“พีระพันธุ์” ปลุกสมาชิกพรรคให้มีความภาคภูมิใจในความเป็น “รวมไทยสร้างชาติ”

กรุงเทพฯ 4 พ.ย. – “พีระพันธุ์” ปลุกสมาชิกพรรค-ตัวแทน-สาขาพรรค รทสช. ให้มีความภาคภูมิใจในความเป็น “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ยึดมั่นทำงานเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนทุกคน ไม่มีแบ่งแยก ย้ำตั้ง “สถานียุติธรรม” เป็นศูนย์รวมรับและแก้ปัญหาให้ประชาชนทั้งประเทศ


ที่โรงแรมอัญชาลีน่าแกรนด์ กรุงเทพฯ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นประธานเปิดอบรมสัมมนาตัวแทนสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายใต้หัวข้อ “สถานียุติธรรม” (ศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน) โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายโกวิท ธารณา รองหัวหน้าพรรค พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผอ.พรรค พร้อมผู้บริหารพรรค สมาชิกและตัวแทนสาขาพรรค ร่วมกิจกรรมคับคั่ง

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ทุกคนได้มีโอกาสมาพบกันครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง ช่วงที่ผ่านมาทุกคนในพรรคได้ช่วยกันทำงานอย่างหนัก โดยมีเป้าหมายเพื่อการทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน ตั้งแต่ตน และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เริ่มทำพรรครวมไทยสร้างชาติมาจนถึงวันนี้เป็นเวลา 1 ปีเศษแล้ว ครั้งนั้นเป็นการเริ่มต้นแบบไม่มีอะไรเลย มีเพียงความมุ่งมั่น ความตั้งใจในการทำพรรคว่าจะไปในทิศทางไหน


นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนและนายเอกนัฏมีประสบการณ์เป็น สส.เขตมาก่อน จึงมีความใกล้ชิดกับประชาชน ทำให้ทราบว่า ประชาชนมีปัญหาแต่ไม่มีที่พึ่ง ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่มักจะส่งไปไม่ถึงผู้บริหารในระดับรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้ประชาชนคิดว่าปัญหาของพวกเขาถูกมองว่าไม่ได้รับความสำคัญ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ตนคิดว่าจะทำพรรคการเมืองอย่างไรที่สามารถช่วยเหลือประชาชน และพร้อมจะฟังปัญหาของชาวบ้าน นำปัญหาเหล่านั้นมาแก้ไขให้มากที่สุด แม้ในทางปฏิบัติจะไม่สามารถแก้ไขให้สำเร็จได้ทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าพรรคใส่ใจ พยายามแก้ไขปัญหาให้ เพื่อให้ประชาชนมีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาเหล่านั้น

“เพราะความตั้งใจในการทำงานโดยมุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชนเป็นหลัก ทำให้ไม่เคยคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องเติบโตมามีอำนาจทางการเมือง หรือต้องมี สส.จำนวนมากอย่างเดียว แต่ตั้งใจว่าจะมาช่วยกันสร้างพรรคแบบนี้สักครั้ง อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าได้พยายามทำและลงมือทำแล้ว จึงได้พยายามขายความคิดแบบนี้ให้กับทุกๆ คนที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อทำงานให้กับประชาชนในการ “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” ซึ่งเป็นความเป็นตัวตนของตนตลอดชีวิตทางการเมือง และอยากจะให้มีพรรคการเมืองที่ทำงานกันแบบนี้อย่างแท้จริง นี่คือความเป็นมาที่อยากจะให้ทุกคนได้ทราบว่าพรรคนี้ตั้งขึ้นมาไม่ใช่เพื่อแสวงหาโอกาสทางการเมืองให้กับหัวหน้าพรรค ให้กับผู้บริหารพรรคหรือสมาชิกพรรค แต่แสวงหาโอกาสทางการเมืองช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน” นายพีระพันธุ์ กล่าว

หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้งไม่เคยปรากฏข่าวว่าพรรคไปวิ่งเต้นขอเข้าร่วมรัฐบาล หรือต่อรองขอตำแหน่ง ร้องขอกระทรวงใดๆ แต่เมื่อมีโอกาสเข้าร่วมรัฐบาลก็ไม่เคยมีข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติแตกแยกเพื่อแย่งตำแหน่ง นี่คือสิ่งที่ตนรู้สึกดีใจและภูมิใจในสมาชิกพรรคทุกคน สิ่งที่ประชาชนคาดหวังวันนี้คือพรรคการเมือง และสมาชิกพรรคการเมืองที่แตกต่างจากพรรคการเมืองเดิมๆ ที่ประเทศนี้เคยมี เมื่อตนเข้ามาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีก็พยายามทำด้วยความตั้งใจมาตลอดชีวิต และตั้งใจให้เป็นภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติที่เข้ามาทำงานจริง และแก้ไขปัญหาจริง พรรคอื่นอาจจะทำไม่ได้ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติทำให้ได้ มาถึงวันนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วพรรครวมไทยต่างชาติทำได้ เมื่อมีคนมาถามว่าทำไมทำได้ ตนบอกว่าเพราะมีสมาชิกพรรคสนับสนุน เพราะประชาชนสนับสนุนและเพราะนโยบายที่ยึดมั่นอย่างเข้มข้นตลอดว่าเรามาเพื่อทำงานให้กับชาวบ้าน ถ้าไม่ได้มาเพื่อแสวงหาประโยชน์ ทุกอย่างถ้าไม่มีประโยชน์ส่วนตัวทำได้ทั้งหมด


นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า สมัยที่ตนเป็น รมว.ยุติธรรม เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ได้เห็นปัญหาแบบเดียวกัน ตอนลงไปตรวจราชการ ได้มีโอกาสอ่านหนังสือร้องเรียน พบว่าปัญหาแตกต่างกัน แต่หัวใจของปัญหาเหมือนกัน คือความเดือดร้อน ไม่มีที่พึ่ง ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร ตอนนั้นจึงได้ตั้งโครงการ “สถานียุติธรรม” ขึ้นมา เริ่มต้นด้วยการรับสมัครอาสาสมัครยุติธรรมทั่วประเทศ ดำเนินการในนามกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ามาร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อน เพราะส่วนใหญ่ไม่กล้าไปสถานีตำรวจ และไม่มั่นใจ บางคนบอกว่าเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้รับความสำคัญ จึงเป็นจุดคิดว่าถ้าหากสังคมอยู่กันแบบนี้จะอยู่ไม่ได้แน่ หากชาวบ้านรู้สึกว่าไม่มีความยุติธรรมในสังคม ก็เหมือนกับสำนวนไทยที่ว่า “คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก”

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากสังคมนี้ทำให้คนรู้สึกอึดอัดใจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความแตกแยก ตนจึงตั้งโครงการสถานียุติธรรม รับสมัครสมาชิกมาเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานียุติธรรม เพื่อทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์เวลาที่ชาวบ้านเดือดร้อน นอกจากไปที่สถานีตำรวจแล้ว ยังมีที่พึ่งก็คือกระทรวงยุติธรรม โดยโครงการสถานียุติธรรมในช่วงนั้นเรียกว่า ยุติธรรมจังหวัด มีการประสานทำงานกับยุติธรรมจังหวัด เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนสามารถให้เจ้าหน้าที่ของสถานียุติธรรม และยุติธรรมจังหวัดช่วยประสานกับหน่วยงานต่างๆ ทำให้ปประชาชนมีที่พึ่งมากขึ้น แต่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระยะต่อมา ก็มีการยกเลิกโครงการนี้ไป สมัยนั้น พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติในวันนั้น ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.ยุติธรรม เคยทำหน้าที่ในการช่วยดูแลโครงการสถานียุติธรรมมาก่อน วันนี้ต้องขอบคุณท่าน ผอ.พรรคที่นำโครงการนี้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า อยากจะย้ำวัตถุประสงค์เป้าหมายของการเข้ามาทำงานการเมืองของทุกคนว่าเข้ามาทำงานเพื่อส่วนรวม การทำงานการเมืองไม่ได้แปลว่าต้องมีตำแหน่ง ถ้าเมื่อไรรู้สึกเข้ามาเพื่ออยากมีตำแหน่งจะทำงานให้สำเร็จไม่ได้ การเข้ามาทำงานการเมืองคือ การเข้ามาเสียสละทุกอย่างที่เป็นของตัวเองเพื่อคนอื่น เช่นเดียวกับการอบรมโครงการสถานียุติธรรมที่ทำหน้าที่ทางการเมือง คือรับดูแลชาวบ้าน เพราะคือความสุขที่ได้ดูแลและได้มีโอกาสช่วยสังคมช่วยชาวบ้าน เมื่อทำงานไปแล้วจะมีโอกาสได้เป็นดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นผลพลอยได้จากการทำงาน

หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังกล่าวย้ำถึงแนวทางการสื่อสารในยุคปัจจุบันเพื่อเผยแพร่ผลงานและแนวทางการรับความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ว่า วันนี้เทคโนโลยีหรือโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสูงมาก ทางพรรคเองได้พยายามปรับปรุงแนวทางใช้โซเชียลมีเดียเพื่อประชาสัมพันธ์ เพราะเข้าถึงประชาชนได้ง่ายและเร็วกว่าในอดีต แต่หากไม่มีเนื้อหาในการเผยแพร่ก็ไม่มีประโยชน์ เนื้อหาที่สามารถนำไปใช้ในโซเชียลมีเดียได้ก็คือ การทำงาน การเข้าไปดูแลประชาชน การเข้าไปดูแลพื้นที่ การเข้าใจปัญหาการรู้วิธีแก้ไขปัญหา และการมีทีมงานที่ดีที่จะช่วย แต่โลกของความเป็นจริงไม่เคยเปลี่ยนคือต้องทำงาน ฉะนั้นสมาชิกพรรคไม่ว่าจะเป็นในระดับใดก็ต้องทำงานในพื้นที่ ขยันดูแลพื้นที่ ถ้าไม่มีผลงานมาปรากฏก็ไม่มีประโยชน์เลย

“การทำงานอย่าเอาการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจของทุกคนมาด้วยความตั้งใจช่วยจริงๆ เขาจะเลือกพรรคเราหรือไม่เลือกไม่ใช่ปัญหา ถ้าเขาเป็นประชาชนเราต้องดูแล อย่าแบ่งแยกคน การที่เราจะเป็นพรรคการเมืองที่ดีเราต้องไม่แบ่งแยก ทุกคนคือคนไทย เป็นคนของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งหมด ขอให้ทุกท่านนำแนวทางนี้ไปร่วมกันสรรค์ สร้างโครงการสถานียุติธรรมของพรรครวมไทยสร้างชาติให้เกิดความสำเร็จ ช่วยกันสร้างพรรค สร้างความศรัทธา สร้างความเชื่อมั่นในทางการเมืองให้กับประชาชนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติคืออนาคตของเขาและประเทศไทย” นายพีระพันธุ์ กล่าว

สำหรับโครงการอบรมสัมมนาตัวแทนสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “สถานียุติธรรม” (ศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน) จัดขึ้นในวันที่ 4-5 พฤศจิกายน ภายในงานเป็นการอบรมให้ความรู้ในประเด็นเชิงกฎหมาย และ แนวทางการดำเนินการด้านการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ เช่น บทบาทการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายโกวิทย์ ธารณา รองหัวหน้าพรรค, แนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย “สถานียุติธรรม คือ สถานีของประชาชน” โดยนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ “ทนายบอน” อดีตผู้สมัคร สส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ และการบรรยายเรื่องเศรษฐกิจไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ อดีต ผู้สมัคร สส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]