กทม. 15 ต.ค.-ทอ.จับมือ ก.แรงงาน อพยพคนไทยกลับประเทศ คาด 4 ชั่วโมง คัดกรองผู้ป่วย – เจ็บ ก่อนขึ้นเครื่อง ด้าน ก.แรงงาน ย้ำหากสถานการณ์รุงแรงขึ้น จะใช้มาตรการบังคับกลับ
พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดเผยว่า มีความเชื่อมั่นว่าชุดปฏิบัติการมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจอพยพประชาชนกลับจากประเทศอิสราเอลให้รวดเร็วและมีความปลอดภัยมากที่สุด สำหรับเครื่องบินที่จะใช้ในการอพยพนั้น จะมีอยู่ 2 ลำด้วยกัน นั่นก็คือ แอร์บัส 340 ของกองทัพอากาศ และอีกลำเป็นของการบินไทย ซึ่งเบื้องต้นคาดการณ์ไว้ว่าภารกิจในครั้งนี้ ทั้งขาไป และขากลับจะใช้เวลาเดินทางอยู่ที่ 12 ชั่วโมงครึ่ง โดยจะมีการบินผ่านน่านฟ้า 10 ประเทศ ที่อนุญาตให้ประเทศไทยให้บินผ่านน่านฟ้าได้ ส่วนขากลับนั้นอาจจะมีการปรับแผนเปลี่ยนเส้นทางการบิน ถ้าหากกระทรวงการต่างประเทศสามารถขออนุญาตให้เครื่องบินไทยสามารถบินผ่านน่านฟ้าประเทศใกล้เคียงได้ อาจใช้ระยะเวลาสั้นลงกว่าเดิม จาก 12 ชั่วโมงครึ่ง เหลือ 8 ชั่วโมงครึ่งได้
สำหรับความปลอดภัยในการนำเครื่องบินลงจอดนั้น ยังมีความปลอดภัยสูงสุดเนื่องจากประเทศปลายทางอนุญาตให้เครื่องบินขึ้นลงได้ แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินและมีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น นักบินได้มีการจัดทำแผนการบินไว้ทุกเส้นทางพร้อมกับยืนยันว่าน้ำมันเครื่องบินมีเพียงพอในการทำการบิน
ซึ่งเมื่อไปถึงประเทศอิสราเอล ชุดปฏิบัติการคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ในการคัดกรอง แยกคนเจ็บคนป่วย รวมไปถึงคัดกรองสุขภาพจิตด้วย
สำหรับปัญหาที่คาดว่าจะพบในตอนนี้ก็คือ เนื่องจากมีหลายประเทศส่งเครื่องบินไปรับพลเมืองของประเทศนั้นๆเหมือนกัน อาจจะทำให้การจราจรทางอากาศหรือสนามบินต้องจัดลำดับว่าจะให้ประเทศไหนนำเครื่องลงจอดก่อนหรือหลัง ทั้งนี้ทางกองทัพอากาศได้จัดเตรียมนักบินไว้อย่างพร้อมเพียงแล้ว เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอดีตนักบินกองทัพอากาศ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่การบินไทยได้อาสามาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย
โดยเครื่องบินแอร์บัส 340 ของกองทัพอากาศ ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 กองทัพอากาศในเวลา 00.30 น. และภารกิจในครั้งนี้ ชุดปฏิบัติการวางแผนไว้ว่าจะมาถึงไทยในช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคมนี้
ขณะที่นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ในขณะนี้มีแรงงานกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์การเดินทางกับทางสถานทูตฯ จำนวน 7,142 ราย จำแนกเป็น ผู้ที่ขอเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 7,058 ราย และ แจ้งความประสงค์ไม่ขอกลับ จำนวน 84 ราย แต่ถ้าหากเหตุการณ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ก็จะใช้มาตรการบังคับกลับในทันที
ส่วนแรงงานที่มีความกังวลว่าหากต้องกลับประเทศไทย ในขณะที่ยังมีสัญญากับนายจ้างอยู่ นายศักดินาถ ระบุว่า ไม่ต้องมีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะเป็นการกลับ เนื่องจากหนีสภาวะสงคราม ไม่ใช่การหนีงาน.-สำนักข่าวไทย