กรมการปกครอง 30 ต.ค. – มท.1 มอบนโยบายกรมการปกครอง ย้ำบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน จ่อออกกฎหมายคุมปืนระบุตัวตนเจ้าของทุกกระบอก ไม่เว้น จนท.รัฐ เตรียมชง ครม. เห็นชอบเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ภายใน 15 ธ.ค.นี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะตรวจเยี่ยมกรมการปกครองและหน่วยงานในสังกัด พร้อมมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกรมการปกครอง สังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ให้การต้อนรับ
ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้มารับมอบนโยบายให้กรมการปกครอง และรับฟังสรุปนโยบายของกรมการปกครอง โดยเน้นเรื่องการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พี่น้องประชาชนให้คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนดีขึ้น เช่น การจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การควบคุมอาวุธปืน การให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในอิสราเอล ฯลฯ ตามนโยบาย 10 ข้อหลักของกระทรวงมหาดไทยที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ และนโยบายของรัฐบาล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า ขณะนี้กรมการปกครองมีการติดตามอย่างใกล้ชิด บุคคลแต่ละคนมีความเคลื่อนไหวที่เป็นภัยต่อสังคมหรือทำผิดกฎหมายอย่างไร ทางกระทรวงมหาดไทยทำงานเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่างๆ แก่สาธารณได้ โดยติดตามและใช้กฎหมายควบคุมคนเหล่านี้ ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน คนเหล่านี้มีจำนวนมาก เราต้องทำงานกับภาคส่วนต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร ช่วยกันปราบปรามเพื่อให้สังคมเกิดความสงบ
ส่วนของความคืบหน้าเรื่องการควบคุมอาวุธปืนและสิ่งเทียมปืน นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มีการขอให้ออกระเบียบ เก็บอาวุธปืนไว้ในที่ปลอดภัย เช่น สนามยิงปืนให้เก็บเอาไว้ในล็อกเกอร์ ผู้ที่อยากทดลองหรือซ้อมยิงปืนก็ให้ไปใช้ในสนามยิงปืน เอาออกมาไม่ได้ จะทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น และในส่วนของการระบุตัวเจ้าของอาวุธปืนนั้น จะมีการบันทึกรอยหัวกระสุนปืนเพื่อยืนยันตัวตนเจ้าของอาวุธปืน ทั้งบุคคลทั่วไปและเจ้าหน้าที่รัฐทุกกระบอก ขณะนี้กำลังจะมีการร่าง พ.ร.บ.เสนอให้คณะรัฐมนตรีและบรรจุเจ้าสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
เมื่อถามถึงความคืบหน้านโยบายการอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะกำหนดโซนนิ่ง โดยจะเน้นในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพฯ เป็นต้น ขั้นตอนต่อมาจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในโซนที่กำหนดไว้ เรากำหนดเดดไลน์ไว้ หากทุกอย่างเรียบร้อย จะออกประกาศเป็นกฎกระทรวง และจะนำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 15 ธันวาคม นี้เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาลท่องเที่ยว
“ยืนยันว่ามาตรการทั้งหลาย ทำเพื่อผู้มีเจตนาไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะอนุญาตให้เปิดถึงกี่โมงก็แล้วแต่ ขอให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ไม่ทำผิดกฎหมาย จะเปิดถึงกี่โมงก็ไม่มีปัญหา สามารถเปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น หากมองในมิตินี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย