เช่น  พระเครื่อง 28 องค์  ในจำนวนนี้เป็นสมเด็จพิมพ์พระประธานและสร้อยทองคำขาวมูลค่า 43 ล้าน   พระสมเด็จฐานแซมมูลค่า 2 ล้าน  พระหลวงพ่อคง  วัดบางกะพ้อม  พร้อมสร้อย 5 บาทมูลค่า 1.64 ล้านบาท   สมเด็จกรุ วัดพลับ พิมพ์พิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท และยังมีงาช้าง 1 คู่ปืน 7 กระบอก  และแจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 1,974,000 บาท   จากเงินเดือนบริษัท 1.2 ล้านบาท    เงินเดือนจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 600,000 บาท เงินจากกองทุนเพื่อผู้ที่เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา 171,600 บาทกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 2400 บาท และมีรายจ่ายต่อปีประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 600,000 บาท


ส่วนนางวีณามีทรัพย์สินรวม 64,319,707 บาทแบ่งเป็นเงินฝาก  7 บัญชี รวม  10,167,497 บาท    เงินลงทุน 9,350,000 บาท   ที่ดิน 1 แปลงในอ.ถลาง จ.ภูเก็ต 19,908,070 บาท ยานพาหนะ 4,008,240 บาท   ทรัพย์สินอื่น 20,885,900  บาท   เช่น    ทองคำแท่ง 210 บาท  มูลค่า 6,793,500 บาท   แหวนเพชร ต่างหูเพชร เข็มขัดทองคำ 25 บาท  ชุดเซตสร้อยคอต่างหูสร้อยข้อมือทองคำ 10 บาท นาฬิกา 6  เรือน  ทั้ง Patek Philippe  Century ,Rolex,Bvgagi    ปืน 2 กระบอกชุดเซ็ตเครื่องเพชรไพลิน   เป็นต้น  แจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 1.2 ล้านบาท เป็นเงินเดือนจากบริษัท มีรายจ่ายต่อปีประมาณ 600,000 บาท

ทั้งนี้เงินลงทุนของทั้งคู่รวม 19,350,000บาท พบว่า เป็นการลงทุนใน 9 บริษัท   ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว   ช่วงวันที่  4-7  ส.ค.66  โดยนายนภินทร เป็นเจ้าของตลาดศรีเมืองค้าส่งผักผลไม้ใหญ่ของจังหวัดราชบุรี   อดีตเคยเป็นสว.ราชบุรี และส.ส. บัญชีรายชื่อ รวมทั้งผู้ช่วยรมต.ท่องเที่ยว

ส่วน  น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว  แจ้งกรณีเข้ารับตำแหน่ง  สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่4 ก.ค.66  ระบุสถานะโสด   มีทรัพย์สินรวม 805,400,298 บาท  แบ่งเป็นเงินสด 400,000 บาท   เงินฝาก 25 บัญชี 22,977,584 บาท    เงินลงทุน ในกองทุนเปิด  1,069,804 บาท   เงินให้กู้ยืม 459,364,000 บาท  ที่ดิน 56 แปลง   ส่วนใหญ่อยู่ใน  อ.โชคชัย อ.เสิงสาง อ. เมือง จ.นครราชสีมา  และ  กทม. รวม 216,934,380 บาท    โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นทั้งบ้านเดี่ยวและห้องชุดใน  จ.นครราชสีมาและกรุงเทพมหานคร  รวม  62,034,853 บาท ยานพาหนะ เป็นรถยนต์จำนวน 5 คัน รวม  9.9 ล้านบาท  สิทธิและสัมปทาน ส่วนใหญ่เป็นประกันชีวิตต่างๆ   25,164,676 บาท  ทรัพย์สินอื่น 7,555,000 บาท เช่น  ต่างหูเพชร 4 คู่นาฬิกา 4  เรือนทั้ง  Louis Vuitton, Cartier, Rolex ,BVLGARI, Franck Muller  กำไลข้อมือ Cartier และปืน 1 กระบอก   มีหนี้สินรวม 195,015,587 บาท    แบ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 1,290,587 บาท   และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 193,725,000 บาท


สำหรับเงินให้กู้ยืม  459,364,000 เป็นการปล่อยกู้ให้ 5 บุคคล ทั้งหมดเป็นลูกหนี้สัญญาซื้อขายหุ้น  นอกจากนี้  แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 460,957,500 บาท   โดยเป็นค่าเช่าที่ดิน 798,600 บาท   เงินเดือน   สส. 794,920 บาท รายได้ขายหุ้นแต่ยังไม่ได้รับเงิน 459,364,000 บาท   และมีรายจ่ายต่อปีรวม 6,390,224 บาทเป็นการจ่ายเบี้ยประกัน 5,390,224 บาท  และค่าอุปโภคบริโภค 1 ล้านบาท ทั้งนี้  น.ส.สุดาวรรณเป็นทายาทของ “กำนันป้อ” นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรมช.คมนาคม และรมช.พานิชย์  เจ้าของธุรกิจโรงแป้งเอี่ยมเฮง  กับนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. นครราชสีมา  โดยก่อนลงสมัคร  สส.บัญชีรายชื่อ    น.ส.สุดาวรรณดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท  แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัทเอี่ยมเฮงโมดิฟาย สตาร์ช จำกัดซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]