ปฏิเสธจำหน่ายน้ำมัน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ทำเนียบ 8 พ.ย. – รองโฆษกฯ “รัดเกล้า” ย้ำการปรับลดราคาน้ำมันเป็นมาตรการชดเชยจากภาครัฐ ผู้ประกอบการไม่อาจอ้างปฏิเสธการจำหน่ายได้ หากพบความผิดมีโทษทั้งจำทั้งปรับ


นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อกรณีที่มีการร้องเรียนการกักตุนสินค้าน้ำมัน ทำให้สินค้าน้ำมันหมดในหลายสถานีเติมน้ำมันทั่วประเทศ นั้น กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ประชาชนผู้ใช้น้ำมันได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าวว่า ภายหลังรัฐบาล โดยกระทรวงพลังงานออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ปรับลดราคาสรรพสามิตลง 1-2.50 บาท/ลิตร ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจมีพฤติกรรมการกักตุนน้ำมัน ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งว่า ภายหลังราคาน้ำมันปรับตัวลงทำให้มีผู้ใช้รถยนต์จำนวนมากเข้ามาใช้บริการ จนทำน้ำมันหมดจริง อย่างไรก็ดี กระทรวงพลังงานยืนยันว่า การปรับลดราคาน้ำมันเป็นมาตรการช่วยเหลือ และชดเชยจากภาครัฐ ไม่ได้กระทบกำไรในส่วนผู้ประกอบการ จึงไม่อาจอ้างปฏิเสธการจำหน่ายได้


“ปริมาณการใช้น้ำมันช่วงก่อนหน้าที่จะมีการลดราคาน้ำมัน โดยเฉพาะในช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน 2566 ตัวเลขเบื้องต้น มีการใช้น้ำมันลดลงกว่า 60% ซึ่งปกติน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จะมีการใช้ประมาณวันละ 17 ล้านลิตร ก็เหลือเพียงประมาณวันละ 7 ล้านลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงจากวันละ 6 ล้านลิตร เหลือวันละประมาณ 2 ล้านลิตร รวมทั้ง E20 และ E85 ก็มีปริมาณลดลงเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะประชาชนได้รับทราบข่าวสารล่วงหน้าในนโยบายการลดราคาน้ำมันเบนซิน ของกระทรวงพลังงาน จึงชะลอการใช้บริการนอกจากนั้น ก็มีการเปลี่ยนการเติมชนิดน้ำมันจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มาเป็น 91 ทำให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน” รองโฆษกฯ รัดเกล้าฯ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อสงสัย พร้อมรายละเอียดชื่อสถานีบริการ และสถานที่ตั้ง กับกรมธุรกิจพลังงาน หรือกองตรวจราชการ กระทรวงพลังงาน เพื่อประสานกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ หากผู้ประกอบการปฏิเสธการจำหน่ายในขณะที่น้ำมันยังมี จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้