ทำเนียบรัฐบาล 2 พ.ย.-“สมศักดิ์” หารือ ผอ.ใหญ่ด้านทรัพยากรน้ำ ธนาคารโลก พร้อมช่วยศึกษาแก้ปัญหาแบบยั่งยืน หลังมีข้อมูลว่าแก้ต้นน้ำได้ผลมากสุด ช่วยทั้งน้ำท่วม-แล้ง พร้อมขอช่วยสนับสนุนข้อมูล แก้ปมน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือกับนายสาโรจ คุมาร์ จาร์ ผู้อำนวยการใหญ่ด้านภารกิจทรัพยากรน้ำ ธนาคารโลก และนายฟาบริซิโอ ซาโคเน ผู้จัดการธนาคารโลก ประจำประเทศไทย ในเรื่องความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยทางธนาคารโลก มีความยินดีที่จะเข้ามาช่วยประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำ เพราะประเด็นความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำ เขามองว่า เป็นสิ่งที่สำคัญมาก จึงพร้อมเข้ามาทำงานร่วมกัน และสนับสนุนองค์ความรู้จากการศึกษาและแก้ปัญหาเรื่องน้ำมาทั่วโลกแล้ว
“เป็นสิ่งที่ดี ที่ธนาคารโลก จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการน้ำ ผมได้เสนอให้ช่วยศึกษาการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำว่า จะทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อช่วยลดผลกระทบเวลามีฝนตกหนักและน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหาย รวมถึงเวลาหน้าแล้ง ก็ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร ซึ่งผมอยากให้ธนาคารโลก ช่วยศึกษาอย่างละเอียด พร้อมแนะนำว่า ควรทำโครงการอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่า เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่แต่ละครั้ง ได้สร้างความเสียหายจำนวนมาก อย่างผลการศึกษาน้ำท่วม ปี 2554 มีความเสียหายกว่า 1.4 ล้านล้านบาท โดยถ้าธนาคารโลก เข้ามาช่วยศึกษา จะเป็นผลดีกับประเทศไทยมาก เนื่องจากมีข้อมูลสถิติในการแก้ปัญหาของหลายประเทศมาแล้ว ก็จะทำให้การศึกษาวิเคราะห์มีความแม่นยำ และแก้ปัญหาได้ตรงจุดอย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ ทางธนาคารโลกยืนยันว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ได้ผลมากที่สุด เพราะจะช่วยตั้งแต่เรื่องน้ำท่วม และการเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้งได้ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร จึงจะช่วยศึกษาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน รวมถึงจะช่วยสนับสนุนข้อมูลเรื่องน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง เพราะมีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ เช่น บางขุนเทียน ที่พบชายฝั่งถูกกัดเซาะเข้ามากว่า 1 กิโลเมตร จึงพร้อมที่จะนำผลการศึกษาของต่างประเทศมาช่วยแก้ปัญหา โดยตนได้ขอบคุณธนาคารโลก ที่ให้การสนับสนุนประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งมีบทบาทสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก เพราะได้ช่วยพัฒนาในหลายด้าน ทั้ง บริหารจัดการน้ำ และการก่อสร้างถนน โดยถือว่าเป็นความร่วมมือที่เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย