กอ.รมน. 31 ต.ค.- นายกฯ ยืนยัน ไม่มีความตั้งใจยุบ กอ.รมน. ไม่อยู่ในนโยบายรัฐบาล ชมกองทัพเดินหน้า “หนองวัวซอโมเดล” แบ่งที่ดินทหารให้ประชาชนทำกิน มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 25 ธ.ค.นี้ ลั่นคุยกองทัพไม่มีเรื่องการเมือง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า เป็นการประชุมร่วมกับ กอ .รมน.ครั้งแรก ซึ่งหลังจากได้พูดคุยกับกองทัพแล้ว อยากเพิ่มบทบาทในหลายมิติ วางรากฐาน สร้างความพร้อมให้กับประเทศไทย เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชน รวมถึงความมั่นคงที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ประเด็นแรกคือ ต้องช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติ ระดมสรรพกำลัง รวมถึงทรัพยากรและเครื่องมือของกองทัพ ร่วมกับส่วนราชการเพื่อช่วยเหลือประชาชน
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ และมองว่ากองทัพมีความปรารถนาดี ซึ่งมีการพูดคุยตั้งแต่วันแรกๆ ที่ตนเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือการแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน โดยนำที่ดินของหน่วยทหารที่เกินความจำเป็นมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะที่ดินทำการเกษตร ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสร้างรายได้ สร้างโอกาสและความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ พร้อมขอชื่นชมกองทัพได้นำนโยบายการนำที่ดินที่ดูแลภายใต้กองทัพมาดำเนินการผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล มีเนื้อที่ 9,276 ไร่ มีกำหนดส่งมอบให้กับประชาชนในวันที่ 25 ธันวาคม 2566 นี้ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนจากกองทัพไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนที่ดีที่กองทัพไทยจะได้ร่วมมือในการพัฒนาประเทศและขยายไปในพื้นที่ต่างๆ
“ส่วนตัวมีความชื่นชมในเรื่องนี้และเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันมาภายในเวลาไม่กี่เดือนก็ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ได้มีการหารือเรื่องปัญหา PM2.5 เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ปัญหานี้แล้ว จึงเห็นว่ากอ.รมน. ซึ่งมีทีมงานร่วมกับนักวิชาการการเกษตร ในการเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้มีมูลค่า แทนที่จะถูกเผาก่อให้เกิดฝุ่นพิษ จึงอยากขอให้ขยายผลอย่างจริงจัง และขอให้ส่วนราชการต่างๆ สนับสนุน เพื่อคืนอากาศสะอาด คืนคุณภาพชีวิต คืนศักดิ์ศรี และสุขภาพที่ดีต่อคนไทยทุกคน
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า การหารือกันวันนี้ ไม่มีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน. เลย ซึ่งตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก ว่า ที่มาที่ไปเรื่องนี้คืออะไร วันนี้บริบทการทำงานของ กอ.รมน. ก็เริ่มเปลี่ยนไป การคุยกันเป็นเรื่องการพัฒนาและการลดช่องว่างระหว่างกองทัพกับประชาชนให้ลดน้อยลง เช่น โครงการมอบที่ดินให้กับประชาชนที่หนองวัวซอ ก็จะขยายไปในพื้นที่อื่นด้วย พร้อมขอให้ดูด้วยว่า การมอบที่ดินไปแล้วหากไม่มีแหล่งน้ำก็ต้องดูเรื่องระบบชลประทานด้วย เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ อีกทั้งยังมีเรื่องของปัญหาภัยแล้งด้วย
“ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน.ไม่ได้อยู่ในความคิดของรัฐบาลนี้ ไม่ได้อยู่ในความตั้งใจและไม่ได้อยู่ใน นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ แม้แต่น้อย “นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลเดินเกมล่ารายชื่อประชาชนเสนอร่างกฎหมาย ยุบ กอ.รมน. นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากฟังที่ตนแถลงวันนี้ หน่วยงานรัฐที่ทำงานรวดเร็ว พูดกันอย่างผู้ใหญ่ๆ ทานข้าวกับผู้บัญชาการเหล่าทัพไปขอไปเรื่องเดียว ขอไปแป๊บเดียว เดือนครึ่งก็ออกมาแล้ว เราพูดด้วยผลงานดีกว่า อย่าไปพูดเรื่องวาทะกรรม เรื่องอื่นก็เป็นให้เรื่องของพรรคนั้นๆ ไป ให้เขาเข้าไปเข็นเข้าสู่สภาเองก็แล้วกัน ทางฝ่ายกองทัพ ฝ่ายหน่วยงานรัฐ และการเมืองที่เกี่ยวข้องเราทำงานอย่างเดียวให้ประชาชนตัดสินใจ
เมื่อถามว่าแสดงว่านายกฯไม่ได้มองว่า กอ.รมน. เป็นเครื่องมือการเมืองของรัฐบาลแต่ละสมัยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีการไปขอร้องให้โยกย้ายใครแม้แต่นิดเดียว ที่คุยบ่อยที่สุด คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด กับผู้บัญชาการทหารบก เรื่องช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่และถูกจับกุมโดยกลุ่มฮามาส ยืนยันไม่มีเรื่องการเมือง มีหลายคนที่ปิดทองหลัง อย่างนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ช่วยอย่างเต็มที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ช่วยคุยกับกรมธนารักษ์ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในการนำที่ดินสู่ประชาชน ไม่มีเรื่องใดที่เป็นเรื่องการเมือง ไม่มี ขอยืนยัน.-สำนักข่าวไทย