ค้านตั้ง “ช่อ” ที่ปรึกษากมธ.มั่นคงฯ   

รัฐสภา 2 พ.ย.-“ปภส.” ร้อง ปธ.สภาฯ ยับยั้งตั้ง “ช่อ พรรณิการ์” นั่งที่ปรึกษา กมธ.ความมั่นคงฯ ลั่นพร้อมดำเนินคดีถึงชั้นศาล


 นายทรงชัย เนียมหอม กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) นายกวิน ชาตะวนิช ประธานกลุ่มศรีสุริโยไท และนายอัครวุฒิ ไกรศรีสมบัติ (เต้ อาชีวะ) ประธานกลุ่มอาชีวะราชภักดี พร้อมคณะ ยื่นหยังสือร้องเรียนถึง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีกรรมาธิการความมั่นคง แต่งตั้งน.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา กมธ.ความมั่นคง โดยมี นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ เป็นผู้รับเรื่องแทน

นายกวิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2566 นายปิยรัฐ จงเทพ โมษกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงการประชุมของคณะกรรมาธิการครั้งที่ 4 ที่มีมติให้มีการแต่งตั้งรายชื่อทั้งหมด 4 รายชื่อ ขึ้นมาเพื่อดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ปรากฏชื่อน.ส.พรรณิการ์  ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแดงที่ คมจ. 5/2566 ลงวันที่ 20 ก.ย. 2566 เพิกถอนสิทธิการสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 235 วรรคสาม วรรคสี่ คำพิพากษาครั้งนั้น เผยแพร่ไปทั่วประเทศ แต่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯกลับฝืนคำสั่งศาลฎีกาอันเป็นศาลสูงสุดของไทย


“การกระทำดังกล่าวนี้คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯร่วมกันใช้อำนาจโดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้ผู้ใดผู้หนึ่งได้รับเอกสิทธิพิเศษ รวมทั้งคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯต่างเป็นผู้ต้องรู้ เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งทางกฎหมาย เชี่ยวชาญด้านข้อมูลข่าวสาร ดังนั้น การกระทำลักษณะนี้ถือเป็นการใช้อำนาจไปในทางทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ กลุ่มภาคีราชภักดีจึงเดินทางมาเข้าร้องเรียนต่อนายวันมูทะมัดนอร์ ประธานสภาฯ ได้แสวงหาความจริงด้วยอำนาจที่รัฐธรรมนูญมอบให้แล้ว ขอนายวันมูหะมัดนอร์ ใช้อำนาจนั้นเพื่อคงไว้ซึ่งความเที่ยงธรรมของการเป็นประมุขฝ้ายนิติบัญญัติ รักษาไว้ซึ่งสถาบันรัฐสภาที่ทรงเกียรติ ยืดมั่นในรูบแบบการปกครองระบอบประชาธิปโตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หากพบการกระทำความผิดตามหลักฐานที่นำส่งท่านแล้วทั้งหมดขอท่านวินิจฉัยชี้ขาดและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยไม่เลือกปฏิปัติต่อผู้หนึ่งผู้ใด” นายกวิน กล่าว

ด้านนายอัครวุฒิ กล่าวว่า คณะกมธ.ชุดความมั่นคงแห่งรัฐ แต่งตั้งบุคคลที่ศาลได้เพิกถอนสิทธิ์ ซึ่งไม่ทราบว่าจะขัดต่อกระบวนการอะไรหรือไม่ แต่ในฐานะที่เราเป็นประชาชนอยากทราบว่าขัดต่อศาลหรือไม่  เรามาหาความจริงกัน และอย่าเงียบหายไปกับเรื่องที่เราส่งไปวันนี้ ทั้งนี้ เรารู้อยู่แล้วว่าความมั่นคงแห่งรัฐคืออะไร ประเทศไทยมีความมั่นคงการยุบกอ.รมน.ก็ไม่ถูก แต่เป็นประธานกมธ.ฝ่ายความมั่นคง จึงอยากถามไปถึงประธานกมธ. ความมั่นคง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตอบคำถามตนว่าเพจที่คอยปล่อยข่าวปลอม เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ มีแนวทางป้องกันอย่างไร  คิดว่าเพจเหล่านี้เป็น io ของรัฐบาลหรือไม่ และคิดว่าเพจเหล่านี้ สร้างความแตกแยกบนสังคมหรือไม่ เพจเหล่านี้กระทบความมั่นคงหรือไม่ สุดท้ายที่ตนต้องการคำตอบจาก นายรังสิมันต์ คือ ตนหวังว่าจะไม่เงียบเหมือนตัวปารีส ที่ท่านพยายามหลีกเลี่ยงอยู่ตลอด จาก อาชีวะราชภักดี และกลุ่มภาคีราชภักดี

เมื่อถามว่าตำแหน่งที่ปรึกษาประธาน กมธ.หรือที่ปรึกษากมธ.ต่าง ๆ ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง แต่เป็นตำแหน่งที่ กมธ.จะเชิญใครมาก็ได้ นายอัครวุฒิ ย้อนถามกลับว่า คณะกมธ.ความมั่นคง เป็นการเมืองหรือไม่  เป็นที่ปรึกษาคณะกมธ.ไม่ใช่การเมืองตรงไหน ซึ่งทุกคนรู้ จะมาบอกว่าตีกิน ตรรกะแปลก ๆ ป่วน ๆ   มันไม่ได้ ทั้งนี้ ตนไม่รู้ข้อกฎหมายเชิงลึก จึงมาสอบถามแสวงหาความรู้ว่า เป็นที่ปรึกษาแต่โดนศาลตัดสิทธิ์ทางการเมือง สามารถมาเป็นที่ปรึกษากมธ. ได้ใช่หรือไม่ หากตำแหน่งไม่ผิด สามารถเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองได้ มันไม่ผิดก็ว่ากันไป ประชาชนจะได้รับรู้ด้วยกัน  


ส่วนด้านนายทรงชัย กล่าวว่า กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ ตนไม่ทราบว่าพิจารณาอย่างไรให้พรรคก้าวไกลดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ สส.พรรคเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงแห่งรัฐ “เยอะมาก” ซึ่งตนได้ประสานงานไปยัง นายวันมูหะมัดนอร์แล้ว แต่กลับบ่ายเบี่ยงมาพบกับตน และเจ้าหน้าที่หน้าห้อง ก็บ่ายเบี่ยงที่จะลงมาหาตน ท่านกลัวอะไร ตนเป็นประชาชน แต่กลุ่มที่สาดสี เทสี หน้ารัฐสภา กลับออกมาต้อนรับเหมือนญาติมิตรลูกหลาน แต่กลุ่มที่มาปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กลับไม่มาพบ ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อวาน(1พ.ย.) ตนได้ท้วงไปที่หน้าห้องนายวันมูหะมัดนอร์  แต่ก็ไม่มาพบกับตน หลังจากนี้ ตนและคณะจะเดินทางไปแจ้งความ ปธ.กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ “ทั้งชุด” หากนายวันมูหะมัดนอร์ ไม่จัดการ ก็จะถูกแจ้งความเพิ่มอีก 1 คน

เมื่อถามว่า สิ่งที่อยากเห็นเป็นรูปธรรมจาก นายวันมูหะมัดนอร์ คือ อยากให้ถอดถอนน.ส.พรรณิการ์ออกจากเป็นที่ปรึกษา ของ กมธ.ชุดนี้ใช่หรือไม่ นายทรงชัย กล่าวว่า ถูกต้อง ให้ยับยั้งการแต่งตั้ง ซึ่งตนได้โทรหานายวันมูหะมัดนอร์ และได้รับการยอมรับว่ามีการแต่งตั้งจริง แต่ยังไม่ส่งเอกสารเข้ามา เมื่อยังไม่มีการแต่งตั้ง ประธานยังไม่อนุญาต แต่บอกว่าแต่งตั้งแล้ว ทำให้ประชาชนตกใจ

นายทรงชัย กล่าวว่า หากกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ ไม่ใช่การเมือง แล้วมานั่งทำไมในสภา แล้วแต่งตั้งน.ส.พรรณิการ์ ซึ่งใช้งบรัฐสภา ภาษีของประชาชน และทำงานภาคการเมือง ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมืองตรงไหน ซึ่งมันไม่ใช่ สุดท้ายแล้วก็คือการเมือง จะหาข้ออ้างไหนว่าไม่ใช่การเมือง ก็ไม่มี หากมีก็ฟ้องร้องตน และตนจะสู้ หนีตนให้พ้นแล้วกัน พร้อมฝากถึงนายวันมูหะมัดนอร์ หนีหน้าตนให้ได้ตลอด และครั้งหน้าเจอกันอีก

เมื่อถามว่า หากไม่ได้รับความพึงพอใจจะทำอย่างไรต่อไป นายทรงชัย กล่าวว่า ตนมาร้องเรียน ไม่ได้ทำอะไรเป็นการละเมิดกฎหมาย หากไม่สามารถยับยั้งระงับเหตุเรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษากมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ ได้ แสดงว่าคุณรู้เห็นเป็นใจ ตั้งแต่คณะกรรมการทั้งหมด กมธ.ทั้งหมด จนถึงประธานรัฐสภา ก็ไปต่อสู้กับตนไม่ชั้นศาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย