พรุ่งนี้ นายกฯ นั่งหัวโต๊ะช่วยคนไทยในอิสราเอล

กทม. 14 ต.ค.-นายกฯ เตรียมนั่งหัวโต๊ะประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลพรุ่งนี้ เพื่อประสานสายการบินอพยพให้ได้ 400 คน/วันตามเป้า ด้าน “โฆษก ก.ต่างประเทศ” ยันแรงงานไทยไม่ใช่เป้าหมายกลุ่มฮามาส รับนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไทยล่าช้า เพราะต้องใช้เวลานานพิสูจน์อัตลักษณ์

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวสถานการณ์ในอิสราเอล โดยระบุว่าสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรง เรามีความห่วงกังวลเรื่องการเข้าพื้นที่ภาคพื้นดินของอิสราเอล หลังจากที่อิสราเอลมีการประกาศอพยพพลเรือนออกจากภาคเหนือของฉนวนกาซาภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งคนที่อพยพออกมาก็มีจำนวนน้อยมาก ขณะที่ฝ่ายฮามาสประกาศว่านี่เป็นสงครามจิตวิทยา ขอให้ผู้คนอยู่ที่เดิม เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจับตา และจากการสถานการณ์ พบว่าทั้ง 2 ฝ่ายสูญเสียกำลังพลและพลเรือนจำนวนมาก จึงขอแสดงความเสียใจ


ขณะที่ล่าสุด กองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่าได้ส่งกำลังพลเข้าไปในเขตฉนวนกาซา ใกล้เคียงกับชายแดนอิสราเอล เพื่อพยายามค้นหาตัวประกัน โดยทางผู้ประสานงานค้นหาตัวประกันและผู้สูญหาย ของรัฐบาลอิสราเอลก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้รัฐบาลอิสราเอลได้พยายามทางการทูตเพื่อที่จะนำตัวประกันออกมา แต่ขณะนี้อยู่ในภาวะสงครามการดำเนินการใดๆ ย่อมทำได้ยาก และใช้เวลา รวมทั้งมีรายงานว่าอิสราเอลอยู่ในระหว่างการเจรจาส่งสิ่งของให้ตัวประกัน แต่ยังไม่สามารถรับประกันว่ากลุ่มฮามาสจะยอมรับหรือไม่

ส่วนความคืบหน้าผลกระทบต่อคนไทย ในพื้นที่ ต้องขอแสดงความเสียใจ เนื่องจากเช้าวันนี้ได้รับแจ้งจากทางการอิสราเอลว่ามีคนไทยเสียชีวิตอีก 3 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 24 ราย มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมเป็น 16 ราย และผู้ที่ถูกจับตัวไป 16 ราย


ในเรื่องของการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนา ทางการอิสราเอล ยังยืนยันว่าต้องใช้เวลา โดยทางสถานทูตได้ติดต่อผู้จัดการบริษัทที่ทางการอิสราเอล มอบหมายให้จัดการร่างผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติ เพื่อขอให้เร่งรัดกระบวนการต่างๆ เพื่อจัดส่งศพกลับภูมิลำเนา ซึ่งทางผู้จัดการก็ได้แจ้งว่าตระหนักดีถึงความสำคัญที่ต้องเร่งกระบวนการ แต่ทั้งนี้มีศพชาวต่างชาติจำนวนมาก แต่รับปากว่าจะพยายามดำเนินการให้โดยเร็วที่สุด และทางการอิสราเอลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนา จึงขอแจ้งญาติผู้เสียชีวิตว่าต้องมีกระบวนการโดยเฉพาะการพิสูจน์อัตลักษณ์ ซึ่งโดยปกติทางการของอิสราเอลใช้เวลาในการพิสูจน์อัตลักษณ์ถึง 7 วันในภาวะปกติ แต่ในภาวะสงครามก็จะใช้เวลามากขึ้นไปอีก

ส่วนการอพยพ ขณะนี้เป็นช่วงที่เครื่องบิน สายการบิน Fly Dubai กำลังจะขึ้นเพื่อนำคนไทยมาส่งที่สนามบินอู่ตะเภา โดยจะจอดแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ และจะมาถึงอู่ตะเภาในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) เวลาประมาณ 07.25 น. ซึ่งจะมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยองและผู้แทนกองทัพเรือไปรอให้การต้อนรับ โดยแรงงานที่มาถึงจะเดินทางต่อมายัง โรงแรม SC PARK กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะถึงในเวลา 10.00 น. ญาติสามารถไปรอรับที่นั่นได้

สำหรับจำนวนคนที่ตั้งเป้าว่าเดินทางกลับในเที่ยวบินนี้ มีจำนวน 100 ราย โดยก่อนถึงเวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง มีผู้เดินทางมารอขึ้นเครื่อง 91 ราย โดยจะต้องรอดูต่อไปว่าจะเดินทางมาเพิ่มหรือไม่ แต่เบื้องต้นมี 2 รายเปลี่ยนใจ แจ้งความประสงค์จะอยู่ต่อ ส่วนอีกจำนวนหนึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางไปที่สนามบิน


นางกาญจนา ยังเปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) สถานทูตจะอพยพคนไทยด้วยเครื่องบินของกอทัพอากาศ โดยจะออกจากกรุงเทลอาวีฟ ในเวลา 13.00 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 (บน.6)ในวันที่ 16 ตุลาคม เวลา 04.40 น. จำนวน 137 ราย

ทั้งนี้ยังมีความพยายามที่จะหาเที่ยวบินพิเศษ อีกจำนวนมาก เพื่อพยายามอพยพคนไทยให้ได้วันละ 400 คน และในการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินวันนี้ ได้หารือถึงแผนการหาเครื่องบินสายต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถอพยพแรงงานไทยได้ตามเป้าหมาย โดยวันถัดไป จะมีแรงงานไทยเดินทางกลับมากับสายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์ คาดว่ามีจำนวน 250 คน และทางรัฐบาลจะจัดเที่ยวบินพิเศษของกองทัพไทยและการบินไทยบินไปรับอย่างต่อเนื่อง

ส่วนศูนย์พักพิงชั่วคราวในอิสราเอล ทางสถานทูตไทยในอิสราเอลได้จองโรงแรมใหม่ เพื่อเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว คือที่ โรงแรมเดวิด อินเตอร์คอนติเนนทอล เทลอาวีฟ เบื้องต้นจองไว้ 100 ห้อง และมีคนไทยส่วนหนึ่งที่สถานทูตช่วยเหลือในการอพยพ เข้าไปพักในศูนย์นี้แล้ว

สำหรับผู้ที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อวานนี้ จำนวน 56 คน กลับถึงภูมิลำเนาโดยปลอดภัย ขณะที่ภาพรวมคนที่ประสงค์กลับตอนนี้มี 7,058 คน สถานทูตอยู่ระหว่างตรวจสอบ เพราะบางส่วนกรอกข้อมูลซ้ำ บางส่วนประสงค์จะอยู่ต่อ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้เวลา 16.00 น. นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเป็นประธานในการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อติดตามการทำงานของทุกหน่วยงานที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์การดำเนินการช่วยเหลือคนไทยอย่างใกล้ชิด

ส่วนกรณีแรงงานไทยส่วนหนึ่ง เปิดเผยว่ากลุ่มฮามาสพูดภาษาไทย เพื่อลวงให้ออกจากที่ซ่อน และเข้าใจว่าคนไทยอาจจะเป็นเป้าหมายนั้น นางกาญจนา ยืนยันว่าคนไทยไม่ได้เป็นเป้าหมายพิเศษ แต่เนื่องจากเป็นสถานการณ์สงคราม ก็จะมีการจับกุมคนอิสราเอล หรือคนชาติต่างๆ ขอย้ำว่าคนไทยไม่ใช่เป้าหมาย และจากการรับฟังข้อมูล คนต่างชาติไม่น่าจะเป็นเป้าหมายหลักในการทำร้าย

ส่วนกรณีกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่ามีตัวประกันเสียชีวิต 13 รายจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล มีคนไทยเสียชีวิตรวมอยู่ด้วยหรือไม่นั้น นางกาญจนา ระบุว่า จากติดตามข่าวยังไม่มีการเปิดรายชื่อ จึงยังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง หวังว่าจะไม่มีคนไทย แต่ไม่ว่าจะเป็นชาติไหนก็ไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย

ส่วนกรณีที่อิสราเอลจะปฏิบัติการภาคพื้นเพิ่มเติมจะมีผลกระทบต่อคนไทยและผู้ที่ถูกจับตัวไปหรือไม่นั้น นางกาญจนา ระบุว่าในแง่การดำเนินการยุทธการทางทหารทางภาคพื้น จะกระทบต่อทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งมีการคาดเดาว่ามีตัวประกันถูกจับและกระจายตัวตามอุโมงค์ใต้ดินต่างๆ ทุกคนมีความกังวล ซึ่งจากการติดตามข่าวทราบว่าทางการสหรัฐและสหประชาชาติ ก็พยายามขอให้อิสราเอลชะลอการปฏิบัติการ เนื่องจากการอพยพคนเป็นล้านในเวลา 24 ชั่วโมง เป็นไปไม่ได้ และคนที่อพยพออกมาจริงก็น้อยมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]